กระทู้นี้ เป็นเหมือนการอัพเดท จากกระทู้ที่แล้วนะครับ http://ppantip.com/topic/31639986

เป็นความสำเร็จเหนือคาดในทุกๆทางจริงๆ สำหรับแอนิเมชั่นม้ามืดแห่งปี ที่ตอนแรกๆหลาย คงมองว่าทำเงินในระดับหนึ่ง แต่คงไม่ถึงขั้น เป็นแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดแห่งปี (หลายคนคาดว่า ยังไงภาคต่อเจ้ามินเนี่ยนอย่าง Despicable Me 2 ก็นอนมา)

นี่คือสถิติจากกระทู้เดิมและสถิติที่เพิ่มเข้ามาใหม่ครับ

- เป็นภาพยนตร์เปิดตัวสูงสุดในสัปดาห์เทศกาลขอบคุณพระเจ้า ทั้ง 3 วัน ($67M) และ 5 วัน ($93M)
- เป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวที่ไม่ได้อยู่อันดับที่ 1 สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 หนังเปิดตัวไป $67M แพ้อันดับ 1 The Hunger Games: Catching Fire $74M (รองจาก The Day After Tomorrow ที่เปิดตัวไป $68M อันดับ 1 คือ Shrek 2 $72M)
- เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในสัปดาห์ที่ 5 สูงสุดเป็นอันดับ 3 $28.6M (เป็นรองเพียง Avatar $42.7M และ Titanic $30.0M)
- เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในสัปดาห์ที่ 6 สูงสุดเป็นอันดับ 3 $18.5M (เป็นรองเพียง Avatar $34.9M และ Titanic $25.2M)
- เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในสัปดาห์ที่ 7 สูงสุดเป็นอันดับ 4 $14.7M (เป็นรองเพียง Avatar $31.2M, Titanic $25.9M และ The Passion of the Christ $15.2M)
- เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในสัปดาห์ที่ 8 สูงสุดเป็นอันดับ 4 $11.7M (เป็นรองเพียง Titanic $23.0M, Avatar $22.8M และ Home Alone $12.6M)
- เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในสัปดาห์ที่ 10 สูงสุดเป็นอันดับ 4 $8.9M (เป็นรองเพียง Titanic $21.0M, Avatar $16.2M และ Slumdog Millionaire $12.0M)
- เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 18 ในประวัติศาสตร์ที่ทำรายได้เกิน $1000M
- เป็นภาพยนตร์แอนิมั่นเรื่องที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ทำรายได้เกิน $1000M
- เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ไม่ใช่ภาคต่อเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำรายได้เกิน $1000M
- เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นคอมพิวเตอร์ของ วอลต์ ดิสนีย์ แอนิเมชั่น สตูดิโอ เรื่องแรกที่คว้ารางวัลออสการ์สาขา ภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม
- เพลงประกอบภาพยนตร์ Let it Go เป็นเพลงจากดิสนีย์ในรอบ 15 ปีที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาได้ (เพลง You'll Be in My Heart จาก Tarzan เคยคว้ามาได้ตั้งแต่ปี 1999)



ณ ตอนนี้ Frozen สามารถคว้ารางวัลออสการ์ไปได้ทั้ง 2 ตัว ตามที่คาดไว้ มีการวิเคาระห์รายได้ไว้ว่าจะทำเงินในระดับเดียวกับ Iron Man 3 - Toy Story 3 ได้หรือไม่
สัปดาห์นี้ในอเมริกา (สัปดาห์ที่ 15 แล้ว ) หนังทำเงินไปอีก $3.6M ทำรายรับรวมอยู่ที่ $388.7M

ผลพวงจากที่หนังคว้ารางวัลออสการ์มาได้ คงมีผลต่อการยืนระยะการทำเงินต่อไปอยู่ไม่น้อย รายได้ต่อจากนี้เป็นรายได้ที่ผมลองประมาณการณ์เล่นๆนะครับ

สัปดาห์ที่ 16 $3.3M >> $393.0M
สัปดาห์ที่ 17 $2.6M >> $396.5M
สัปดาห์ที่ 18 $2.1M >> $399.1M
สัปดาห์ที่ 19 $1.6M >> $401.2M

ยังไง $400M ผมว่าหนังทำถึงอย่างแน่นอน แต่ที่ลุ้นคือ Transformers: Revenge of the Fallen ($402.1M), Jurassic Park ($402.4M), Spider-Man ($403.7M), The Hunger Games ($408.0M), Iron Man 3 ($409.0M) และ Toy Story 3 ($415.0M) Frozen จะเอาชนะได้ทั้งหมดหรือไม่ คงยากหน่อย แต่ก็น่าลุ้นครับ

ในส่วนของรายรับต่างประเทศนะครับ ณ ตอนนี้ ทำไปแล้ว $611.5M ประเทศทำเงินสุงสุดตามลำดับคือ
เกาหลีใต้ ($75M)
อังกฤษ ($63M)
เยอรมัน ($48M)
ฝรั่งเศส ($47M)  
จีน ($45M)
รัสเซีย ($33M)
ออสเตรเลีย ($31M)
อิตาลี ($27M)
เมกซิโก ($26M)
สเปน ($21M)
และประเทศไทย (฿47M)
ทำให้รายรับรวมทั่วโลกตอนนี้ $388.7M + $611.5M >> $1,000.2M (อะไรมันจะได้พันนึงพอดีขนาดนี้และยังมาคว้าออสการ์ในช่วงเดียวกันอีก )

ตอนนี้มี 2 ประเทศที่ยังคงทำเงินได้อย่างน่าสนใจอยู่คือประเทศเกาหลีและจีน (ประเทศอื่นๆ ยังพอทำรายรับนิดหน่อยๆเพราะฉายมานานมากแล้ว)

