4 เดือนกับ 20 วันที่เดมี่ต้องอยู่โรงพยาบาล
วันนี้จะมาเล่าเรื่องของเดมี่ที่ป่วยเป็นอัมพาตด้วยโรค GBS อย่างเฉียบพลันเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2013
อ่านย้อนหลังตามลิ๊งค์นี้นะคะจะได้ไม่ต้องเล่าย้อนไปย้อนมา
หลังจากการให้ยา Immunglobulin ให้ 5 วันวันละครั้ง
แล้วรอดูอาการของโรคไปเรื่อยๆอย่างระมัดระวังของอาการแทรกซ้อนและอาการแพ้
หลังจากอาการกระเตื้องขึ้นไปในทางบวกทางโรงพยาบาลก็จัดการเคลียร์สถานที่ห้องพักฟื้นให้
เพื่อจะให้ไปทำกายภาพบำบัดอย่างเร่งด่วนที่ Rehabilitationszentrum
สถานที่นี้จะมีเครื่องทำกายภาพบำบัดชนิดต่างๆแบบทันสมัยที่นี่เป็นที่สำหรับเด็กอ่อนจนถึงวัย 18 ปี
วันที่เดินทางเดมี่ยังอ่อนแออยู่มากเราเดินทางด้วยรถกู้ภัยที่มีเจ้าเดียวในประเทศสวิส
ที่หน่วยกู้ภัยจะทำงานร่วมกันกับทางการแพทย์และโรงพยาบาลทุกๆแห่งในประเทศสวิส Rettungsdienst
เบอร์โทร 144 ทั่วสวิส วันที่ไปส่งเดมี่ไม่มีหมอมีแต่เจ้าหน้าที่ 2 ท่านที่เรียกว่า Rettungssanitäter
ราคาค่านำส่งเริ่มต้นที่ 470 เราจ่ายราคาราวๆ 700-800 สวิสฟรังค์
ตามระยะทางเพราะไม่ต้องมีหมอติดตามและไม่ต้องเปิดหวอเพราะเดมี่มีอาการทรงตัวไปในทางบวก
ถ้ามีหมอติดตามต้องจ่ายเพิ่มอีกเริ่มต้นที่ 600 ฟรังค์+เวลาให้เดินทางพร้อมกับหมอกี่คน
ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการศึกษาอบรมมาเป็นอย่างดีพร้อมกับใบอนุญาตประกอบอาชีพนี้ที่เรียก Rettungssanitäter.....
และกู้ภัยทางอากาศมีเจ้าเดียวเช่นกันที่เราเรียกว่า
REGA 1414 ด้วยเครื่องบินเฮลีคอ๊ปเตอร์ที่โรงพยาบาลเด็กจะมีมารับมาส่งแทบทุกๆวันเลย
ส่วนค่าบริการคิดตามเส้นทางการนำส่งเป็นกิโล+แพทย์หรือผู้ช่วยติดตามกี่คนคิดเป็นราคาชั่วโมงละสำหรับแพทย์....
เราไม่ต้องจ่ายค่าบริการนี้ค่ะที่ประเทศสวิสเรามีประกันป่วยภาคบังคับทุกๆคน
ที่จะต้องมีเราจะต้องจ่ายเป็นรายเดือนหรือจ่ายทีเดียวรวดไปเลยทั้งปีที่บ้านเราจ่ายปีนี้เดือนละ 1,078 สวิสฟรังค์สำหรับ 4 คน
พ่อแม่ลูกๆต่อเดือนป่วยไม่ป่วยก็ต้องจ่าย
ที่นี่เป็นสถานบำบัดกินนอนที่นี่
เด็กๆเหล่านี้ที่จะต้องมาทำกายภาพบำบัดจากการเจ็บป่วยหรือการเกิดอุบัติเหตุของเด็กๆหรือวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 เท่านั้น
สถานที่นี้เป็นสถานที่ทำกายภาพบำบัดของโรงพยาบาลเด็กซูริคที่บำบัดร่างกายที่เรียกว่าหายด้วยมือและบำบัดจิตใจ
ที่นี่เหมือนบ้านไม่เหมือนโรงพยาบาลเพราะว่าที่นี่คือสถานที่พักฟื้นที่จะต้องทำให้คนป่วยฟื้นตัวเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
ฉะนั้นทั้งแพทย์และพยาบาลและนักบำบัดทุกๆแผนกจะต้องทำหน้าที่ตัวเองให้คนไข้ฟื้นตัวเร็วเท่าที่จะเร็วได้
