พวกที่พูดให้กำลังใจจขกท. โดยบอกว่า ให้รอ สักวันคงมีคนเข้าใจ รับคนอ้วนเข้าทำงาน พวกคุณรู้รึเปล่าว่าคุณไม่ได้กำลังช่วยเขา แต่พวกคุณกำลังทำลายเขาทางอ้อม
โลกทางธุรกิจไม่ได้ใช้ความเมตตาบริหารนะคะ คุณจะให้คนอ้วนรอความหวังจากใครหรอคะ?? เวลาสัมภาษณ์ hrเขามีเวลาประเมินคุณแค่ 1-2 ชม. อย่างมาก จะให้สำแดงอิทธิฤทธิ์อย่างไรว่า "ชั้นอ้วนแต่พริ้วนะ" บอกเขาว่าจะสาธิตวิ่งไปหยิบเอกสารจากชั้น 2 ขึ้นมาชั้น 3 ภายใน 1 นาที หรือคะ? สิ่งที่พวกเขาทำได้คือมองภายนอกของคุณ และประวัติผลงานที่อยู่ในมือ รวมกับคำสัมภาษณ์ที่บางทีไม่สามารถบ่งบอกถึงอุปนิสัยอะไรของคนที่มาสมัครเลย

ถ้าคุณต้องการให้กำลังใจ คุณก็ใช้สำนวนให้กำลังใจที่คุณถนัด ปรับปรุงคำให้มันอ่อนหวานขึ้น น่าอ่านขึ้น และทำให้ จขกท. เกิดกำลังใจในการลดน้ำหนักก็ได้
เราไม่ได้จะตัดสินว่าคนอ้วนดีหรือไม่ดี แต่ที่แน่ๆ จขกท. ก็รู้ และทุกๆคนก็รู้ว่า จขกท.กำลังตกที่นั่งลำบากเพราะความอ้วนนั้น แต่ดันช่วยสนับสนุนเนี่ยนะ??? อย่าอ้างว่าคนอ้วนคนนั้นดี คนนี้ประสบความสำเร็จ....เพราะคนเหล่านั้นมาช่วยอะไรจขกท.ให้ได้งานหรือเปล่าล่ะ
ถ้าได้งานจริง ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วย แต่ถ้าจขกท. ไม่ลดความอ้วนเพราะยึดติดกับอุดมคติที่บางคนวาดฝันไว้ให้ จะมีใครรับผิดชอบกับอนาคตของเขาไหม? ตอบให้เลย "ไม่มีหรอก" พวกคุณก็แค่โพสแล้วก็จากไป ทิ้งคำพูดสวยหรูไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น

ขออภัยที่มาป่วน ตอบไม่ตรงประเด็นของจขกท. แต่เราคิดว่า คำด่าที่แฝงคำสอน ย่อมดีกว่า คำหวานเคลือบยาพิษ ค่ะ

ไหนๆก็ตั้งกระทู้ขึ้นมาถามเเล้ว ขอเปิดอกตอบเเบบยอมรับในคำด่าเลยนะคะ

เมื่อก่อนเราก็รับคนอ้วนเข้ามาทำงานค่ะ เพราะเราไม่ต้องการที่จะเเบ่งเเยก พยายามที่จะบอกกับตัวเองว่า เอาน่า คนเหมือนกัน ต้องทำได้เหมือนกันซิ
เเต่ตอนนี้เรารู้เเล้วค่ะว่า เราเพ้อฝันไปเอง

คนอ้วนทำงานช้ามาก เดินอุ้ยอ้ายเเละยังออกเเนวขี้เกียจ กินยังกับยัดนุ่น (เรามีร้านอาหารค่ะ พนักงานกินฟรี) นอกเหนือจากเวลากินเเล้วยังต้องมีขนมขบเคี้ยวซ่อนเอาไว้เเอบกินตลอด เรียกว่าปากต้องขยับอยู่ตลอดเวลา เข้าห้องน้ำทึนานมาก คาดว่ากินเยอะ ถ่ายเยอะ

