- ผลออสการ์ปีนี้นี่เดาได้ไม่ยากเลย อย่างสาขาการแสดง (Jared, Lupita, Cate และ Matthew) นี่ก็นอนมาทั้งสี่สาขา / ว่าแล้วว่า Gravity ต้องกวาดรางวัลสาขาเทคนิค + ผกก.ให้ Alfonso Cuarón และก็ว่าแล้วว่า 12 Years a Slave ต้องได้ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม(คือ Win-Win กันทั้งสองฝ่าย)
- เจ๊ Ellen แกเป็นพิธีกรออสการ์ปีนี้ได้ดีเลยทีเดียว เน้นความฮาแบบเป็นธรรมชาติ แซวคนนู่นทีคนนี้ที ไม่ได้เน้นฮาเสื่อมแบบงานปีที่แล้วที่ได้พี่ Seth McFarlane มาเป็นพิธีกร(ถึงตัวเองจะชอบความกล้าบ้าบิ่นของพี่ Seth แกก็เถอะ) อย่างฮามหกรรมถ่ายรูปเซลฟี่ + พิซซ่า
- เสียใจ / ทำไม? / The Wind Rises ชวดสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม ;_; #ติ่งGhibliช้ำใจ #หมั่นไส้Frozen #ชิ
- Karen O อย่างสวย + U2 อย่างทรงพลัง แต่ชะตาฟ้าลิขิตมาแล้วว่ายังไงเพลงป๊อปฮิตออฟเดอะเยียร์อย่าง Let It Go ต้องได้สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม / ชอบเพลงนี้นะ ไม่ได้ตะขิดตะขวงอะไรที่เพลงนี้ได้รางวัล แต่เชื่อว่าอีกไม่นานคนคงจะเอียนเพลงนี้ไม่ต่างอะไรไปจากคราวเพลง My Heart Will Go On ของ Céline Dion
- ส่วนตัวเชียร์ให้เฮีย Michael Fassbender ได้สาขาสมทบชาย แต่สปีชของพี่ Jared Leto นี่ดีมากๆ / ตอนดูนี่อย่างลุ้นว่าออสการ์แมร่งจะสั่งตัดสปีชของพี่ Jared แกรึเปล่า ดีใจที่ปีนี้ผู้ชนะทุกคนได้พูดกันเต็มที่ ไม่ต้องหวั่นว่าจะโดนเพลงธีมของ Jaws แบบคราวปีที่แล้ว[ถ้าเอ็ง(หมายถึงออสการ์)จะทำอะไรเสียมารยาทแบบนั้นอีก กูว่าเอ็งไปจ้าง Kanye West มาเลยเถอะ...]
- ส่วนตัวเชียร์ให้เจ้าป้า June Squibb ได้สาขาสมทบหญิง(สาเหตุหลักก็เพราะฉากที่เอามาโชว์นั่นแหละ 555+) แต่ Lupita Nyong’o น่าเอ็นดูมาก
- จะผิดไหมถ้าจะบอกว่าตัวเองดู The Great Beauty ของผกก. Paolo Sorrentino ไม่(ค่อย)รู้เรื่อง? ตอนหามาดูก็กะไว้แล้วว่าหนังมันคงจะออกแนวเซอร์เรียลงงๆเง็งๆคล้ายๆหนังของ Fellini อย่าง 8 ½ …แล้วมันก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ / สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมปีนี้นี่กะเชียร์ Blue Is the Warmest Color เต็มที่ แต่ดันไม่ได้แม้แต่เข้าชิง(ซะงั้น)
- ตอน Spike Jonze ขึ้นไปรับรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นอกจากตัวเองจะกรี๊ดลั่นบ้านแล้วยังเหมือนเห็นเงาสะท้อนของเมียเก่าของพี่แกอย่าง Sofia Coppola ตอนที่นางขึ้นไปรับรางวัลสาขาเดียวกันนี้เมื่อปี 2003 (ส่วนตัวแอบมองว่า Lost in Translation และ Her คือการที่สองคนนี้พยายามสื่อถึงกันผ่านหนัง)
- ชัดเจนตั้งแต่การให้ Will Smith เป็นผู้ประกาศผลรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมว่า 12 Years a Slave ต้องได้ชัวร์ๆ
ฝากเพจคุยเรื่องหนัง,เพลง,เกม,การ์ตูนแบบจิปาถะแบบตามใจตัวเองของผมด้วยนะครับ
>>>
https://www.facebook.com/appleoneoone