ที่นี่จะฝึกสอนให้ผู้ป่วยทั้งทางด้านร่างกายและทางด้านจิตใจให้แข็งแก่งกลับมาใช้ชีวิตได้ตามเดิม
แม้จะมีความพิการจากการเจ็บป่วยหรือการพิการจากอุบัติเหตุที่ได้รับมาหลงเหลืออยู่
แต่พวกเขาจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเองถ้าทำได้
หลังจากที่ย้ายมาที่นี่ 2 อาทิตย์ผ่านไปเดมี่อาการดีขึ้นเรื่อยๆ
แต่ละวันจะมีตารางเรียนตารางบำบัดมาให้ว่าใครมีชั่วโมงนี้เวลานี้จะบำบัดอะไรมาแจกให้กับผู้ป่วยว่าพรุ่งนี้เขามีโปรแกรมอะไรบ้าง
หลายๆคนจะมีโปรแกรมที่แตกต่างกันออกไปของการรักษาพยาบาลตามแขนงของโรคและสภาพจิตใจในตอนนี้
แต่ผู้ป่วยที่จะต้องทำเหมือนกันคือกายภาพบำบัดแต่ละชนิดวันละหลายชั่วโมง
เดมี่มีการทำกายภาพบำบัดอย่างหนักเพราะเดมี่เป็นโรคที่รักษาหาย
และอาการของเดมี่ดีวันดีคืนไปในทางบวกทีมรักษาจึงต้องรักษาเดมี่ให้หายเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะเดมีต้องเรียนขาดๆหายๆเรียนไม่ได้เต็มที่เหมือนเรียนที่โรงเรียน
เขาไม่ต้องการให้เด็กจะต้องเรียนซ้ำชั้นในกรณีที่เด็กป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนานๆ
>>>กายภาพบำบัดมีหลายแขนงของวิธีทำ<<<
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากหมาบำบัด
หมาที่ได้รับการฝึกหัดมาเพื่อคนป่วยหมามาช่วยฟื้นฟูจิตใจให้กับผู้ป่วย
ทำหน้าที่ได้หลายอย่างและบำบัดทางจิตใจไปด้วยกับสัตว์เหล่านี้
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากม้าบำบัด
การขี่ม้าคือการบำบัดแขนงหนึ่งของกายภาพบำบัดให้กับผู้ป้วยที่เป็นอัมพาตผู้ป่วยที่ป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุ
ทำให้เส้นประสาทบาดเจ็บหรือสูญเสีย
การขี่ม้าที่จะต้องแยกขาให้กว้างนั่งบนหลังม้าการก้าวขึ้นหลังม้าก็คือการบำบัดการฝึกหัดเส้นเอ็นให้ยืด
ไม่ตึงและบำบัดทางจิตใจไปด้วยกับสัตว์เหล่านี้
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากเครื่องหุ่นยนต์ Lokomat
เครื่องช่วยเดินเครื่องนี้ผลิตขึ้นมาจากประเทศสวิสเพื่อใช้ในการบำบัดผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตจากการป่วยหรือจากอุบัติเหตุ
ช่วยในการเดินช่วยกระตุ้นเส้นประสาทให้กลับมาทำงานได้เหมือนเดิมทำให้กล้ามเนื้อกลับมาแข็งแรง
เครื่องนี้มีราคาหลายล้านบาท
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากเครื่องอีเลคโทรนิคโปรแกรมต่างๆ
จากคอมพิวเตอร์ของการบำบัดนิ้วมือการเล่นเกมส์ที่มีการใช้นิ้วมือในท่าต่างๆ
เด็กๆผู้ป่วยหลายๆคนก็ต้องพึ่งนักบำบัดหลายแขนงแตกต่างกันออกไปตามโรคตามอาการที่เป็นและได้รับมา
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากการว่ายน้ำ
ที่จะทำให้เส้นเอ็นกล้ามเนื้อแข็งแรงกลับเข้าสภาพเดิมเหมือนก่อนที่จะป่วย
