คนไทยที่รวยๆ จะรวยเพราะการผลิตสินค้าหรือบริการ ที่เน้นการตลาด คือ สร้างแบรนด์ให้ติดตลาด แล้วก็เน้นขายหรือให้บริการในจำนวนเยอะๆ ผลิตหรือซื้อมาก็ขายไปแบบง่ายๆ กินกำไรส่วนต่าง แต่ไม่ค่อยสนใจเรื่องการมีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรม ไม่มีบริษัทที่มีชื่อเสียงเรื่องการลงทุนในเรื่อง Research and Development จำนวนมากๆ เลยหรือเปล่าคะ ( อาจจะมีก็ได้ แต่เราไม่เคยได้ยินแฮะ อย่างมากก็บริจาคเงินทุนการศึกษาเด็ก ตั้งมูลนิธิ ฯลฯ ซึ่งมันเป็นคนละเรื่อง )
เท่าที่นึกขึ้นได้ตอนนี้ ถ้าคุณนึกถึงคนรวยในเมืองไทย คุณจะนึกถึงใคร ??? เรานึกถึงกลุ่มคน เช่น เจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง, อาหารแช่แข็งส่งออก, การผลิตเสื้อผ้า, ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ชิ้นส่วนรถยนต์, น้ำชาเขียว, ค่ายสัญญาณมือถือ, เครื่องจักรทางการเกษตร ฯลฯ
คือจะบอกว่า เพราะลักษณะอุตสาหกรรมในเมืองไทย มันไม่ได้ใช้เทคโนโลยีมาก ก็ไม่น่าจะใช่อ่ะ อย่างชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ เราส่งออกมากนะ มีคนไทยรวยจากสินค้าพวกนี้ แล้วทำไมไม่อยากจะพัฒนานวัตกรรมให้เป็นของตัวเอง หรือค่ายสัญญาณมือถือ ก็น่าจะมีอะไรที่เป็นเทคโนโลยีให้พัฒนาได้ หรือพวกส่งออกอาหารแช่แข็ง ถ้าจะลงทุนวิจัยเรื่องฟาร์มเกษตร ชีววิทยา เคมี ฯลฯ อะไรอย่างนี้ มันก็มีอะไรที่เป็นประเด็นให้สามารถลงทุน จนมีนวัตกรรมเป็นของตัวเองได้ แต่เท่าที่รู้คือ ไม่มี ( เช่น สายเกษตร ก็สนใจแค่ contract farming ปล่อยชาวนาทำกันไปแล้วเอามาขายส่ง แล้วตัวเองก็เอาไปขายต่อ กินกำไรส่วนต่าง จบ ! )
น่าสนใจว่า ในบริษัทของคนไทยที่รวยๆ พวกนี้ สัดส่วนงบประมาณเพื่อพัฒนานวัตกรรม มันเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วทำไม เค้าไม่ทำเรื่องการพัฒนานวัตกรรมกันคะ เพราะมันไม่คุ้มค่า เพราะมันใช้เงินเยอะเกินไป เพราะมันไม่ต้องทำก็ขายได้ เพราะทำไปก็ไม่สำเร็จ เพราะรัฐไม่สนับสนุน หรือเหตุผลอื่นๆ 555+
ได้ยินว่า ในต่างประเทศ ต่อให้มันไม่ได้ผลิตสินค้าหรือบริการไฮเทคแบบ Google หรือ Microsoft แต่เค้าก็จะมีฝ่ายศึกษาวิจัย อย่างพวกบริษัทประกัน อะไรอย่างนี้ ก็ยังมี R&D เลยใช่ไหมคะ อยากให้ใครที่เข้าใจเรื่องนี้ ช่วยเปรียบเทียบให้หน่อยค่ะ
ทำไมคนรวยในเมืองไทย จะรวยเพราะผลิตของขาย ผลิตหรือซื้อมาก็ขายไปแบบง่ายๆ แต่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมพัฒนานวัตกรรม หรือ R&D
เท่าที่นึกขึ้นได้ตอนนี้ ถ้าคุณนึกถึงคนรวยในเมืองไทย คุณจะนึกถึงใคร ??? เรานึกถึงกลุ่มคน เช่น เจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง, อาหารแช่แข็งส่งออก, การผลิตเสื้อผ้า, ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ชิ้นส่วนรถยนต์, น้ำชาเขียว, ค่ายสัญญาณมือถือ, เครื่องจักรทางการเกษตร ฯลฯ
คือจะบอกว่า เพราะลักษณะอุตสาหกรรมในเมืองไทย มันไม่ได้ใช้เทคโนโลยีมาก ก็ไม่น่าจะใช่อ่ะ อย่างชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ เราส่งออกมากนะ มีคนไทยรวยจากสินค้าพวกนี้ แล้วทำไมไม่อยากจะพัฒนานวัตกรรมให้เป็นของตัวเอง หรือค่ายสัญญาณมือถือ ก็น่าจะมีอะไรที่เป็นเทคโนโลยีให้พัฒนาได้ หรือพวกส่งออกอาหารแช่แข็ง ถ้าจะลงทุนวิจัยเรื่องฟาร์มเกษตร ชีววิทยา เคมี ฯลฯ อะไรอย่างนี้ มันก็มีอะไรที่เป็นประเด็นให้สามารถลงทุน จนมีนวัตกรรมเป็นของตัวเองได้ แต่เท่าที่รู้คือ ไม่มี ( เช่น สายเกษตร ก็สนใจแค่ contract farming ปล่อยชาวนาทำกันไปแล้วเอามาขายส่ง แล้วตัวเองก็เอาไปขายต่อ กินกำไรส่วนต่าง จบ ! )
น่าสนใจว่า ในบริษัทของคนไทยที่รวยๆ พวกนี้ สัดส่วนงบประมาณเพื่อพัฒนานวัตกรรม มันเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วทำไม เค้าไม่ทำเรื่องการพัฒนานวัตกรรมกันคะ เพราะมันไม่คุ้มค่า เพราะมันใช้เงินเยอะเกินไป เพราะมันไม่ต้องทำก็ขายได้ เพราะทำไปก็ไม่สำเร็จ เพราะรัฐไม่สนับสนุน หรือเหตุผลอื่นๆ 555+
ได้ยินว่า ในต่างประเทศ ต่อให้มันไม่ได้ผลิตสินค้าหรือบริการไฮเทคแบบ Google หรือ Microsoft แต่เค้าก็จะมีฝ่ายศึกษาวิจัย อย่างพวกบริษัทประกัน อะไรอย่างนี้ ก็ยังมี R&D เลยใช่ไหมคะ อยากให้ใครที่เข้าใจเรื่องนี้ ช่วยเปรียบเทียบให้หน่อยค่ะ