ถ้าเค้าได้นั่งเเล้วอย่าหวังว่าเค้าจะลุกค่ะ ต้องเรียกให้ลุกกันเลยทีเดียว คนอ้วนมักจะเดินทิ้งน่อง ก้าวฉับๆไม่ได้ อย่างพนักงานยกอาหารเนี่ย ต้องเดินไวมาก เพราะถ้ายกอาหารออกไม่ทันมันจะเย็นจืดชืด พออาหารเสร็จปุ๊ปต้องยกออกปั๊ปเลย คนผอมเพรียวเค้าก้าวกันฉับๆไวมาก ส่วนคนนั้นอ้วนกว่าจะหยิบถาด กว่าจะยกถาด กว่าจะเดินทั้งที่ มีลุ้นตลอดเลยค่ะ  

ยอมรับว่าตอนนี้ไม่รับคนอ้วนเข้ามาทำงานเเล้วค่ะ ทีมเราตอนนี้มีเเต่คนผอมเพรียว รักสุขภาพ เมื่อวานพนักงานขาดไปสองคน เเละที่ร้านก็ยุ่งมาก ขนาดคนขาดนะคะ เด็กที่เหลือวิ่งกันวุ่น เเต่งานออกมาเรียบร้อยทุกอย่าง ถ้าเป็นเมื่อก่อนหน่ะเหรอ ขนาดคนเกินยังทำไม่ทันเลยค่ะ

คนที่จะอ้วนขึ้นมาได้เพราะมีสาเหตุค่ะ ขาดวินัยในตัวเอง ถ้าเรื่องเเค่นี้เค้ายังทำเพื่อตัวเองไม่ได้เเล้วละก็ ไม่ต้องไปหวังว่าเค้าจะทำอะไรเพื่อใครได้ค่ะ (ขอยกเว้นในกรณีที่อ้วนเพราะเป็นโรคนะคะ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี่ยกให้คนที่อ้วนเพราะตะกละล้วนๆเลยค่ะ)

เชิญด่าได้เต็มที่เลยค่ะ เราก็เเค่เปิดอกเท่านั้นว่าเพราะอะไร ไหนๆก็ตั้งกระทู้มาถามกันเเล้ว ขอบคุณค่ะ

จริงๆ เข้าใจ จขกท.มากๆ เลยค่ะ

แรกๆ ตอนเราเรียนจบ เรานน.เกือบ 85 kg

สมัครงานหลายที่ อาชีพเรา งานบริการค่ะ

ก็ไม่มีใครเรียก เอ๊ะ ทำไมนะ เกรดเราก็ดี เกียรตินิยมอันดับ 1

จริงๆ ก็ไม่รู้เกี่ยวไหม แต่ก็คิดเอาเองว่า ถ้าเขาเลือกได้ เขาก็คงเลือกคนที่บุคลิกดีมากกว่าคนมีความรู้ดีล่ะมั๊ง

ก่อนได้งาน ก็เริ่มออกกำลังกายเลยค่ะ

ระหว่างนั้น ก็ได้งาน ซึ่งถือว่าเราได้โอกาสที่ดีมากๆ เลยล่ะ
ทุกวันนี้ผ่านไป 2 ปีกว่าๆ เราก็ยังทำงานอยู่ที่เดิม นน.เราลดไป 20 กว่าโล ลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ผลที่ได้ มันคุ้มค่ามากๆ ค่ะ พิมพ์ไปน้ำตาจะไหล เหมือนเป็นคนใหม่ค่ะ พูดเลย

ยังไงก็อยากเป็นกำลังใจให้จขกท.มีทัศนคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาพตัวเองค่ะ

ไม่ว่าจะอ้วนหรือผอม เราก็ต้องออกกำลังกาย เพื่อเป็นการดูแลตัวเอง

ถ้าไม่รักตัวเอง ก็ไม่มีใครรักแล้วค่ะ ^^