เรื่องราวของถั่วแปบและต้มมัด .. เครฟิชสาย P ที่ทำให้ผมมีความสุขในทุก ๆ วัน

กระทู้สนทนา
จริง ๆ ใจผมอยากจะเขียนบอกเล่ามาตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีเวลา วันนี้มีเวลาเลยอยากจะขอถ่ายทอดประสบการณ์ดี ๆ, ความน่ารัก, ความกังวล ฯลฯ สำหรับใครหลาย ๆ คนที่อยากจะเลี้ยง "กุ้งเครฟิช" ไม่มากก็น้อยครับ (อาจจะไม่ตรงตามตำรา หรือว่า ตามหลักการอะไรมากมาย แต่ลูก ๆ ผมทั้งสองตัว ตอนนี้ อยู่ดีกินดีครับ อิอิ)

"กุ้งอะไรมีสีเต็มไปหมดเลย" เป็นคำถามแรกที่ผมได้เห็นน้อง ๆ หลังจากที่ ผมกับแฟนไปเดินเล่นที่สวนจตุจักร และได้เห็นน้อง ๆ อยู่ในกะละมัง โดยมีลุงคนนึงนั่งขายแบกะดินกับพื้นอยู่



แฟนผมสะดุดตามาก และอยากได้ไปเลี้ยงสักตัวนึง ที่ทำงาน แต่ผมค่อนข้างจะคัดค้านอย่างหนัก เพราะว่า มันดูแปลก และไม่มีความรู้ด้านนี้เลย เลยติงแฟนไว้ แต่อย่างว่าละครับ อานุภาพของผู้หญิง อยากได้อะไรก็ต้องได้ จึงได้กุ้งสี ๆ แบบนี้มาหนึ่งตัว (ปัจจุบันอยู่กับแฟน ชื่อ ลื่นปรื๊ด) หลังจากนั้นแฟนผมก็หาข้อมูลนู่น นี่ นั่น ไอเราก็นะ .. เห็นแฟนหาคนเดียวก็กะไรอยู่ จึงโดดเข้ามาร่วมแจมหาข้อมูลไอกุ้งสี ๆ นี้สักหน่อย ไว้เป็นความรู้ประดับสมองก็ยังดี (คิดแค่นั้นจริง ๆ)

จนได้ทราบว่า ไอกุ้งสี ๆ เนี่ย มันคือ "กุ้งเครย์ฟิช ที่สามารถนำมาเลี้ยงในตู้ปลาได้ สามารถขับสีได้ ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและอาหาร บลา บลา บลา" อ่านไปอ่านมา ผมก็ชักเริ่มสนใจแหะ แต่ตอนนั้นก็ยังนิ่งอยู่ เพราะกลัวว่าเอาเขามาแล้วจะดูแลได้ไม่ดีพอ ก็เลยนิ่ง ๆ ไป

จนแฟนผมเริ่มที่จะถ่ายรูป ส่ง Line มาให้ดูเป็นประจำ ทำเอาผมเริ่ม "หลงใหล" ในความน่ารักของเจ้ากุ้งเครย์ฟิช นี้ซะแล้วสิ จังหวะได้ไปแถว ๆ วงเวียนใหญ่ จำได้ว่าแถวนั้นมีร้านเกี่ยวกับสัตว์น้ำอยู่ เลยเข้าไปดูผ่าน ๆ จนผมได้เจอกับ .. ไอตัวแสบของผมครับ

ไอตัวแสบผมชื่อว่า "ถั่วแปบ" ครับ เป็นกุ้ง เครย์ฟิช สาย P (Bright Orange) .. ผมไม่ได้เลือกหรอกครับ ให้เจ้าของร้านเขาคัดให้หน่อย เอาตัวที่แข็งแรง ๆ (ตอนนั้นผมดูไม่เป็นหรอกครับ ว่าตัวไหนแข็งแรง ไม่แข็งแรง) เจ้าของร้านก็ควาน ๆ ๆ สักพัก ก็ได้เจอกับ ไอตัวแสบของผมเนี่ยละครับ



