อียู และ อเมริกา สามารถคว่ำบาตร รัสเซีย ด้านใดได้บ้าง และ รัสเซีย สามารถตอบโต้คืนอย่างไร

ทำไมจีนต้องเข้าข้างรัสเซียคะ หากต้องสู้รบกันจริง จีนกับรัสเซีย สู้ อเมริกาและชาติตะวันตก ได้หรือไม่
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
เอาจริงๆน่ะ รัสเซียให้คำตอบมาแล้ว เป็นคำตอบประมาณว่า เมิงจะทำอะไรก็ทำไปกุไม่สนใจ
รัสเซียขู่ชักดาบสหรัฐ (ลองอ่านเหตุผลซักก่อน)
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ว่านายเซอร์เก กลาซเยฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แถลงเตือนให้สหรัฐเตรียมรับมือมาตรการลดระดับการพึ่งพาทางเศรษฐกิจของรัสเซียต่อวอชิงตันให้เหลือระดับ "ศูนย์" และมาตรการยุติใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการติดต่อทำธุรกรรม โดยมอสโกจะจัดตั้งระบบติดต่อทางการเงินของตัวเองร่วมกับกลุ่มพันธมิตรในตะวันออกและทางใต้ นอกจากนี้ สถาบันการเงินทุกแห่งในรัสเซียจะไม่ชำระเงินกู้ยืมที่รับมาจากธนาคารในสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจของวอชิงตันล่มสลายอย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะเดียวกัน กลาซเยฟยังเตือนสหภาพยุโรป ( อียู ) ที่ขู่จะเดินตามสหรัฐด้วยการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อมอสโกเช่นกัน ว่าให้เตรียมรับมือ "หายนะ" จากการที่รัสเซียจะยุติการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้กับทุกประเทศในยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อพลังงานธรรมชาติจากมอสโกทั้งสิ้น

ท่าทีของกลาซเยฟมีขึ้นหลังทั้งสหรัฐและยุโรปพร้อมใจกันออกมาข่มขู่รัสเซียว่า อาจต้องเผชิญมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจขั้น "รุนแรง" หากมีการแทรกแซงทางทหารในภูมิภาคไครเมียของยูเครน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เออแล้วที่สำคัญ สงสัยอียูจะวงแตกล่ะครับงานนี้ เพราะขนาดอังกฤษก็อาจจะไม่รวมแจมในงานนี้ ปูตินคงคาดการณ์ไว้หมดแล้วล่ะครับ ว่าถ้าแกใช้ไม้นี้ตะวันตกก็คงทำอะไรแกไม่ได้

เผยเอกสารประชุมลับชี้ อังกฤษ “ไม่ร่วมคว่ำบาตร-ทำสงคราม” กับรัสเซีย
เฮก เพาเวล ที่ปรึกษาผู้ช่วยด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน ประมาทถือเอกสารสรุปรายงานการประชุมเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนที่ชี้ว่า “อังกฤษจะไม่ร่วมคว่ำบาตรและสนับสนุนด้านกำลังทหารในการทำสงครามกับรัสเซีย” ในขณะที่ผ่านนักข่าวช่างภาพในวันอาทิตย์(2)จนสามารถถ่ายภาพเก็บไว้ได้และเปิดเผยสู่สาธารณะในที่สุด ด้านพาเวล อิตคิน ช่างภาพชาวยูเครนวัย 18 สามารถเล็ดลอดเข้าไปโรงงานปรับปรุงสภาพรถถังยูเครนที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาในเมืองคาร์เคียฟ ห่างจากชายแดนรัสเซียไปราว 20 ไมล์. ภายในโรงงานมีรถถังในสมัยโซเวียตที่รวมไปถึง รุ่น T64 T72 และT80 จอดทิ้งอยู่ในนั้นจำนวนมากกว่า 400 คัน
       
