ส่วนประกอบของแท่งเทียน ตามหลัก เบญจสาขา ๕ ส่วน ตามตำราโบราณ
สิทธิการิยะ แท่งเทียนนี้ โบราณท่านว่า บุรุษแลสตรีใดผู้มีอำนาจวาสนา จักสร้างขึ้นมา เพื่อ จด บันทึกราคา แลสภาวะตลาด อาจาริยะเจ้าพึงให้ กระทำการ นมัสสการเสียก่อน ด้วย พระคาถานี้ ทียานัง ฟิโบ เรโช สะโต โดจิ มานิ มานิ มา มา
จากนั้นนำกระดาษ แล ผืนผ้าก็ได้ มาตี ตาราง กว้างยาวเสมอกัน ตีเส้นตั้งให้บริกรรมว่า วะติโก อิส มีน ไทมโม ตีเส้นนอนให้บริกรรมว่า หอริสันโท อิส มิน ไพเรโช จากนั้น เสกด้วยคาถานี้ กา ทียานั้ง เอวัง สตัง มีหรือยัง เสก108คาบ แล
เมื่อทำกระดาษ แลผืนผ้าเสร็จแล้ว ให้ เตรียมการลงจุด4จุด อาจาริยะเจ้า ท่านกล่าวไว้ว่า ให้บ่าวไพร่ แล ม้าเร็ว ไปนำสารมาจากตลาดหลักทรัพย์ทุกวัน ดังนี้
1.ราคาเปิด 2.ราคาปิด 3. ราคาสูงสุดในวัน 4.ราคาต่ำสุดในวัน จากนั้น นำเข้ามา
ประกอบการลงจุด ลงจุด ตาม สารที่รับมา 4จุดตามลำดับดังนี้
ลงหัวก่อน เฮโด ไพรช ทิ โชว (ตัวเลขราคา) จะโช ตงนิ จาก นั้น ลง ก้น ให้บริกรรมว่า บอ ทอมัง ไพรช ทิ โชว (ตัวเลขราคา) จะโชวตรงนิ
อนึ่งแล้ว
อาจาริยะเจ้าท่านสั่งกำชับไว้อีกว่า อันหัวแลก้นนี้ สามารถพลิกแพลงได้เหมือนตีลังกา โดย การ ให้ราคาเปิดเป็นก้น ราคาปิดเป็นหัว วันใด ราคาเปิด สูงกว่าราคาปิด จะเกิดภาพนิมิตเห็น แท่งเทียนเป้นสีแดงอมส้มบ้าง แดงเลือดนกบ้าง แดงเหมือนสีชาดบ้าง แต่วันใด ราคาปิดสูง กว่าราคาเปิดแล้ว จักเห็น นิมิตสีแท่งเทียนเป็น สีขาวเงินยวงบ้าง เขียวยอดตองบ้าง เขียวประหนึ่งมรกตบ้าง
ลำดับต่อไปลงไส้ว่า ไสยานัง มีพะลัง ไฮทินัง (ตัวเลขราคา) จะ โชตงนิ
แลจุด สุดท้าย ลงหาง ว่า โลมา ระวัง จะพัง ทิตัง(ตัวเลขราคา)จะ โชตงนิ
อันหาง แลไส้นี้ อาจาริยะ กล่าวไว้ว่า มี สันดานพลุบโผล่อยู่เนืองๆ เช่นว่า วันใด หาง กับ ราคาเปิด หรือราคาปิด ตรงกัน วันนั้นหางจะไม่มี หรือวันใด ไส้กับราคาเปิดหรือราคาปิดตรงกันวันนั้นไส้จะไม่มี
จากนั้น จึง สรูป 4จุด ด้วยการลากเส้น เกิด เป็นลำตัว ขณะลากบริกรรม อาการ 32 ไป ด้วย สำเร็จเกิดเป็นส่วนลำตัวครบ 5 ส่วน
ครบ5ส่วนแล้วจึง ปลุกเสก อีก ระหว่างเสก นำอาวุธ และ หนัง หมี หนัง เสือ ปู รองนั่งไว้ เพื่อ ให้เกิด เป็น ตะบะเดชะ แก่คนทั้งหลาย จากนั้น เสก ด้วยคาถานี้
โอม ฟิโบ ไอโด้นโนว ไอยูส สะโลว สะโต วิท ริซิสโต แอน ซัพพะโต ทิลากโชว เสก 108 คาบ จน แท่งเทียน ลุกนั่ง ออกมาจาก ผืนผ้าแล กระดาษ
*หมายเหตุ อุปเทห์ จะได้กล่าวในบทต่อไป