ตอนนั้น อ่านเอาตามเวบบอร์ดต่าง ๆ รวมถึง บทความใน Google เห็นเขาว่าเลี้ยงกุ้งพวกนี้ต้องใช้ตู้ 24" กำลังดี แต่ผมดูแล้ว ตอนนั้นไอตัวแสบผมมันตัวไม่ถึง นิ้วครึ่งเลย เอาตู้ 24" มา กลัวมันจะวังเวง และตรอมใจตาย เลยจัดตู้แค่ 9" มาครับ

โดยอุปกรณ์ ที่ผมจัดมาพร้อมตู้ (และผมคิดว่าสำคัญนะ) คือ ตัวกรองน้ำ ครับ ตอนนั้นใช้ขนาดเล็ก เพราะว่าตู้แค่ 9" เลยใช้กรองแขวนอันละ 80 บาท (มั๊งนะ ถ้าจำไม่ผิด) ส่วนเรื่องอาหารผมก็ซื้อของที่ร้านไอตัวแสบเนี่ยละครับ เป็นเม็ดเล็ก ๆ (ถั่วแปบ มันไม่ชอบเอามาก ๆ เลยในช่วงแรก ๆ เพราะหยอดไปมันก็ไม่กิน) และก็ ฟักทอง (รู้สึกช่วงนั้นจะชอบเป็นพิเศษ)



โดยการเจริญเติบโตของกุ้งชนิดนี้ จะเติบโตผ่านกระบวนการนึงที่เรียกว่า "การลอกคราบ" โดยระยะเวลานั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ มากมาย อาทิ ปริมาณแร่ธาตุและสารอาหารที่สะสมของเขา (การลอกคราบของกุ้งเครย์ฟิช จะใช้ โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูง และต้องสะสมอย่างเพียงพอ เพราะระหว่างกระบวนการลอกคราบน้องจะไม่กินอาหาร เมื่อสะสมอาหารจนได้ที่ ฮอร์โมนเร่งการลอกคราบจะสูงในกระแสเลือด), อุณหภูมิน้ำ, อายุหรือขนาดของน้อง บลา บลา บลา

ซึ่งความถี่ในการลอกคราบนั้น ก็จะแตกต่างกันตามอายุ หรือ องค์ประกอบแวดล้อมครับ อาจจะสัปดาห์ละครั้ง, เดือนละครั้ง จนถึง ปีละครั้ง ก็เป็นได้ แล้วแต่องค์ประกอบต่าง ๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้น (ถั่วแปบผม มันไม่ลอกคราบมา 3-4 เดือนติดกัน แต่พอมันลอกปั๊ป ผ่านไป 2 สัปดาห์ มันลอกอีกละ 55+)


ลักษณะคราบหลังการลอกคราบ


พอเลี้ยงถั่วแปบไปสักพัก ระยะแรก ๆ เหมือนเรากำลัง "ทดลอง" เลยครับ ผมนี่เข้าขั้น "หมกหมุ่น" เลย นั่งหาข้อมูล นู่น นี่ นั่น ปรึกษาคนนู้น คนนี้ ตามเวบบอร์ด นั่งดูมันกินอาหาร คอยวัดอุณหภูมิของน้ำ และเป็นกังวลมากเมื่อเวลามันไม่ยอมลอกคราบ และบางครั้งทำตามคนอื่นเขามันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด หรือ ที่วางแผนไว้ ช่วงนั้นผมค่อนข้างเครียดเลยครับ

จนแฟนผมต้องเบรกความบ้าคลั่งของผมไว้ โดยบอกว่า "เอาแค่พอดีก็พอแล้วมั๊ง ไม่ต้องถึงขนาดนี้หรอก เธอไม่ได้ทำวิจัยเรื่องเครย์ฟิชนะ เลี้ยงมันตามสภาพแวดล้อม เอาแค่สังเกตุอาหารมันก็พอแล้ว" ผมย้อนคิดได้เลยว่า "เออ .. มันก็จริงนะ สัตว์ทุกชนิด มันก็ดำเนินชีวิตตามธรรมชาติของมันมาตั้งนานนม โดยไม่มีคนเลี้ยง มันก็อยู่ได้ ทำไมเราต้องมานั่งกังวลในวัฏจักรของมันด้วยละ?"

