คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ในรถญี่ปุ่นระดับตลาดไม่เกินคันละ 2ล้านส่วนมาก ใช้กุญแจระบบ Immobilizer เวลาstartเครื่องจะมีการเข้ารหัสของกุญแจ ส่งข้อมูลจากกุญแจไปยัง ECU แล้วถ้าตรงกันก็จะยอมให้start ได้ระบบ Immobilizer นี้ตัว Code จะคงที่ตายตัวตลอด ทีนี้วิธีการขโมยคือพอสามารถเปิดรถเข้าไปได้ขโมยจะมีการเตรียมกล่อง ECU กับกุญแจของตนเองมามันจะลง code ให้รับกัน วิธีทำก็สลับ ECU ที่เตรียมมาเข้ากับของรถ เท่านั้นครับ ถ้ารถที่ ECU อยู่ในรถก็จะสะดวกมากเพราะแค่ขโมยก้มลงไปสลับกล่องซึ่งส่วนใหญ่จะอยู้แถวที่เก็บของด้านซ้ายแค่นั้นเสร็จครับ ยิ่งคันไหนติดฟิล์มเข้มๆละก็ไม่มีใครสังเกตเห็นง่ายๆชัว ทั้งหมดใช้เวลาแค่ไม่ถึง 5นาทีครับ ส่วนบางรุ่นดีหน่อยกล่อง ECU จะมาอยู่ฝากระโปรงหน้า อันนี้ก็ต้องเดินออกเปิดฝากระโปรงสลับ อาจหาโอกาสเหมาะยากหน่อยอันนี้ ส่วนวิธีเปิดรถก็ตามที่เป็นข่าวครับจะมีเครื่องดักสัญญาณดักแล้ว copy code เปิดประตูโดยที่สัญญาณกันขโมยไม่ทำงานด้วยเวลาที่ใช้ถอดรหัสนานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู้กับว่ารถคันนั้นเข้ารหัส code ระดับไหน
ส่วนถ้าทำกุญแจหายหรือโดนcopy ข้อมูลที่ไหนนั่นง่ายเลย
ส่วนพวก key less go ก็หลักการคล้ายๆกันครับ
ถ้าเป็นรถยุโรปหลักการทำงานคล้ายกัน แต่ในบางรุ่น ตัวcode จะมีการเปลี่ยนรหัสตัวเองอยู้ตลอดเวลา หรือที่เรียกว่า Cryptograph จะขโมยยากกว่าใช้เวลานานกว่า แต่ถ้าอันนี้ถ้าโดนขโมยกุญแจหรือโดน copy ข้อมูลก็ไม่รอดเหมือนกันครับ แต่อุปกรณ์เจาะข้อมูลจะซับซ้อนกว่า
ส่วนถ้าทำกุญแจหายหรือโดนcopy ข้อมูลที่ไหนนั่นง่ายเลย
ส่วนพวก key less go ก็หลักการคล้ายๆกันครับ
ถ้าเป็นรถยุโรปหลักการทำงานคล้ายกัน แต่ในบางรุ่น ตัวcode จะมีการเปลี่ยนรหัสตัวเองอยู้ตลอดเวลา หรือที่เรียกว่า Cryptograph จะขโมยยากกว่าใช้เวลานานกว่า แต่ถ้าอันนี้ถ้าโดนขโมยกุญแจหรือโดน copy ข้อมูลก็ไม่รอดเหมือนกันครับ แต่อุปกรณ์เจาะข้อมูลจะซับซ้อนกว่า
แสดงความคิดเห็น
รถที่มีกุญแจชิพ สามารถกันขโมยได้มากน้อยแค่ไหนครับ? และ....
ผมว่าจะให้เพื่อนที่เป็นช่าง ติดสวิทย์ตัดสตาร์ทกันขโมย(ซ่อนปุ่ม)อีกทางหนึ่ง
ซึ่งวิธีนี้ถ้าขโมยจะสตาร์ทเครื่อง ต้องไล่สายสตาร์ทใช้เวลามากกว่าปกติเยอะ
ใครติดหรือมีความคิดเห็นอย่างไร แนะนำหน่อยครับ ขอบคุณครับ
**Honda Civic 2008 2.0**