ในส่วนของประเทศเกาหลีใต้นั้น ตอนนี้ Frozen สร้างสถิติอย่างเกินคาดอีกเช่นกันที่โดดเด่นสุดเห็นจะเป็น เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลของเกาหลีใต้ไปเป็นที่เรียบร้อย ทิ้งห่าง Kung Fu Panda 2 ($41.3M) ไม่เห็นฝุ่น และตอนนี้ยังหนังฮอลลีวู้ดที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับ 2 อีกด้วย (เอาชนะ Transformers: Dark of The Moon $69M และเป็นรองเพียง Avatar $105M)

ล่าสุด Frozen เข้าฉายที่เกาหลีใต้มาแล้ว 7 สัปดาห์ ในสัปดาห์ที่ 7 ทำไปอีก $1.7M >> $75.0M น่าจะยืนโรงได้อีกสักพัก เพราะวันที่ 6 มีนานี้ หนังจะฉายในรูปแบบ Sing - Along เหมือนอเมริกาที่เคยฉายตอน 31 มกรา คาด น่าจะปิดรายรับอยู่ที่ $80M-$85M

ในส่วนของประเทศจีนนั้น หนังทำเงินไม่โดดเด่นอะไรมาก เพราะเหมือนจะเปิดตัวชนกับโปรแกรมยักษ์ของหนังบ้านเกิดที่เข้าฉายต้อนรับตรุษจีนกันอย่างมากมาย อย่าง The Monkey King ($170M), Dad, Where Are We Going? ($113M), The Man from Macau ($82M) ถือเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมทางด้านภาพยนตร์เติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องมากๆ เพราะไม่ค่อยมีประเทศไหนนอกจากอเมริกา ที่จะมีหนังทำเงินระดับ $100M ได้บ่อยครั้งนัก

พล่ามซะยาว ว่ากันต่อที่ Frozen เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ในจีน หนังทำรายได้ไปประมาณ $3M >> $45M น่าจะจบรายได้อยู่ที่ $50M-$55M สถิติตอนนี้คือเป็นหนังแอนิเมชั่นของดิสนีย์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในประเทศจีน







ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ผมลุ้นรายได้สนุกมาก เพราะมันคาดเดาได้ยากมากจริงๆ เค้าจะออกแนวชาตินิยม ฉันจะดูหนังของฉัน เรื่องไหนที่ว่าฮิตๆอาจจะจอดที่ประเทศนี้ก็เป็นได้ อย่างในเคสของหนัง Marvel หลายๆเรื่องดูจะไม่ค่อยถูกโฉลกกับญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ เพราะอย่าง Thor : The Dark World ที่ฮิตแทบจะทุกประเทศก็ยังมาตายสนิทที่ญี่ปุ่น (ตอนนี้ทำรายได้ไป $5M ทั้งที่เพิ่งฉายไป 3 สัปดาห์เท่านั้น ขณะที่ Eien no zero หนังญี่ปุ่นจ๋าบ้านเกิด เข้าฉายมา 9 สัปดาห์แล้ว ทำไป $72.6M)

งานนี้ มาลุ้นกันว่า Frozen จะออกหมู่หรือจ่า ถ้าจะให้วิเคราะห์ตามหลักแล้ว หนังดิสนีย์ทั้งหลายส่วนใหญ่ค่อนข้างจะผูกพันกับประเทศนี้ เพราะฉะนั้นก็น่าจะเงินได้ระดับหนึ่งและหน่า

รายได้หนังดิสนีย์เด่นๆที่ทำเงินในญี่ปุ่น
Alice in Wonderland ($133.6M)
Toy Story 3 ($126.6M)
Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides ($108.8M)
Finding Nemo ($102.4M)
Pirates of the Caribbean: At World's End ($91.1M)
Monsters University ($90.1M)
Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest ($84.5M)
Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl ($59.8M)
Up ($51.9M)
The Incredibles ($49.9M)
Wall-E ($44.0M)
Cars 2 ($38.1M)
Ratatouille ($33.3M)
Tangled ($31.0M)
Wreck-It Ralph (29.6M)
Enchanted ($27.6M)

หนังจะเข้าฉายญี่ปุ่นในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ยังไงมาลุ้นกันดูว่า จะทำในระดับไหน จากการวิเคาระห์ดูแล้ว น่าจะทำเงินได้แน่ ถ้าฮิตระเบิดระเบ้อเกิน $100M แน่นอน

สรุปรายรายรับในอเมริกาตอนนี้ เข้า Top 20 แล้ว ลุ้นๆ จะแซงได้อีกกี่เรื่อง


สรุปรายรายรับทั่วโลกตอนนี้ตอนนี้ เข้า Top 20 เช่นกัน ลุ้นๆ ญี่ปุ่น ตลาดใหญ่สุดท้าย จะช่วยให้แซง Toy Story 3 (แอบไม่อยากให้แซงชอบ TS3 สุดๆ เป็นแอนิเมชั่นที่ทำผมร้องไห้ได้เรื่องแรก) ได้หรือไม่ คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหา ซึ่งถ้าแซงได้ ก็จะขึ้นเป็นแอนิเมชั่นที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลทันที


สุดท้ายแล้ว ขอทิ้งท้ายประโยคเดิมคือ อันนี้ ถือเป็นการวิเคราะห์จากมุมมองของคนๆหนึ่งเท่านั้น อนาคตเราไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร อาจจะน้อยหรือมากกว่านี้ ก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ Frozen ถือเป็นปรากฏการณ์อีกเรื่องหนึ่งในแวดวงภาพยนตร์ ที่ใครหลายๆคนยังไม่คาดคิดว่าจะมาได้ไกลถึงขนาดนี้ For the First Time in Forever จริงๆ