หลังจากนั้น ผมเริ่มที่จะเพลาความบ้าคลั่งลง แต่ก็ยังหมั่นคอยดูแลมัน คอยเปลี่ยนน้ำ (สัปดาห์ละ 20-30%, เปลี่ยน 100% ประมาณ 1 เดือนหรือแล้วแต่ความสกปรก), ดูดขี้กุ้ง (ผมดูดขี้กุ้งทุก ๆ 2-3 วัน หรือแล้วแต่สภาพ), ล้างเครื่องกรอง (ทุก ๆ 2-3 วันเช่นกัน), สังเเกตุอาการเป็นพัก ๆ .. สิ่งที่ผมสังเกตุคือ น้องดูผ่อนคลายขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ ดูร่าเริง มันทำให้ผมเพลิดเพลินซะจริง ๆ





หลังจากเลี้ยงไปได้สักพัก เริ่มมีข้อมูล เริ่มมีประสบการณ์มาหน่อยนึง เจ้าถั่วแปบผมก็เริ่มที่จะลอกคราบ และโตมานิดนึง ไอผมมันก็ใจร้อน เลยไปจัดตู้ 12" มาให้มันอยู่ และก็ขยับขยายอุปกรณ์ไปตามลำดับ + เลี้ยงปลาสอด ไว้เพื่อจะได้ให้ปลาสอดทำหน้าที่เก็บเศษอาหารกินและพานาเรีย จะได้ไม่มาทำอันตรายถั่วแปบ

พอเลี้ยงไปเลี้ยงมา กลัวว่า ถั่วแปบมันจะเหงา เลยไปจัด เครย์ฟิช สาย P (Red Japan) ชื่อว่า "ต้มมัด" เป็นกุ้งตัวเมีย กะว่าจะเอามาให้เป็นเพื่อนถั่วแปบมัน แต่ ..

แต่เดี๋ยวก่อนครับ ขอสารภาพว่าผมทำกุ้งตายไป 2 ตัว ก่อนหน้าเจ้าต้มมัด (T-T เสียใจอย่างแรง) โดยก่อนที่จะมาถึงเจ้าต้มมัด ผมไปเดินจตุจักรเนี่ยละครับ ไปเจอเครย์ฟิชแบกะดิน (ผมเรียกอย่างนั้นนะ เพราะเห็นวางกับพื้น พิกัดไม่บอกนะครับ เดี๋ยวร้านเขาเสียหาย) ผมเลยมีความคิดว่า "เออ .. ไอถั่วแปบมันก็อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ หาเพื่อนให้มันสักตัวดีกว่า"

เลยจัด เครย์ฟิช (Blue alleni) มาตัวนึง แต่ด้วยตอนนั้นผมไม่มีรถยนต์ใช้ (รถยนต์เสีย) เลยต้องหิ้วน้องกระเตง ๆ จากจตุจักรกลับบางบัวทอง กลับไปพักน้ำอะไรเรียบร้อย (ผมพักน้ำแค่ 1 ชม. - 1.30 ชม. นะครับ) แล้วก็ค่อย ๆ ปรับสภาพน้ำ (ค่อย ๆ หยอดน้ำในตู้ลงไปในถุง) จนปล่อยน้องลงไปในตู้ ตื่นเช้ามา .. น้องนอนแข็งทื่อ เสียชีวิตคาที่เกิดเหตุเลย

ผมเฝ้าหาสาเหตุอยู่ว่าเพราะอะไร นู่น นี่ นั่น สอบถามผู้รู้ นู่น นี่ นั่น ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน แต่เอาละ ไม่ละความพยายาม ผมไปจัดน้องมาอีกตัวนึง ตัวนี้ดูค่อนข้างแข็งแรงดี อยู่ในถุงแบกะดินเหมือนเดิม เอามาทำเหมือนเดิมทุกอย่าง ผลปรากฏวันรุ่งขึ้น น้องเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุเช่นเดียวกัน

