เขมรวันนี้...อย่ามัวแต่ดูถูกเพื่อนบ้าน

ภาพของประเทศบ้านที่ฝังใจคนไทยกลุ่มคลั่งชาติแม้จนทุกวันนี้คือ "ความล้าหลังป่าเถื่อน" ทั้งๆที่ประเทศไทยเองต่างหากได้ย่ำอยู่กับที่มานานถึง 8 ปีนับตั้งแต่การปฏิวัติปี 2549

ในช่วงเวลาดังกล่าวพม่าได้ย้ายเมืองหลวงใหม่ไปแล้ว แต่ยังคงมีเสียงวิจารณ์ว่าก็แค่สวยที่หน่วยราชการแต่สถานที่รอบๆเมืองใหม่ยังล้าหลัง ส่วนลาวและเขมรนั้นแค่ดึงเอาอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงงานราคาถูกไปจากไทย ทั้ง 3 ประเทศเหล่านี้ระบบสาธารณูปโภคยังไม่พร้อมเท่ากับไทยและระบบกฎหมายก็ยังล้าหลัง....นี่คือภาพในใจของคนที่วิพากษ์วิจารณ์ด้วยความประมาท...ไม่รู้ตัวเลยว่าบนความคิดที่จินตนาการเอาเองว่าเพื่อนบ้านเหล่านั้นยังป่าเถื่อน ต่อให้ประเทศไทยต้องใช้เวลาในการกวาดล้างศัตรูทางการเมืองอีกหลายปีประเทศเหล่านั้นคงจะยังตามประเทศไทยไม่ทันนั้น พัฒนาการของประเทศไทยกำลังมีปัญหาอยู่

ผมเองถึงแม้จะพอได้ข้อมูลจากวงการอุตสาหกรรมที่มีกระแสย้ายฐานการผลิตไปยังพม่าและเขมรอยู่บ้าง แต่ก็ยังนึกภาพการเปลี่ยนแปลงภาพรวมไม่ค่อยชัดเจนนัก จนกระทั่งไม่กี่วันที่ผ่านมาต้องขึ้นเครื่องบินไปทำธุระต่างจังหวัด ระหว่างทางเปิดนิตยสารประจำสายการบินนั้นฆ่าเวลาไปเรื่อยๆจนเจอภาพนี้...



เป็นโฆษณาเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติไปลงทุนและใช้บริการอาคารสำนักงานที่กำลังจะสร้างขึ้นในกัมพูชา ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าก่อสร้างไปถึงไหนแล้ว



บริษัทที่บริหารโครงการและบริหารการขายของโครงการนี้ที่ปรากฏในโฆษณา เป็นบริษัทที่คุ้นๆกันว่าได้ทำธุรกิจในประเทศไทยมานานและมีผลงานปรากฏชัดเจนในวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยและนานาชาติ

ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาไม่ใช่เพื่อเยาะเย้ยประเทศไทย ผมไม่ได้เห็นเขมรดีกว่าชาติบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองและพ่อแม่ แต่ต้องการจะส่งสัญญาณเตือนคนที่กำลังมองเพื่อนบ้านเป็นศัตรู หรือมีจิตใต้สำนึกที่ดูถูกเหยียดหยามประเทศเพื่อนบ้านว่าพวกคุณกำลังตั้งอยู่ในความประมาท และกำลังเป็นผู้มีส่วนทำร้ายประเทศโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

บางคนอาจจะเชิดใส่แล้วพูดว่า... "ก็แค่ตึกหลังเดียวจากโฆษณาหน้าเดียว จะตื่นเต้นอะไรนักหนา"... แต่ถ้าลองคิดให้ละเอียดจะเห็นว่ารูปแบบอาคารนี้ได้แสดงถึงเทคโนโลยีการออกแบบ, ก่อสร้าง และองค์ประกอบอำนวยความสะดวกของอาคารที่ไล่ทันอาคารระดับแนวหน้าที่กำลังสร้างในกรุงเทพฯแล้ว ถึงแม้วันนี้จำนวนของอาคารระดับนี้อาจจะยังห่างไกลจากที่มีในกรุงเทพฯมาก แต่ใครจะรู้ว่าหากเรายังเอาแต่มุ่งหน้าฟาดฟันกันโดยไม่ลืมหูลืมตา.....อะไรๆที่ไม่เคยฝันก็อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้

เมื่อประมาณช่วงปี 2505-2510 ประเทศเกาหลีใต้ล้าหลังกว่าประเทศไทยมากมาย ทหารไทยยังต้องส่งกำลังพลไปช่วยรบปกป้องภัยจากเกาหลีเหนือให้ด้วยซ้ำ คนรุ่นเก่าๆคงจำ "จงอางศึก" ของกองทัพไทยที่เคยสร้างชื่อเสียงในเกาหลีได้ ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงประมาณปี 2512 คนไทยมีค่านิยมเหยียดหยามสินค้าญี่ปุ่นว่าเป็นสินค้าเลียนแบบคุณภาพต่ำ ช่วง 10 ปีต่อมาก็ดูถูกสินค้าไต้หวันในลักษณะเดียวกัน มาวันนี้ญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวันล้วนแล้วแต่กลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมหนักและอิเล็กโทรนิคส์ของโลกเคียงคู่กับยุโรปและอเมริกา........ไม่ต้องไปพูดถึงจีนด้วยซ้ำไป

ถ้ายังคิดและมองโลกรอบตัวในลักษณะ "ผู้ดีเก่าจารีตสูงส่ง" สักวันหนึ่งแม้แต่ถนนหนทางและสาธารณูปโภคก็จะไม่เห็นหลังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมัวแต่จมปลักอยู่กับความคิดประเภทอนุรักษ์ล้าหลัง หลอกตัวเองไปวันๆว่า "ประเทศไทยไม่แพ้ประเทศใดในโลก" โดยไม่ลืมตามองออกไปนอกกะลา และหากยังใช้ทัศนะประเภทเอาเรื่องปรับปรุงถนนลูกรังมาเป็นเหตุผลเสียดสีเยาะเย้ยโครงการยกระดับโครงการโทรคมนาคมมหภาคของประเทศ เพียงเพื่อจะชี้ให้เห็นถึงเจตนาโกงและสร้างหนี้ผ่าน "แว่น" ของไดโนเสาร์....วันที่ถูกประเทศที่เคยดูถูกเอาไว้กลับมาเยาะเย้ยเข้าให้บ้างคงห่างอยู่ไม่ไกลแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่