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากการปีนเขาจำลอง
ผู้ป่วยที่มาบำบัดที่นี่จะได้รับการดูแลเอาใจใส่ดีมาก
เพราะเด็กๆเหล่านี้ยังไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่อดทนต่อโรคภัยหรืออุบัติเหตุที่พวกเขาได้รับมาในขณะนี้
ฉะนั้นพยาบาลจะเอาใจเด็กๆมากว่าเขามีอารมณ์อยากทำอะไรหรือไม่อยากทำอะไรในตอนนี้
พยาบาลจะพาผู้ป่วยไปเดินสูดอากาศแทบทุกวัน
ขนาดผู้ป่วยเดินและนั่งไม่ได้ก็เข็นเตียงทั้งเตียงออกไปเดินข้างนอกกันเลยทีเดียว
ซึ่งที่ใหนบ้างจะใส่ใจกับคนไข้ขนาดนี้และพาเล่นเกมส์ต่างๆ
พาทำงานฝีมือในยามว่าเพื่อที่จะบำบัดจิตใจเด็กเหล่านี้ไปในตัวเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยเหงาและคิดมาก
การรับประทานอาหารเขาจะจัดโต๊ะนั่งด้วยกันทั้งพยาบาลและผู้ป่วย
ไม่แบ่งแยกพร้อมทั้งอาหาร 3 มื้อปฏิบัติเหมือนอยู่ที่บ้านไม่ได้กินอาหารถาดหลุม
ถ้าผู้ป่วยอยากอาบน้ำอยากลงอ่างพยาบาลก็จะจัดเวลามาพาอาบน้ำลงอ่างเป็นชั่วโมงเขาทำได้ไม่เคยบ่น
เด็กๆผู้ป่วยเหล่านี้จะต้องเรียนหนังสือตามสภาพของโรคและอาการตามวัย
สอนตัวต่อตัวหรือบางชั่วโมงเช่นงานฝีมือเขาก็เรียนร่วมกันได้
เดมี่และผู้ป่วยอื่นๆจะถูกบำบัดให้ช่วยเหลือตัวเองเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
ช่วงใหม่ๆเดมี่เริ่มหัดนั่งวีลแชร์หรือรถเข็ญแบบผู้ป่วยหนักที่มีทรงสูงถึงศรีษะ
เพื่อพิงเพราะร่างกายยังทรงตัวเองไม่ได้จึงต้องมีที่พิง
เพื่อที่จะให้ได้ขนาดกับร่างกายที่เป็นอัมพาตที่ยังนั่งเองและนั่งนานไม่ได้
เพราะเส้นประสาทยังไม่ทำงานจึงมีอาการเจ็บปวดมากมายเวลาลุกนั่งเปลี่ยนท่า
แต่ต้องหัดนั่งเพื่อที่ร่างกายจะขยับเขยื้อนฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าแต่อาการของเดมี่ดีวันดีคืนขาเริ่มกระดิกนิ้วเท้าได้
และนักบำบัดให้เริ่มหัดยืนช่วงสั้นๆเพื่อดูการทรงตัวได้ขนาดใหนเดมี่ก็ทำได้ดีมาก
หลังจากนั้นนักบำบัดก็ให้เปลี่ยนวีลแชร์หรือรถเข็นแบบที่เข็นตัวเองไปใหนได้ตามใจชอบ
และเดมี่เริ่มเข็นตัวเองไปเรียนไปบำบัดที่ชั้นหรือแผนกต่างๆได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งพยาบาลอีกแล้ว
นอกจากเวลาจะลุกจารถเข็นมาที่เตียงนอนช่วงนี้จะต้องมีคนช่วยดูแลไม่งั้นมีล้มบาดเจ็บ
ช่วงนี้เดมี่ยังต้องฉีดยาที่ต้นขาเพื่อป้องกัน insuflon ลิ่มเลือดไปอุดตันที่เรียกโรค Thrombosis
คนป่วยที่ไม่สามารถเดินหรือขยับได้โรคนี้ก็จะมาเบียดเบียนได้ง่ายๆ
เดมี่เริ่มเบื่อไม่อยากฉีดยาอีกแล้วเธอเลยถามพยาบาลว่าจะฉีดอีกนานใหมพยาบาลบอกว่าเดี๋ยวจะถามหมอให้
หมอเลยบอกว่าถ้าเธอขยันหัดเดินก็ไม่ต้องฉีดอีกแล้วเดมี่เลยปั่นใหญ่เลยพยายามนั่งวีลแชร์หรือรถเข็นน้อยลงเ
ดินมากขึ้นเพราะไม่อยากฉีดยาหลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์เดมี่ก็ไม่ต้องฉีดยาอีกเลย