        “อังกฤษจะไม่ร่วมคว่ำบาตรหรือสนับสนุนด้านกำลังทหารในการทำสงครามกับรัสเซีย” อ้างจากเอกสารสรุปการประชุมที่ถูกแอบถ่ายภาพเก็บไว้ได้เมื่อวันอาทิตย์(2) ซึ่ง เฮก เพาเวล ที่ปรึกษาผู้ช่วยด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอนถือไปและสวนกับนักข่าวช่างภาพก่อนจะร่วมการประชุมที่ถนนดาวนิง
       
       นอกจากนี้ในเอกสารยังชี้ว่า รัฐบาลของเดวิด คาเมรอนยังไม่มีแผนที่จะห้ามไม่ให้นักลงทุนสัญชาติรัสเซียลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อังกฤษ แต่ในทางกลับกันเอกสารฉบับนี้แนะนำว่า ควรให้ยูเอ็นเป็นผู้นำและหากเป็นไปได้ให้ส่งผู้สังเกตการณ์เข้าไปยังยูเครน และยังชี้ว่า ในการประชุม เช่นในองค์การนาโต อังกฤษควรจะยับยั้งข้อเสนอในการเตรียมความพร้อมทางการทหารโดยฉับพลัน และแหล่งข่าวจากถนนดาวนิงได้ยืนยันว่า ข้อมูลที่อยู่ในเอกสารสรุปการประชุมลับนี้เป็นนโยบายอย่างเป็นทางการ โดยชี้ว่าหากเกิดมีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย หรือปิดตลาดหลักทรัพย์กับนักลงทุนรัสเซียจะกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอังกฤษ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ผมว่าเหตุผลหนึ่งที่อังกฤษไม่รวมแจม เพราะอีกไม่นานจะมีการลงประชามติของสกอตแลนด์ อังกฤษคงกลัวเกิดเป็นประเด็นให้ฝ่ายสนับสนุนแยกประเทศจะนำนโยบายนี้ไปโจมตีได้
ความคิดเห็นที่ 22
คุณ  กร๊องง  สงสัยได้อย่างมี logic ครับ   ผมเคยตอบเรื่องนี้ไว้แล้ว  ตัดบางส่วนมากให้อ่านอีกที

วัตถุดิบพลังงานแก๊สและน้ำมัน   ซึ่งถือเป็นกลไกอำนาจทางการเมืองสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งระหว่าง ยุโรป กับ รัสเซีย   โดยที่ปรากฏในข้อเท็จจริงที่ว่า   ยุโรปเป็นทวีปที่ต้องพึ่งพาพลังงานทั้ง 2 ชนิดจากรัสเซียเป็นหลัก    จนทำให้มองได้เสมือนหนึ่งว่า   รัสเซียมีอำนาจเหนือยุโรปเสมือนหนึ่งลูกไก่ในกำมือ   จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด    ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ

เรื่องนี้จะซับซ้อนเป็นอย่างมากเนื่องจากเกี่ยวข้องทั้งด้านภูมิศาสตร์ที่ระบบท่อขนส่งพลังงานวางผ่านประเทศต่างๆ   ซึ่งจะตามมาด้วยความสัมพันธ์ทางการเมือง   เศรษฐกิจ   และเทคโนโลยี่ระบบขนส่ง  ฯลฯ    ผมจึงจะพยายามย่อสาระที่เกี่ยวข้องลงมาสรุปให้กระชับที่สุดเพื่อให้เห็นภาพรวมโดยสังเขป

รัสเซียเป็นประเทศหนึ่งที่ร่ำรวยพลังงานที่สุดในโลกนอกเหนือจากอเมริกา    ในโลกปัจจุบันที่พลังงานแก๊สและน้ำมันสำคัญที่สุดนั้นจึงทำให้มีความเข้าใจในเบื้องแรกกันทันทีว่า   ประเทศที่ร่ำรวยพลังงานจะมีอำนาจในทางการเมืองเหนือประเทศอื่นๆ    ในแง่ของพลังงานน้ำมันนั้นเนื่องจากรัสเซียไม่ใช่เป็นประเทศเดียวที่มีทรัพยากรธรรมชาตินี้    ฉะนั้นถึงแม้ว่าจะยุโรปจะสั่งซื้อน้ำมันจากรัสเซียเป็นจำนวนมากแต่ก็จะไม่มีปัญหาหากรัสเซียจะส่งน้ำมันให้ไม่ได้ในวันใดวันหนึ่ง   เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันขายในโลกมีมากมาย    และเพราะการจัดส่งน้ำมันไม่ได้จำเป็นต้องส่งผ่านระบบท่อแต่ส่งโดยเรือบรรทุกสินค้า    ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันของยุโรปจึงตัดไปได้

ที่เป็นหัวข้อถกเถียงกันจริงๆ คือ  พลังงานแก๊สธรรมชาติ    ซึ่งประเทศกลุ่ม อียู  นำเข้าจากรัสเซีย 42%  และจากประเทศ CIS 1%  และแหล่งอื่นๆ อีก 57%   โดยประเทศใหญ่ๆ ที่มีปริมาณนำเข้ามากที่สุดคือ

1) เยอรมนี   นำเข้าจากรัสเซีย   38.5%  ประเทศอื่นๆ   61.5%
2) อิตาลี                             30%  และ  70%
3) ฝรั่งเศส                           15%  และ  85%
4) สเปญ                               0     ประเทศอื่นๆ 100%
5) เบลเยี่ยม                           4%  และ  96%

ที่เหลืออีก 22  ประเทศจะมีปริมาณนำเข้าแค่ตัวเลข 1 หลัก   แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศยุโรปตะวันออกที่เป็น Easter Bloc เก่านั้นถึงแม้จะนำเข้ามาใช้ปริมาณน้อย   แต่นำเข้า 100% จากรัสเซีย  เช่น  ลัตเวีย  ลิธัวเนีย  บุลกาเรีย  ฯลฯ

ฉะนั้นยุโรปจึงถือว่าเป็นลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย   คือราว 90% ของสินค้าส่งออกพลังงานทั้งหมด    และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญยิ่งที่ไม่ใช่แต่ยุโรปเท่านั้นที่จะต้องพึ่งพาการจัดส่งพลังงานจากรัสเซีย     แต่ขณะเดียวกันรัสเซียเองก็พึ่งพาตลาดยุโรปเป็นสำคัญที่สุดเพราะเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่สุดของประเทศ   และเนื่องจาการขนส่งแก๊สต้องอาศัยระบบท่อขนส่งซึ่งรัสเซียร่วมลงทุนกับประเทศอื่นๆ  สร้างเครือข่ายไว้ทั่วยุโรป    การที่รัสเซียจะไปขายแก๊สให้ จีน หรือ ญี่ปุ่นก็สามารถทำได้    แต่ยังต้องใช้เวลาอีกกว่า 10  ปีที่จะลงทุนสร้างระบบท่อส่งขึ้นมาได้

และการที่รัสเซียต้องพี่งพาประเทศอื่นๆ ในการวางท่อแก๊ส   จึงจะเห็นว่ารัสเซียเองก็ไม่สามารถที่จะควบคุมระบบส่งแก๊สได้เบ็ดเสร็จในตัวเอง   จะเห็นได้เมื่อรัสเซียมีปัญหาขัดแย้งกับเบลารุส   และ ยูเครน   รัสเซียปิดท่อแก๊สได้อย่างมากแค่ 2-3 วันเท่านั้นก็ต้องเจรจาตกลงเปิดใหม่   เพราะการปิดการส่งแก๊สย่อมเป็นผลเสียไม่แต่กับยุโรป   แต่กับรัสเซียเองด้วย   จากการผูกพันทางสัญญาที่รัสเซียจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหากเกิดการขัดข้องในการส่งพลังงาน

ในปัจจุบันนี้รัสเซียยังไม่สามารถส่งแก๊สในสภาพของแก๊สเหลวได้   รัสเซียกำลังพัฒนาโครงการนี้อยู่และจะเกิดขึ้นได้ยังต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่