ผมสงสัยมากครับ ว่าเอ๊ะ เพราะอะไร .. ก็เที่ยวสืบหาสาเหตุ จนมาพบว่า น่าจะเกิดจาก ความอ่อนล้าจากการเดินทาง + น้องไม่แข็งแรง (บ้างก็ว่า พักน้ำน้อยเกินไป บ้างก็ว่าไม่เกี่ยว) หลังจากนั้นมา ผมเลิกซื้อน้องที่วางแบกะดินเลยครับ เข็ดยันตาย (ยังเสียใจจนถึงทุกวันนี้ ทำบุญให้น้องไปอยู่ในภพภูมิที่ดีนะ T T)

จนไปเจอร้านที่แนะนำกันในเวบบอร์ดแห่งหนึ่ง ในจตุจักรเนี่ยละครับ ก็ได้เจอกับ "เจ้าต้มมัด" Red Japan ตัวเมีย แข็งแกร่ง บึกบึน แม่พันธุ์ชั้นเลิศ (ฮ่าๆๆ ป้าที่ขายเขาว่างั้นนะ) จับมันหนอนหงาย มันแทบจะสปริงขึ้นมา เอาละ .. ผมคิดเลยว่า ถ้าตัวนี้ไม่รอด ผมจะไม่เลี้ยงอะไรอีกแล้ว เพราะสงสารและเหมือนจะเป็นบาปกรรมที่ไปทำร้ายชีวิตน้องเขา


ต้มมัด


แรก ๆ มาเลี้ยงด้วยกัน ก็กลัวว่าจะกัดกันครับ ก็เลยไปขยายตู้ให้เป็น 16" พร้อมเปลี่ยนกรองน้ำเป็นตัวใหญ่ ถั่วแปบจะตัวเล็กกว่าต้มมัดประมาณ ครึ่งนิ้ว และกินน้อยกว่าด้วย (เฉลี่ยต้มมัด กินอาหารเม็ดวันนึง 10-15 เม็ด โดยที่ถั่วแปบกินแค่ 2-5 เม็ดเท่านั้น) จะมีความกังวลอยู่เล็กน้อยตรงที่เขาบอกว่า "กุ้งพันธุ์นี้ถ้าอยู่ด้วยกัน แล้วตู้ไม่ใหญ่ จะไล่กัดกัน" แต่ .. แต่ครับ



(18+) .. ถั่วแปบมันจับต้มมัด "กระทำชำเรา" กลางอากาศ+ออกสื่อ แบบไม่แคร์สายตาประชาชีเลย หมดแล้วความบริสุทธิ์ของต้มมัด (ฮา) .. โดยจากการหาข้อมูล น่าจะเป็นเรื่องปกตินะครับ ที่เครย์ฟิชตัวผู้ สาย P ความยาวประมาณ 1.5-2 นิ้ว จะ "ไล่" ผสมพันธุ์กับตัวเมีย รู้สึกว่า มันสามารถผสมพันธุ์กันได้ทุกฤดูละครับ .. ซึ่งตังแต่เอาต้มมัดไป รู้สึกจะถูกกระทำชำเราบ่อย ผมกลัวน้องจะตายซะก่อน เลยจับถั่วแปบแยกใส่กล่องไว้ครับ เพื่อรอตู้ใหม่ที่ใหญ่กว่า และลดความกำหนัดของถั่วแปบลง (ฮ่าๆๆ อันหลังผมคิดเองนะ)


แยกกันยังตามไปยั่ว 55+


และนี่คือ บ้านปัจจุบัน ของถั่วแปบและต้มมัดครับ



นั่นละครับ คือความสุขของผม ความสุขเล็ก ๆ ที่เวลาเราเหนื่อยจากงานกลับมา มาเจอพวกน้อง ๆ เดินไปเดินมา ชูก้ามขออาหาร มันดูแล้วเพลินตาเพลินใจ ซึ่งไม่ว่าเราจะเลี้ยงสัตว์อะไรก็ตาม ถ้าเราให้ความรัก ความเอาใจใส่ เชื่อเถอะครับ สัตว์ทุกตัวมันจะตอบแทนเราด้วยความน่ารักตามธรรมชาติของเขา

