"คุณ wild rabbit ได้นำข้อความจาก line มาให้อ่าน "ว่าด้วยศาสตร์และศิลป์ในการลงทุนในตลาดหุ้น"

ขออนุญาตนำมาให้อ่านต่อครับ

คุณกระต่ายป่า  ได้รับข้อความจาก line  มาอีกที
หลังจากลองค้นหาที่มาจากกู่เกิ้ล
เจ้าของข้อความข้างใต้คือนักลงทุนท่านนี้ครับ

https://www.facebook.com/nicschanon

ได้โพสต์ไว้ในเวบสต๊อกทูมอร์โร่ว์

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=57430&page=1

++++++++++++++++++++++++ๅๅ


ศิลป์ของนักลงทุน


ศิลปะของนักลงทุนคืออะไร?

บางคนบอกว่าคือการอ่านกราฟ บางคนบอกว่าการอ่านงบบัญชีเป็นศิลปะถามผมแล้ว ผมก็มองมันเป็นศิลปะหมดนั้นแหละ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเพิ่งค้นพบได้ไม่ได้ศิลปะในเชิงศิลปินแล้วมันควรจะมีอารมร์มาเกี่ยวข้องไม่ใช่หรือ แล้วทำไมนักลงทุนหลายๆคนจึงบอกว่าการลงทุนที่ดีต้องแยกใจออก

จริงๆแล้วมันอยู่ที่การตีความของแต่ละคนไม่เหมือนกันแต่ผมกลับมาค้นพบในแบบของผมเองว่าแท้จริงแล้วเทคนิคมันก็สำคัญระดับหนึ่ง งบมันก็สำคัญอีก แล้วการมีศาสตร์เหล่านี้มัน คือศิลป์หรือไม่?

ผมมาเห็นความต่างระหว่างศาสตร์กับศิลป์ก็คือความสามารถในการ เลือกมากกว่ามันเหมือนคุณไปจ่ายตลาดแอ๊ปเปิ้ลแต่ละผลมันสวยมากหลายลูกเลยแล้วลูกไหนหละที่คุณควรหยิบมาลิ้มรส ไอ้ผลของแอ๊ปเปิ้ลที่มันสวยๆแต่ละลูกมันก็ไม่ต่างจากหุ้นดีเทคนิคเด่นกับหุ้นร้อนงบสวยหรอกครับ ในภาวะที่ตลาดของเรามันกระทิงขนาดนี้มันไม่ต่างจากฤดูออกดอกออกผลของผลไม้ แต่แล้วผลไหนดีหละ

ผมได้เห็นความสามารถที่แตกต่างและเรียกได้ว่าเหนือชั้นทางศิลป์ในการเลือกหุ้นจากนักลงทุนที่เรียกว่าขาใหญ่หลายท่าน นักลงทุนเหล่านี้แท้จริงแล้วไม่ได้มีความสามารถในการอ่านกราฟมากไปกว่าคนธรรมดาทั่วๆไปเลย อีกทั้งการอ่านงบก็ไม่ได้ดีไปกว่าใครตัดสินแอ๊ปเปิ้ลสวยๆหลายผล หากมีผลที่สวยกว่า สิ่งที่คนเหล่านี้มีมากกว่าเราคือความสามารถในการเลือกสินค้าและเหนือไปกว่านั้นคือใจที่กล้า  

นักฉวยโอกาศที่แท้จริงย่อมกล้าที่จะเปลี่ยน ผมเห็นคนเหล่านี้กล้าที่จะ Switch ของดีที่ตัวเองถืออยู่ไปถือของที่ดีกว่า ผมว่ามันเป็นศิลป์มากกว่าศาสตร์แล้ว เพราะจากศาสตร์ที่เรารำเรียนกันมาคือต้องซื้อที่ต้นน้ำ สุดท้ายแล้วมันคือเรื่องของใจซะมากกว่า แต่เป็นใจที่มีหลักการของแบบนี้หาเรียนที่ไหนไม่ได้หรอกครับประสพการณ์ จำไว้เลยศิลป์ที่แท้จริงแล้วมันสอนไม่ได้

การที่พูดออกมาแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่มีหลักการมาอ้างอิง แต่ผมคิดว่า ส่วนหนึ่งที่เทรดเดอร์มืออาชีพแตกต่างกับคนธรรมดาที่เข้ามาสู่ตลาดหุ้นโดยสิ้นเชิงเลยคือความสามารถในการเลือกที่จะจับตัวเองให้อยู่ในที่ๆได้เปรียบมากกว่าชาวบ้าน เทรดเดอร์ที่ดีไม่ได้แปลว่าต้องเข้าทุกไม้ที่เห็นสัญญาน แต่เทรดเดอที่ดีต้องประเมินได้ว่าคุ้มหรือไม่ที่จะเข้าไม้นี้ หลายครั้งโอกาศในการซื้อมาแล้วแต่ดูแล้วไม่คุ้มเสี่ยง มืออาชีพจริงอาจจะเลือกที่จะอยู่เฉยๆ

