-----------อันว่าอาหารอร่อยต้องเข้าใจผู้รัปทานเปรียบเสมือนดาราต้องเข้าใจคนรับชมผลงาน-----------
....ถึงกับหลั่งน้ำตา อ๊อฟ(พงษ์พัฒน์)เเถลงต่อหน้าสื่อ ถูกยกเลิกงาน หลายคนบอก ดราม่า ผมบอกได้ว่าเรื่องจริง ของเเบบนี้คนอยู่นอกวงการ อาจไม่เข้าใจบางสิ่งบางอย่าง ในฐานะเจ้าของร้านอาหารกึ่งผับ(Pub and Restaurant) ที่มักจะต้องสรรหา ดารานักร้อง มาทำการเเสดง ติดต่อทั้งผ่านบริษัท หรือเเบบราคาฝิ่น ไม่ผ่านนายหน้า ลดค่าใช้จ่าย
ไม่ใช่ว่ายกหูคุยกันหอบเครื่องดนตรีเสื้อผ้าอาภร ขี่เครื่องบินเเล้วมาทำการเเสดงกันเลย มันต้องมีนัดเเนะ ช่วงเวลา ในเเต่ระปีก็มีวงรอบ เทศกาล วันหยุดวันสำคัญ หรือไม่ก็โปรโมทร้าน ต้องมีการจอง จัดคิวกันให้ลงตัวเตรียมการกันล่วงหน้า ถ้ายิ่งดังๆมีชื่อเสียง ค่าตัวหกเจ็ดหลัก ต้องจองกันข้ามปี เเล้วไอ่ที่ว่าจะจองกันเฉยๆ เเบบนัดเจอกัน อันนี้คงไม่ใช่ ต้องมีทำสัญญา ดาราคนไหนเขี้ยวๆ วงดนตรีวงไหนดัง กำลังเป็นที่นิยม ต้องเเหกด่านสู้ราคา มัดจำกันล่วงหน้า 25/50/100 % เเล้วเเต่คนทำสัญญา เครดิตอยู่ที่เเค่ไหน
ความเสี่ยงย่อมมี ในสัญญาจะมีข้อตกลงกันฝ่ายไหนระเมิดหรือผิดสัญญา ถึงตรงนี้คงมองภาพออก เจ้าของร้านไหน ตอนนี้จะเลือกดารา หรือวงดนตรีไหน ไปเเสดง ต้องคิดหนัก หลายงานตอนนี้ต้องปวดหัวเปลี่ยนคิวกัน ศิลปินต้องห้าม ขืนใครฝืนเอาไปทำการเเสดง ร้านนั้นอาจงานเข้า เรื่องความชอบทางการเมือง ถึงเคยเขียนไปว่า ดาราต้องทำความเข้าใจก่อนขึ้นเวทีการเมือง ไม่ใช่ว่าคนฝ่ายไหนไม่เข้าใจการเมืองเเต่มันมีเรื่องละเอียดอ่อนกับความรู้สึก เเฟนๆ
ชั่วโมงนี้ ร้านไหน งานใดก็ต้องหลีกเลี่ยง ดาราพวกนี้ไปก่อน ขืนยังฝืนจัดไป งานล่มกลางคัน หาใครรับผิดชอบไม่ได้ เงินต้องจ่ายตามสัญญา เเต่เเสดงไม่ได้ อันนี้ร้านหรือเจ้าของงานต้องคิด ที่สำคัญ ร้านเราอยู่ตรงนั้น จังหวัดนั้น ไปขัดใจหรือไปทำร้ายจิตใจคนพื้นที่อยู่ยาก งานด้านบริการต้องเอาอกเอาใจ หาคนชอบนั้นยาก เเต่หากทำให้เค้าเกลียด ทำมาหากินลำบาก
มันจึงเป้นบทเรียนที่ดาราทั้งหลายต้องจำใส่กระโหลกไว้ เรื่องการเมือง ต้องดูให้ดีๆ ถ้าเป็นช่วงเวลาปรกติ จะไปช่วยฝ่ายไหน จะไปเดินเเจกใบปริวของใคร อารมณ์ประชาชน เค้าไม่ว่า เเต่นี่มันมีความเป็นความตาย ของพ่อเเม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อน ของกลุ่มคนเหล่านั้น เป็นเดิมพัน ความคับข้องหมองใจ ที่ถูกกระทำย่ำยี หัวใจ ดาราพวกนี้คงไม่เข้าใจ อย่างดาราสองคน ท๊อปเหมี่ยว ไปเเสดงอาการสะใจ คนโดนยิง ภาพมันบาดใจ ฝ่ายเเดง คนโดนยิงเป็นอัมพาต ลูกต้องเฝ้าเช็ดขี้เยี่ยว บนเตียง ตัดภาพไปบนเวที......สะใจหวะยิ่งเเม่มกระจาย.........กรรม