วัตถุประสงค์ที่ผมเขียนเรื่องบอกเล่า ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ อยากให้คนที่คิดจะ "เลี้ยงสัตว์" อะไรสักอย่าง ลองตั้งคำถาม ถามตัวเองก่อนว่า "ตัวเราพร้อมที่จะเลี้ยงอีกชีวิตนึงหรือยัง?" .. ถ้าคิดว่าเอาเขามาแค่ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว หรือแค่เป็นแฟชั่น อย่าเอามาเลยครับ สงสารน้อง ๆ เขา รวมถึง อย่างน้อย ๆ เราก็ต้อง "ให้เวลา" กับเราในการศึกษาธรรมชาติของน้องเขา ไม่ต้องเยอะไป ไม่ต้องมากไป เอาตามสไตล์เรา สไตล์น้อง (ผมเชื่อว่าสัตว์ทุกตัว มีสัญชาติญาณเหมือนกัน แต่การแสดงออกต่าง ๆ รวมถึงอุปนิสัย ไม่เหมือนกันครับ อันนี้ต้องอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่ การสังเกตุ)

รวมถึงงบประมาณ และสถานที่ด้วย เอาแบบที่เราไหว .. อย่างผมไปเดินสวนจตุจักร เคยเห็นน้องคนนึง ยังแบมือขอเงินพ่อแม่ (เห็นแบมือของเงินคุณพ่อน้องเขาจริง ๆ นะ) แต่อ้อนให้พ่อซื้อนกฮูกแคระ โดยไม่รู้ทั้งสภาพแวดล้อม, การเลี้ยงดู แค่อยากจะเลี้ยงเพราะมัน "แปลก" เท่านั้นเอง (ทั้ง ๆ ที่คุณพ่อน้องเขาก็ท้วงติง แต่ก็นะครับ เฮ้อออ) แบบนี้ น่าสงสารน้องครับ

ก็ขอจบการเล่าเรื่องของ ถั่วแปบและต้มมัด ไว้เท่านี้ .. ท่านใดมีประสบการณ์ใด เอามาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ จะหลังไมค์ หน้าไมค์ ผมได้หมดเลยจ้า

IG ถั่วแปบกะต้มมัด (อุ๊ต๊ะ มี IG ด้วย!!) : tuapaptommud (จริง ๆ รูปมีเยอะเลยครับ แต่ไม่ค่อยได้อัพผ่าน Social เลย)

ขอบคุณมากครับ สำหรับเนื้อที่บน Pantip ที่ให้ผมได้ถ่ายทอดเรื่องราวของผมครับ

** แถม!! 555+ **



ถั่วแปบ เพิ่งลอกคราบวานนี้ครับ ตัวยาวราว ๆ 3" กว่า ๆ แล้ว ดีนะที่เดินไปหลบบนต้นไม้ได้ ไม่งั้นต้มมัดจับกินแน่เลย T T (กุ้งลอกคราบ จะอ่อนแอที่สุด ถ้ามีกุ้งตัวอื่นอยู่ อาจจะโดนทำร้าย หรือ กัดกินได้ครับ) เห็นเม็ดแคลเซียมขึ้นข้างแก้มน้องแล้วแต่ไม่ค่อยชัด เลยไม่ได้จับแยกไว้ กลับไปเมื่อวานแทบช็อค เห็นน้องต้องไปเกาะหลบต้มมัดอยู่ด้านบน พ่อขอโทษนะลูกกกก ฮือออ

** แถม!! รอบสอง 555+ **



กุ้งแฟนผมครับ สาย P เหมือนกัน (Blue Alleni) ชื่อ ลื่นปรื๊ด ครับ กำลังเกาะมอสบอลเพลินเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่