และพยาลาบบอกให้เอารถเข็นไปจอดใว้ที่ใกลๆจะได้เดินมากขึ้นเดมี่ทำตามอย่างว่าง่ายเพื่อจะได้หายเร็วๆ
หนึ่งเดือนต่อครั้งทีมหมอและทีมบำบัดทุกๆแขนงและทีมคุณครูที่สอนเดมี่
ที่โรงพยาบาลจะจัดประชุมพ่อกับแม่ของเดมี่
เพื่อรายงานผลของการรักษาว่าเดมี่ก้าวหน้าไปถึงใหนแล้ว
และจะกำหนดเวลาให้ได้ว่าเดมี่จะต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานเท่าไหร่
แต่ละครั้งของการประชุมเราพ่อแม่จะได้รับได้ยินแต่เรื่องดีๆเกี่ยวกับเดมี่
ที่ให้ความร่วมมือกับทีมงานทีมหมอรักษาเป็นอย่างดี
ไม่งอแงเข้ากับผู้ป่วยคนอื่นได้ง่ายเป็นที่เบาใจของทีมหมอทีมบำบัดต่างๆได้ดีมาก
ตอนนี้อาการของเดมี่ดีถึงขั้นสูงสุดและได้ย้ายแผนกไปอยู่รวมกับเพื่อนๆผู้ป่วยวัยไล่เลี่ยกันที่อีกชั้นหนึ่ง
ชั้นนี้คือชั้นสูงสุดที่ภาษาเยอรมันจะเรียก WG (Wohngemeinschaft) และหลังจากนั้นก็จะได้กลับบ้าน
ช่วงนี้เดมี่ได้รับอนุญาติให้กลับบ้านเสาร์-อาทิตย์ได้คือกลับบ้านตอนเย็นวันศุกร์หลังจากที่เทราปี้ชั่วโมงสุดท้ายเสร็จ
และจะต้องกลับไปวันอาทิตย์ก่อน 2 ทุ่ม
เราพ่อแม่พี่ชายของเดมี่ดีใจมากที่เดมี่ได้กลับมาบ้านหลังจากที่ป่วยไม่เคยได้กลับบ้านเลยราวๆ 3 เดือน
กลับมาบ้านเพื่อจะได้สับเปลี่ยนของความรู้สึกว่าเรากำลังจะหายแล้ว
หลังจากประชุมพ่อแม่ครั้งสุดท้ายทีมหมอทีมบำบัดทั้งทีมคุณครูลงมติกันได้แน่นอนว่าเดมี่จะได้กลับบ้านช่วงคริศมาส
เดมี่เลยไปขอลงวันที่ที่แน่นอนคือวันที่ 18 ธันวาคม
เพราะที่ประเทศสวิสเด็กนักเรียนจะมีฉลองส่งท้ายก่อนสิ้นปีคือปิดเทอมแรกผ่านไปต้องฉลองกัน
>>>ก่อนกลับบ้านทางทีมแพทย์และทีมบำบัดได้ร่างจดหมายข้อมูลทางการแพทย์ของการรักษาเดมี่
ตั้งแต่เริ่มป่วยวันแรกและจนถึงวันสุดท้ายว่ารักษาแบบใหนได้รับยาอะไรไปบ้าง
และอาการตอบสนองของการให้ยาและการบำบัดและอาการที่หลงเหลืออยู่ Reflex
ซึ่งเดมี่ไม่ต้องไปรับการรักษาตัวบำบัดต่อที่ใหนอีกซึ่งเดมี่มีอาการหลงเหลืออยู่น้อยมากเช่นการกระโดด
ที่ยังทำใม่ได้เต็มที่แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาไม่ได้เรียกว่าป่วยเพราะอาการเหล่านี้ต้องให้เวลาเยียวยา
ไปกับการใช้ชีวิตประจำวันข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปให้หมอเด็กของเดมี่
ซึ่งซึ่งประเทศสวิสจะมีหมอเด้กสำหรับเด็กและโรงพยาบาลเด็กไปจนถึงอายุ 16
เดมี่จะต้องไปหาหมอเด็กเรื่องฉีดวัคซินจนถึงอายุ 16
ข้อมูลเหล่านี้เลยต้องส่งไปให้แพทย์ท่านนี้ทั้งที่เขาไม่ได้รักษาเดมี่ให้เขารับรู้ว่าเดมี่เคยป่วยมาแบบใหนเมื่อไหร่
นี่คือการประสานงานกันของหมอและทางโรงพยาบาลประเทศสวิสซึ่งเราไม่ต้องทำเองหมอทำให้ทั้งนั้นกับทุกๆเรื่อง
>>> 4 เดือนกับ 20 วันที่หนูเดมี่ป่วยเป็นอัมพาตจากโรค GBS หนูหายสนิทเดินได้แล้วค่ะ <<<