### แชร์ความรู้สึกหลังดูงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 86 ประจำปี 2014 ###
- ผลออสการ์ปีนี้นี่เดาได้ไม่ยากเลย อย่างสาขาการแสดง (Jared, Lupita, Cate และ Matthew) นี่ก็นอนมาทั้งสี่สาขา / ว่าแล้วว่า Gravity ต้องกวาดรางวัลสาขาเทคนิค + ผกก.ให้ Alfonso Cuarón และก็ว่าแล้วว่า 12 Years a Slave ต้องได้ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม(คือ Win-Win กันทั้งสองฝ่าย)
- เจ๊ Ellen แกเป็นพิธีกรออสการ์ปีนี้ได้ดีเลยทีเดียว เน้นความฮาแบบเป็นธรรมชาติ แซวคนนู่นทีคนนี้ที ไม่ได้เน้นฮาเสื่อมแบบงานปีที่แล้วที่ได้พี่ Seth McFarlane มาเป็นพิธีกร(ถึงตัวเองจะชอบความกล้าบ้าบิ่นของพี่ Seth แกก็เถอะ) อย่างฮามหกรรมถ่ายรูปเซลฟี่ + พิซซ่า
- เสียใจ / ทำไม? / The Wind Rises ชวดสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม ;_; #ติ่งGhibliช้ำใจ #หมั่นไส้Frozen #ชิ
- Karen O อย่างสวย + U2 อย่างทรงพลัง แต่ชะตาฟ้าลิขิตมาแล้วว่ายังไงเพลงป๊อปฮิตออฟเดอะเยียร์อย่าง Let It Go ต้องได้สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม / ชอบเพลงนี้นะ ไม่ได้ตะขิดตะขวงอะไรที่เพลงนี้ได้รางวัล แต่เชื่อว่าอีกไม่นานคนคงจะเอียนเพลงนี้ไม่ต่างอะไรไปจากคราวเพลง My Heart Will Go On ของ Céline Dion
- ส่วนตัวเชียร์ให้เฮีย Michael Fassbender ได้สาขาสมทบชาย แต่สปีชของพี่ Jared Leto นี่ดีมากๆ / ตอนดูนี่อย่างลุ้นว่าออสการ์แมร่งจะสั่งตัดสปีชของพี่ Jared แกรึเปล่า ดีใจที่ปีนี้ผู้ชนะทุกคนได้พูดกันเต็มที่ ไม่ต้องหวั่นว่าจะโดนเพลงธีมของ Jaws แบบคราวปีที่แล้ว[ถ้าเอ็ง(หมายถึงออสการ์)จะทำอะไรเสียมารยาทแบบนั้นอีก กูว่าเอ็งไปจ้าง Kanye West มาเลยเถอะ...]
- ส่วนตัวเชียร์ให้เจ้าป้า June Squibb ได้สาขาสมทบหญิง(สาเหตุหลักก็เพราะฉากที่เอามาโชว์นั่นแหละ 555+) แต่ Lupita Nyong’o น่าเอ็นดูมาก
- จะผิดไหมถ้าจะบอกว่าตัวเองดู The Great Beauty ของผกก. Paolo Sorrentino ไม่(ค่อย)รู้เรื่อง? ตอนหามาดูก็กะไว้แล้วว่าหนังมันคงจะออกแนวเซอร์เรียลงงๆเง็งๆคล้ายๆหนังของ Fellini อย่าง 8 ½ …แล้วมันก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ / สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมปีนี้นี่กะเชียร์ Blue Is the Warmest Color เต็มที่ แต่ดันไม่ได้แม้แต่เข้าชิง(ซะงั้น)
- ตอน Spike Jonze ขึ้นไปรับรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นอกจากตัวเองจะกรี๊ดลั่นบ้านแล้วยังเหมือนเห็นเงาสะท้อนของเมียเก่าของพี่แกอย่าง Sofia Coppola ตอนที่นางขึ้นไปรับรางวัลสาขาเดียวกันนี้เมื่อปี 2003 (ส่วนตัวแอบมองว่า Lost in Translation และ Her คือการที่สองคนนี้พยายามสื่อถึงกันผ่านหนัง)
- ชัดเจนตั้งแต่การให้ Will Smith เป็นผู้ประกาศผลรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมว่า 12 Years a Slave ต้องได้ชัวร์ๆ
ฝากเพจคุยเรื่องหนัง,เพลง,เกม,การ์ตูนแบบจิปาถะแบบตามใจตัวเองของผมด้วยนะครับ