สำหรับใครๆ ที่รอคอยชมดอกไม้หายากแบบนี้ .. ตอนนี้ ได้โอกาสแล้วนะครับ
มีจุดแวะชมดอกภูคาอยู่ 2 จุด ซึ่งจุดแรกต้องเดินขึ้นเขาไป 500 เมตร ตอนนี้ดอกกะลังตูม ยังบานไม่มาก
มีลำต้นสูง ขึ้นอยู่หลายต้น จุดที่แวะชมง่ายที่สุดคือตรงศาลเจ้าพ่อภูคา
ดอกจะออกเยอะ และกำลังจะบาน อาทิตย์หน้าคงบานสวยกว่านี้
ปีนี้ บานไม่ค่อยเยอะ นะครับ
อยากชมต้องรีบมา ดู ...
ชมพูภูคา เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ
"ชมพูภูคา" (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bretschneidera sinensis Hemsl. ชื่อวงศ์ : BRETSCHNEIDERACEAE)
ต้นไม้พันธุ์หายากที่ใกล้สูญพันธุ์ของโลก พบที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา /และขุนสถาน/บ้านมณีพฤกษ์
โดยเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาเคยมีรายงานการสำรวจพบต้นชมพูภูคาทางตอนใต้ของประเทศจีนและทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม จากนั้นก็ไม่มีรายงานการค้นพบต้นไม้ชนิดนี้อีกเลย ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอาจจะสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ไปแล้ว จนในปี
พ.ศ. 2532 ดร.ธวัชชัย สันติสุข นักพฤกษศาสตร์ ได้ค้นพบต้นชมพูภูคาอีกครั้งที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ชมพูภูคา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 15-25 เมตร จะเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณป่าดงดิบ ตามไหล่เขาสูงชันที่มีความสูงตั้งแต่ 1,200 เมตรขึ้นไปจากระดับน้ำทะเล และมีความชื้นของอากาศสูง มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีค่อนต่ำ สำหรับลักษณะทั่วไปของ "ต้นชมพูภูคา" จะมีเปลือกเรียบสีเทา ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวมีใบย่อยรูปไข่แกมรูปใบหอก ปลายใบแหลมยาว แผ่นใบด้านล่างมีนวลสีขาว ส่วนดอกเมื่อบานจะมีลักษณะคล้ายรูประฆัง กลีบดอกด้านนอกมีสีชมพูจางขาว และกลีบดอกด้านในมีสีชมพูลายเส้นสีม่วง ชูช่อเป็นพวงใหญ่ โดยปัจจุบันได้มีการทดลองเพาะกล้าไม้ชมพูภูคาเป็นผลสำเร็จ ซึ่งก็จะช่วยให้ต้นไม้ชนิดนี้ไม่สูญพันธุ์ไปจากโลกของเรา สำหรับ "ดอกชมพูภูคา" จะออกดอกเบ่งบานระหว่างเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งผู้ที่สนใจก็สามารถไปชมดอกชมพูภูคา ได้ที่ "อุทยานแห่งชาติดอยภูคา" ซึ่งอุทยานแห่งนี้นอกจากจะมีดอกชมพูภูคาเป็นไฮไลท์
ภาพเพิ่มเติม จากปีที่ผ่านมา
http://goo.gl/LdYP6C
#อช.ดอยภูคา จังหวัดน่าน
#ภาพ พี่หนึ่ง ศุภโชค โรงแรมเดอะวันเฮ้าท์
เพิ่มเติม
http://goo.gl/LdYP6C
ดอกชมพูภูคา บานแล้วนะครับ
มีจุดแวะชมดอกภูคาอยู่ 2 จุด ซึ่งจุดแรกต้องเดินขึ้นเขาไป 500 เมตร ตอนนี้ดอกกะลังตูม ยังบานไม่มาก
มีลำต้นสูง ขึ้นอยู่หลายต้น จุดที่แวะชมง่ายที่สุดคือตรงศาลเจ้าพ่อภูคา
ดอกจะออกเยอะ และกำลังจะบาน อาทิตย์หน้าคงบานสวยกว่านี้ ปีนี้ บานไม่ค่อยเยอะ นะครับ
อยากชมต้องรีบมา ดู ...
ชมพูภูคา เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ
"ชมพูภูคา" (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bretschneidera sinensis Hemsl. ชื่อวงศ์ : BRETSCHNEIDERACEAE)
ต้นไม้พันธุ์หายากที่ใกล้สูญพันธุ์ของโลก พบที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา /และขุนสถาน/บ้านมณีพฤกษ์
โดยเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาเคยมีรายงานการสำรวจพบต้นชมพูภูคาทางตอนใต้ของประเทศจีนและทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม จากนั้นก็ไม่มีรายงานการค้นพบต้นไม้ชนิดนี้อีกเลย ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอาจจะสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ไปแล้ว จนในปี พ.ศ. 2532 ดร.ธวัชชัย สันติสุข นักพฤกษศาสตร์ ได้ค้นพบต้นชมพูภูคาอีกครั้งที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ชมพูภูคา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 15-25 เมตร จะเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณป่าดงดิบ ตามไหล่เขาสูงชันที่มีความสูงตั้งแต่ 1,200 เมตรขึ้นไปจากระดับน้ำทะเล และมีความชื้นของอากาศสูง มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีค่อนต่ำ สำหรับลักษณะทั่วไปของ "ต้นชมพูภูคา" จะมีเปลือกเรียบสีเทา ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวมีใบย่อยรูปไข่แกมรูปใบหอก ปลายใบแหลมยาว แผ่นใบด้านล่างมีนวลสีขาว ส่วนดอกเมื่อบานจะมีลักษณะคล้ายรูประฆัง กลีบดอกด้านนอกมีสีชมพูจางขาว และกลีบดอกด้านในมีสีชมพูลายเส้นสีม่วง ชูช่อเป็นพวงใหญ่ โดยปัจจุบันได้มีการทดลองเพาะกล้าไม้ชมพูภูคาเป็นผลสำเร็จ ซึ่งก็จะช่วยให้ต้นไม้ชนิดนี้ไม่สูญพันธุ์ไปจากโลกของเรา สำหรับ "ดอกชมพูภูคา" จะออกดอกเบ่งบานระหว่างเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งผู้ที่สนใจก็สามารถไปชมดอกชมพูภูคา ได้ที่ "อุทยานแห่งชาติดอยภูคา" ซึ่งอุทยานแห่งนี้นอกจากจะมีดอกชมพูภูคาเป็นไฮไลท์
ภาพเพิ่มเติม จากปีที่ผ่านมา http://goo.gl/LdYP6C
#อช.ดอยภูคา จังหวัดน่าน
#ภาพ พี่หนึ่ง ศุภโชค โรงแรมเดอะวันเฮ้าท์
เพิ่มเติม http://goo.gl/LdYP6C