ภาพนี้เเพื่อแม่เดมี่อบขนมเค๊กให้แม่
4 เดือนกับ 20 วันที่เดมี่ต้องอยู่โรงพยาบาล
วันนี้จะมาเล่าเรื่องของเดมี่ที่ป่วยเป็นอัมพาตด้วยโรค GBS อย่างเฉียบพลันเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2013
อ่านย้อนหลังตามลิ๊งค์นี้นะคะจะได้ไม่ต้องเล่าย้อนไปย้อนมา
หลังจากการให้ยา Immunglobulin ให้ 5 วันวันละครั้ง
แล้วรอดูอาการของโรคไปเรื่อยๆอย่างระมัดระวังของอาการแทรกซ้อนและอาการแพ้
หลังจากอาการกระเตื้องขึ้นไปในทางบวกทางโรงพยาบาลก็จัดการเคลียร์สถานที่ห้องพักฟื้นให้
เพื่อจะให้ไปทำกายภาพบำบัดอย่างเร่งด่วนที่ Rehabilitationszentrum
สถานที่นี้จะมีเครื่องทำกายภาพบำบัดชนิดต่างๆแบบทันสมัยที่นี่เป็นที่สำหรับเด็กอ่อนจนถึงวัย 18 ปี
วันที่เดินทางเดมี่ยังอ่อนแออยู่มากเราเดินทางด้วยรถกู้ภัยที่มีเจ้าเดียวในประเทศสวิส
ที่หน่วยกู้ภัยจะทำงานร่วมกันกับทางการแพทย์และโรงพยาบาลทุกๆแห่งในประเทศสวิส Rettungsdienst
เบอร์โทร 144 ทั่วสวิส วันที่ไปส่งเดมี่ไม่มีหมอมีแต่เจ้าหน้าที่ 2 ท่านที่เรียกว่า Rettungssanitäter
ราคาค่านำส่งเริ่มต้นที่ 470 เราจ่ายราคาราวๆ 700-800 สวิสฟรังค์
ตามระยะทางเพราะไม่ต้องมีหมอติดตามและไม่ต้องเปิดหวอเพราะเดมี่มีอาการทรงตัวไปในทางบวก
ถ้ามีหมอติดตามต้องจ่ายเพิ่มอีกเริ่มต้นที่ 600 ฟรังค์+เวลาให้เดินทางพร้อมกับหมอกี่คน
ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการศึกษาอบรมมาเป็นอย่างดีพร้อมกับใบอนุญาตประกอบอาชีพนี้ที่เรียก Rettungssanitäter.....
และกู้ภัยทางอากาศมีเจ้าเดียวเช่นกันที่เราเรียกว่า
REGA 1414 ด้วยเครื่องบินเฮลีคอ๊ปเตอร์ที่โรงพยาบาลเด็กจะมีมารับมาส่งแทบทุกๆวันเลย
ส่วนค่าบริการคิดตามเส้นทางการนำส่งเป็นกิโล+แพทย์หรือผู้ช่วยติดตามกี่คนคิดเป็นราคาชั่วโมงละสำหรับแพทย์....
เราไม่ต้องจ่ายค่าบริการนี้ค่ะที่ประเทศสวิสเรามีประกันป่วยภาคบังคับทุกๆคน
ที่จะต้องมีเราจะต้องจ่ายเป็นรายเดือนหรือจ่ายทีเดียวรวดไปเลยทั้งปีที่บ้านเราจ่ายปีนี้เดือนละ 1,078 สวิสฟรังค์สำหรับ 4 คน
พ่อแม่ลูกๆต่อเดือนป่วยไม่ป่วยก็ต้องจ่าย
ที่นี่เป็นสถานบำบัดกินนอนที่นี่
เด็กๆเหล่านี้ที่จะต้องมาทำกายภาพบำบัดจากการเจ็บป่วยหรือการเกิดอุบัติเหตุของเด็กๆหรือวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 เท่านั้น
สถานที่นี้เป็นสถานที่ทำกายภาพบำบัดของโรงพยาบาลเด็กซูริคที่บำบัดร่างกายที่เรียกว่าหายด้วยมือและบำบัดจิตใจ
ที่นี่เหมือนบ้านไม่เหมือนโรงพยาบาลเพราะว่าที่นี่คือสถานที่พักฟื้นที่จะต้องทำให้คนป่วยฟื้นตัวเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
ฉะนั้นทั้งแพทย์และพยาบาลและนักบำบัดทุกๆแผนกจะต้องทำหน้าที่ตัวเองให้คนไข้ฟื้นตัวเร็วเท่าที่จะเร็วได้