ผมพยามทำใจอยู่หลายครั้งแล้วก็เชื่อด้วยว่านักลงทุนทุกคนต้องเคยเจอเราใช้ความคิดพินิจวิเคราห์แล้วกว่าจะเลือกของดีเข้าพอทเราแต่แล้วทำยังไงได้เมื่อสิ่งที่เราเลือกกลับอยู่นิ่ง แตกต่างจากหุ้นของคนข้างตัวที่วิ่งโลด ยิ่งหลายๆครั้งคนข้างตัวเราดันซื้อจากข่าวซะด้วยซ้ำเรื่องแบบนี้เป็นความเจ็บปวดของนักลงทุนจริงๆ มันน่าโมโหมากที่เราพยามแล้วแต่สุดท้ายมันไม่ดีพอหรืออย่างไร?

แล้วมันก็ไม่ใช่หรอกครับ เราต้องรับทัศนะคติก่อนว่าแท้จริงแล้วบนพื้นฐานและกราฟหุ้นที่เราเห็นอยู่นั้นมันมีอีกอย่างที่แฝงอยู่ คือค่าเสียโอกาส ผมมองว่านักลงทุนที่ดีจะต้องเล่นกับค่าเสียโอกาสให้เป็น เอามันให้อยู่หมัด หากคุณมีความครบพร้อมกับฝีมือแล้วสุดท้ายคุณต้องชกกับชะตาชีวิต เอาชนะมันให้ได้โอกาศมันมีเข้ามาทุกวันนั้นแหละผมไม่เชื่อหุ้นมีเป็นร้อยๆตัวในตลาดมันต้องมีสังเวียนที่เป็นของคุณสิ ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่อง sensitiveมาก เราไม่สามารถรู้หรอกครับว่าหุ้นตัวไหนค่าเสียโอกาสมากน้อยกว่ากันมันไม่มีบอกในงบในกราฟ แต่มันบอกได้จากนิสัยของหุ้น ซึ่งสะท้อนออกมาจากนิสัยเจ้าของหุ้นผู้บริหาร

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรผมบอกได้คำเดียวประสบการณ์ล้วนๆ ผมได้มีโอกาศรู้จักกับนักลงทุนหลายท่านส่วนมากแล้วอายุเยอะคนเหล่านี้..อ่านงบไม่เป็น ..ดูกราฟไม่ได้ แต่เล่นหุ้นแล้วรอดมาเป็นสิบๆปี เค้าทำได้อย่างไร ...คนเหล่านี้มีศิลป์ครับส่วนหนึ่งของศิลป์คือประสพการณ์ได้ จริงๆแล้วคือการมีประสพการณ์แบบมีหลักการเวลาเห็นหุ้นลงมาเยอะๆแล้วนิ่งๆก็ตีความได้ว่าชะลอแล้ว ไปเก็บที่bottomเลยก็มีเวลารู้สึกไม่ดีก็ขายไม่มีเหตุผล เป็นเรื่องที่น่าทึ่ง

ผมไม่ได้บอกให้คุณเอาคนเหล่านี้เป็นตัวอย่าง แต่แค่อยากชี้ชัดให้เห็นว่าศิลป์ของการเลือกหุ้นมันมีมากกว่าที่เราคิด หลักการทุกอย่างดีแต่มันมี limit ของมันสุดท้ายแล้วคุณต้องไปขึ้นสังเวียนชีวิตกับเรื่องค่าเสียโอกาศเพราะเวลาเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถซื้อกลับคืนมาได้ สิ่งที่เราทำได้คือตีรันฟันแทงกับเวลาให้ได้รสชาติอย่างพอเหมาะแล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยน

อย่าลืมน่ะครับเราเลือกที่จะอยู่กับมันในระยะยาวไม่ได้แปลว่าเราต้องกินทุกเม็ด เรารอที่จะเจอโอกาสที่ประเมินแล้วได้คุ้มเสีย ทำได้บ่อยๆก็คุ้มกว่าที่จะวิ่งไปเก็บเหรียญบนทางด่วนเพื่อเสี่ยงตาย

เม่าอ่านหนังสือพิมพ์เม่าอุ้มห่านห่านทองคำเม่าออกรถนางพญาเม่า


Wild Rabbit  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ๅๅ

ขอแถมภาพประกอบแบบขำๆ  
ลองนึกกันดู  
กระต่ายป่าในภาพประกอบ    เขาใช้ศาสตร์หรือศิลป์  ในการสู้กับเจ้าพ่อกระทิง  



อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16





แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่