กราฟแท่งเทียนกายสิทธิตามตำราโบราณ
ส่วนประกอบของแท่งเทียน ตามหลัก เบญจสาขา ๕ ส่วน ตามตำราโบราณ
สิทธิการิยะ แท่งเทียนนี้ โบราณท่านว่า บุรุษแลสตรีใดผู้มีอำนาจวาสนา จักสร้างขึ้นมา เพื่อ จด บันทึกราคา แลสภาวะตลาด อาจาริยะเจ้าพึงให้ กระทำการ นมัสสการเสียก่อน ด้วย พระคาถานี้ ทียานัง ฟิโบ เรโช สะโต โดจิ มานิ มานิ มา มา
จากนั้นนำกระดาษ แล ผืนผ้าก็ได้ มาตี ตาราง กว้างยาวเสมอกัน ตีเส้นตั้งให้บริกรรมว่า วะติโก อิส มีน ไทมโม ตีเส้นนอนให้บริกรรมว่า หอริสันโท อิส มิน ไพเรโช จากนั้น เสกด้วยคาถานี้ กา ทียานั้ง เอวัง สตัง มีหรือยัง เสก108คาบ แล
เมื่อทำกระดาษ แลผืนผ้าเสร็จแล้ว ให้ เตรียมการลงจุด4จุด อาจาริยะเจ้า ท่านกล่าวไว้ว่า ให้บ่าวไพร่ แล ม้าเร็ว ไปนำสารมาจากตลาดหลักทรัพย์ทุกวัน ดังนี้
1.ราคาเปิด 2.ราคาปิด 3. ราคาสูงสุดในวัน 4.ราคาต่ำสุดในวัน จากนั้น นำเข้ามา
ประกอบการลงจุด ลงจุด ตาม สารที่รับมา 4จุดตามลำดับดังนี้
ลงหัวก่อน เฮโด ไพรช ทิ โชว (ตัวเลขราคา) จะโช ตงนิ จาก นั้น ลง ก้น ให้บริกรรมว่า บอ ทอมัง ไพรช ทิ โชว (ตัวเลขราคา) จะโชวตรงนิ
อนึ่งแล้ว
อาจาริยะเจ้าท่านสั่งกำชับไว้อีกว่า อันหัวแลก้นนี้ สามารถพลิกแพลงได้เหมือนตีลังกา โดย การ ให้ราคาเปิดเป็นก้น ราคาปิดเป็นหัว วันใด ราคาเปิด สูงกว่าราคาปิด จะเกิดภาพนิมิตเห็น แท่งเทียนเป้นสีแดงอมส้มบ้าง แดงเลือดนกบ้าง แดงเหมือนสีชาดบ้าง แต่วันใด ราคาปิดสูง กว่าราคาเปิดแล้ว จักเห็น นิมิตสีแท่งเทียนเป็น สีขาวเงินยวงบ้าง เขียวยอดตองบ้าง เขียวประหนึ่งมรกตบ้าง
ลำดับต่อไปลงไส้ว่า ไสยานัง มีพะลัง ไฮทินัง (ตัวเลขราคา) จะ โชตงนิ
แลจุด สุดท้าย ลงหาง ว่า โลมา ระวัง จะพัง ทิตัง(ตัวเลขราคา)จะ โชตงนิ
อันหาง แลไส้นี้ อาจาริยะ กล่าวไว้ว่า มี สันดานพลุบโผล่อยู่เนืองๆ เช่นว่า วันใด หาง กับ ราคาเปิด หรือราคาปิด ตรงกัน วันนั้นหางจะไม่มี หรือวันใด ไส้กับราคาเปิดหรือราคาปิดตรงกันวันนั้นไส้จะไม่มี
จากนั้น จึง สรูป 4จุด ด้วยการลากเส้น เกิด เป็นลำตัว ขณะลากบริกรรม อาการ 32 ไป ด้วย สำเร็จเกิดเป็นส่วนลำตัวครบ 5 ส่วน
ครบ5ส่วนแล้วจึง ปลุกเสก อีก ระหว่างเสก นำอาวุธ และ หนัง หมี หนัง เสือ ปู รองนั่งไว้ เพื่อ ให้เกิด เป็น ตะบะเดชะ แก่คนทั้งหลาย จากนั้น เสก ด้วยคาถานี้
โอม ฟิโบ ไอโด้นโนว ไอยูส สะโลว สะโต วิท ริซิสโต แอน ซัพพะโต ทิลากโชว เสก 108 คาบ จน แท่งเทียน ลุกนั่ง ออกมาจาก ผืนผ้าแล กระดาษ
*หมายเหตุ อุปเทห์ จะได้กล่าวในบทต่อไป