ที่นี่จะฝึกสอนให้ผู้ป่วยทั้งทางด้านร่างกายและทางด้านจิตใจให้แข็งแก่งกลับมาใช้ชีวิตได้ตามเดิม
แม้จะมีความพิการจากการเจ็บป่วยหรือการพิการจากอุบัติเหตุที่ได้รับมาหลงเหลืออยู่
แต่พวกเขาจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเองถ้าทำได้
หลังจากที่ย้ายมาที่นี่ 2 อาทิตย์ผ่านไปเดมี่อาการดีขึ้นเรื่อยๆ
แต่ละวันจะมีตารางเรียนตารางบำบัดมาให้ว่าใครมีชั่วโมงนี้เวลานี้จะบำบัดอะไรมาแจกให้กับผู้ป่วยว่าพรุ่งนี้เขามีโปรแกรมอะไรบ้าง
หลายๆคนจะมีโปรแกรมที่แตกต่างกันออกไปของการรักษาพยาบาลตามแขนงของโรคและสภาพจิตใจในตอนนี้
แต่ผู้ป่วยที่จะต้องทำเหมือนกันคือกายภาพบำบัดแต่ละชนิดวันละหลายชั่วโมง
เดมี่มีการทำกายภาพบำบัดอย่างหนักเพราะเดมี่เป็นโรคที่รักษาหาย
และอาการของเดมี่ดีวันดีคืนไปในทางบวกทีมรักษาจึงต้องรักษาเดมี่ให้หายเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะเดมีต้องเรียนขาดๆหายๆเรียนไม่ได้เต็มที่เหมือนเรียนที่โรงเรียน
เขาไม่ต้องการให้เด็กจะต้องเรียนซ้ำชั้นในกรณีที่เด็กป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนานๆ
>>>กายภาพบำบัดมีหลายแขนงของวิธีทำ<<<
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากหมาบำบัด
หมาที่ได้รับการฝึกหัดมาเพื่อคนป่วยหมามาช่วยฟื้นฟูจิตใจให้กับผู้ป่วย
ทำหน้าที่ได้หลายอย่างและบำบัดทางจิตใจไปด้วยกับสัตว์เหล่านี้
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากม้าบำบัด
การขี่ม้าคือการบำบัดแขนงหนึ่งของกายภาพบำบัดให้กับผู้ป้วยที่เป็นอัมพาตผู้ป่วยที่ป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุ
ทำให้เส้นประสาทบาดเจ็บหรือสูญเสีย
การขี่ม้าที่จะต้องแยกขาให้กว้างนั่งบนหลังม้าการก้าวขึ้นหลังม้าก็คือการบำบัดการฝึกหัดเส้นเอ็นให้ยืด
ไม่ตึงและบำบัดทางจิตใจไปด้วยกับสัตว์เหล่านี้
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากเครื่องหุ่นยนต์ Lokomat
เครื่องช่วยเดินเครื่องนี้ผลิตขึ้นมาจากประเทศสวิสเพื่อใช้ในการบำบัดผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตจากการป่วยหรือจากอุบัติเหตุ
ช่วยในการเดินช่วยกระตุ้นเส้นประสาทให้กลับมาทำงานได้เหมือนเดิมทำให้กล้ามเนื้อกลับมาแข็งแรง
เครื่องนี้มีราคาหลายล้านบาท
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากเครื่องอีเลคโทรนิคโปรแกรมต่างๆ
จากคอมพิวเตอร์ของการบำบัดนิ้วมือการเล่นเกมส์ที่มีการใช้นิ้วมือในท่าต่างๆ
เด็กๆผู้ป่วยหลายๆคนก็ต้องพึ่งนักบำบัดหลายแขนงแตกต่างกันออกไปตามโรคตามอาการที่เป็นและได้รับมา
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากการว่ายน้ำ
ที่จะทำให้เส้นเอ็นกล้ามเนื้อแข็งแรงกลับเข้าสภาพเดิมเหมือนก่อนที่จะป่วย
__กายภาพบำบัดที่เดมี่ต้องทำคือกายภาพบำบัดจากการปีนเขาจำลอง
ผู้ป่วยที่มาบำบัดที่นี่จะได้รับการดูแลเอาใจใส่ดีมาก
เพราะเด็กๆเหล่านี้ยังไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่อดทนต่อโรคภัยหรืออุบัติเหตุที่พวกเขาได้รับมาในขณะนี้
ฉะนั้นพยาบาลจะเอาใจเด็กๆมากว่าเขามีอารมณ์อยากทำอะไรหรือไม่อยากทำอะไรในตอนนี้
พยาบาลจะพาผู้ป่วยไปเดินสูดอากาศแทบทุกวัน
ขนาดผู้ป่วยเดินและนั่งไม่ได้ก็เข็นเตียงทั้งเตียงออกไปเดินข้างนอกกันเลยทีเดียว
ซึ่งที่ใหนบ้างจะใส่ใจกับคนไข้ขนาดนี้และพาเล่นเกมส์ต่างๆ
พาทำงานฝีมือในยามว่าเพื่อที่จะบำบัดจิตใจเด็กเหล่านี้ไปในตัวเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยเหงาและคิดมาก
การรับประทานอาหารเขาจะจัดโต๊ะนั่งด้วยกันทั้งพยาบาลและผู้ป่วย
ไม่แบ่งแยกพร้อมทั้งอาหาร 3 มื้อปฏิบัติเหมือนอยู่ที่บ้านไม่ได้กินอาหารถาดหลุม
ถ้าผู้ป่วยอยากอาบน้ำอยากลงอ่างพยาบาลก็จะจัดเวลามาพาอาบน้ำลงอ่างเป็นชั่วโมงเขาทำได้ไม่เคยบ่น
เด็กๆผู้ป่วยเหล่านี้จะต้องเรียนหนังสือตามสภาพของโรคและอาการตามวัย
สอนตัวต่อตัวหรือบางชั่วโมงเช่นงานฝีมือเขาก็เรียนร่วมกันได้
เดมี่และผู้ป่วยอื่นๆจะถูกบำบัดให้ช่วยเหลือตัวเองเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
ช่วงใหม่ๆเดมี่เริ่มหัดนั่งวีลแชร์หรือรถเข็ญแบบผู้ป่วยหนักที่มีทรงสูงถึงศรีษะ
เพื่อพิงเพราะร่างกายยังทรงตัวเองไม่ได้จึงต้องมีที่พิง
เพื่อที่จะให้ได้ขนาดกับร่างกายที่เป็นอัมพาตที่ยังนั่งเองและนั่งนานไม่ได้
เพราะเส้นประสาทยังไม่ทำงานจึงมีอาการเจ็บปวดมากมายเวลาลุกนั่งเปลี่ยนท่า
แต่ต้องหัดนั่งเพื่อที่ร่างกายจะขยับเขยื้อนฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าแต่อาการของเดมี่ดีวันดีคืนขาเริ่มกระดิกนิ้วเท้าได้
และนักบำบัดให้เริ่มหัดยืนช่วงสั้นๆเพื่อดูการทรงตัวได้ขนาดใหนเดมี่ก็ทำได้ดีมาก
หลังจากนั้นนักบำบัดก็ให้เปลี่ยนวีลแชร์หรือรถเข็นแบบที่เข็นตัวเองไปใหนได้ตามใจชอบ
และเดมี่เริ่มเข็นตัวเองไปเรียนไปบำบัดที่ชั้นหรือแผนกต่างๆได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งพยาบาลอีกแล้ว
นอกจากเวลาจะลุกจารถเข็นมาที่เตียงนอนช่วงนี้จะต้องมีคนช่วยดูแลไม่งั้นมีล้มบาดเจ็บ
ช่วงนี้เดมี่ยังต้องฉีดยาที่ต้นขาเพื่อป้องกัน insuflon ลิ่มเลือดไปอุดตันที่เรียกโรค Thrombosis
คนป่วยที่ไม่สามารถเดินหรือขยับได้โรคนี้ก็จะมาเบียดเบียนได้ง่ายๆ
เดมี่เริ่มเบื่อไม่อยากฉีดยาอีกแล้วเธอเลยถามพยาบาลว่าจะฉีดอีกนานใหมพยาบาลบอกว่าเดี๋ยวจะถามหมอให้
หมอเลยบอกว่าถ้าเธอขยันหัดเดินก็ไม่ต้องฉีดอีกแล้วเดมี่เลยปั่นใหญ่เลยพยายามนั่งวีลแชร์หรือรถเข็นน้อยลงเ
ดินมากขึ้นเพราะไม่อยากฉีดยาหลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์เดมี่ก็ไม่ต้องฉีดยาอีกเลย
และพยาลาบบอกให้เอารถเข็นไปจอดใว้ที่ใกลๆจะได้เดินมากขึ้นเดมี่ทำตามอย่างว่าง่ายเพื่อจะได้หายเร็วๆ
หนึ่งเดือนต่อครั้งทีมหมอและทีมบำบัดทุกๆแขนงและทีมคุณครูที่สอนเดมี่
ที่โรงพยาบาลจะจัดประชุมพ่อกับแม่ของเดมี่
เพื่อรายงานผลของการรักษาว่าเดมี่ก้าวหน้าไปถึงใหนแล้ว
และจะกำหนดเวลาให้ได้ว่าเดมี่จะต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานเท่าไหร่
แต่ละครั้งของการประชุมเราพ่อแม่จะได้รับได้ยินแต่เรื่องดีๆเกี่ยวกับเดมี่
ที่ให้ความร่วมมือกับทีมงานทีมหมอรักษาเป็นอย่างดี
ไม่งอแงเข้ากับผู้ป่วยคนอื่นได้ง่ายเป็นที่เบาใจของทีมหมอทีมบำบัดต่างๆได้ดีมาก
ตอนนี้อาการของเดมี่ดีถึงขั้นสูงสุดและได้ย้ายแผนกไปอยู่รวมกับเพื่อนๆผู้ป่วยวัยไล่เลี่ยกันที่อีกชั้นหนึ่ง
ชั้นนี้คือชั้นสูงสุดที่ภาษาเยอรมันจะเรียก WG (Wohngemeinschaft) และหลังจากนั้นก็จะได้กลับบ้าน
ช่วงนี้เดมี่ได้รับอนุญาติให้กลับบ้านเสาร์-อาทิตย์ได้คือกลับบ้านตอนเย็นวันศุกร์หลังจากที่เทราปี้ชั่วโมงสุดท้ายเสร็จ
และจะต้องกลับไปวันอาทิตย์ก่อน 2 ทุ่ม
เราพ่อแม่พี่ชายของเดมี่ดีใจมากที่เดมี่ได้กลับมาบ้านหลังจากที่ป่วยไม่เคยได้กลับบ้านเลยราวๆ 3 เดือน
กลับมาบ้านเพื่อจะได้สับเปลี่ยนของความรู้สึกว่าเรากำลังจะหายแล้ว
หลังจากประชุมพ่อแม่ครั้งสุดท้ายทีมหมอทีมบำบัดทั้งทีมคุณครูลงมติกันได้แน่นอนว่าเดมี่จะได้กลับบ้านช่วงคริศมาส
เดมี่เลยไปขอลงวันที่ที่แน่นอนคือวันที่ 18 ธันวาคม
เพราะที่ประเทศสวิสเด็กนักเรียนจะมีฉลองส่งท้ายก่อนสิ้นปีคือปิดเทอมแรกผ่านไปต้องฉลองกัน
>>>ก่อนกลับบ้านทางทีมแพทย์และทีมบำบัดได้ร่างจดหมายข้อมูลทางการแพทย์ของการรักษาเดมี่
ตั้งแต่เริ่มป่วยวันแรกและจนถึงวันสุดท้ายว่ารักษาแบบใหนได้รับยาอะไรไปบ้าง
และอาการตอบสนองของการให้ยาและการบำบัดและอาการที่หลงเหลืออยู่ Reflex
ซึ่งเดมี่ไม่ต้องไปรับการรักษาตัวบำบัดต่อที่ใหนอีกซึ่งเดมี่มีอาการหลงเหลืออยู่น้อยมากเช่นการกระโดด
ที่ยังทำใม่ได้เต็มที่แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาไม่ได้เรียกว่าป่วยเพราะอาการเหล่านี้ต้องให้เวลาเยียวยา
ไปกับการใช้ชีวิตประจำวันข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปให้หมอเด็กของเดมี่
ซึ่งซึ่งประเทศสวิสจะมีหมอเด้กสำหรับเด็กและโรงพยาบาลเด็กไปจนถึงอายุ 16
เดมี่จะต้องไปหาหมอเด็กเรื่องฉีดวัคซินจนถึงอายุ 16
ข้อมูลเหล่านี้เลยต้องส่งไปให้แพทย์ท่านนี้ทั้งที่เขาไม่ได้รักษาเดมี่ให้เขารับรู้ว่าเดมี่เคยป่วยมาแบบใหนเมื่อไหร่
นี่คือการประสานงานกันของหมอและทางโรงพยาบาลประเทศสวิสซึ่งเราไม่ต้องทำเองหมอทำให้ทั้งนั้นกับทุกๆเรื่อง