ดาราจะชอบการเมือง มันไม่ผิดขอยืนยันตรงนี้ เเต่การไปเเสดงออกทางการเมืองควรชั่งน้ำหนักให้ดีๆ ดารานักร้อง ขายความชอบ ความนิยม สินค้าคือตัวตน คนนิยมชมชอบมาก เงินทองก้ไหลมาเทมา บางคนถ่ายโฆษณาที่เดียวได้เป็นสิบล้าน หลบเลี่ยงภาษีมาตั้งนาน พอโดนจับได้ หายเงียบ วันนี้โผล่มาต้านคนโกง.....อะไรยะหล่อน
นี่ยิ่งบางคนออกมาทำเหนือเมฆ ทำเนียนๆ เเค้นฝังหุ่น เชื่อโดยสนิทใจรัฐบาลกลั่นเเกล้ง อะเเฮ่มๆๆ ควรกลับไปมองตัวเองเสียก่อน หมกเม็ด บทละครซ่อนอะไรไว้ในเนื้อหา โดนสถานนีจับได้ไล่ทัน ขอหั่นไปสองสามตอน ช่องนั้นเค้าอ่านได้ว่า พวกคุณกำลังเล่นการเมืองผ่านจอของเค้า ขืนปล่อยไป จะกินใจกันการ ที่ไม่ห้าม........ถือว่าให้ท้าย
จะเนียนจะเหนียม อะไรถ้ามาการเมืองต้องยอมรับผลกระทบในช่วงเวลานี้ อย่าไปด่าอย่าไปว่าคนไม่เเยกเเยะ ผลงานการเเสดง กับการเมือง ถ้าจะให้เเยกกัน มันต้องในช่วงเวลาบ้านเมืองเดินไปตามปรกติ เเต่เหตุการณ์ตอนนี้ บ้านเมืองมันไม่ปรกติ ฝ่ายหนึ่งเหยียบย่ำไป บนความเจ็บปวดในใจ ดาราไปเสนอหน้า ออกหน้าออกตา เลือกยืนตรงนั้น ก็ต้องรับสิ่งที่ตามมา
ส่งท้ายกัน ดารา นักร้อง ทั้งหลาย สิ่งที่ทำกันลงไปไม่ว่าจะไปขึ้นเวที โพสเฟรสบุ๊ค ช่วยกันละเลงสีตีใข่ สร้างสีสรร ให้กับฝ่ายม๊อบประชาธิปัตย พวกท่านคงคิดกันมาดีเเล้ว ก็ต้องยอมรับสิ่งที่กำลังตามมา หากถามว่ามีอะไรบ้างเเละจะนานเท่าไหร่ เเล้วมีทางเเก้ไหม ก็ขอบอกว่า นับจากนี้ไป คนจัดงาน เจ้าของร้าน ภาคเหนืออีสานเเละภาคกลางบางจังหวัด จำเป็นต้องงดเว้น จ้างพวก คุณ เธอ ท่าน หล่อนทั้งหลาย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้น
ส่วนใครที่ไปรับงานพรีเซ็นเตอร์ เป็นเเบรนด์เเอมบาสเดอร์สินค้าตัวใด ก็อาจจะถูกถอดออกไป ค่อนข้างจะเเน่นอน ส่วนใครที่ไปรับงานอีเว้น ไว้ที่ไหนเห็นท่าพวกคุณก็จะโดนเว้นวรรคไปในตัว บทเรียนครั้งนี้เเสนเเพง ดาราค่าตัวเเพงๆ ค่าโสหุ้ย เสื้อผ้าหน้าผม ค่าใช้จ่ายการเป็นอยู่รอบตัว เงินทั้งนั้น เอาว่าถ้างานหมด หดหาย รายได้ไม่มีเข้ามา ถึงเวลาหากล้องดีๆสักตัว เเล้วกราบขอโทษเเฟนๆของตัว .............เห็นจะมีทางนี้ทางเดียว
---------------------------------ดารา-------------------------------(บทความ)
....ถึงกับหลั่งน้ำตา อ๊อฟ(พงษ์พัฒน์)เเถลงต่อหน้าสื่อ ถูกยกเลิกงาน หลายคนบอก ดราม่า ผมบอกได้ว่าเรื่องจริง ของเเบบนี้คนอยู่นอกวงการ อาจไม่เข้าใจบางสิ่งบางอย่าง ในฐานะเจ้าของร้านอาหารกึ่งผับ(Pub and Restaurant) ที่มักจะต้องสรรหา ดารานักร้อง มาทำการเเสดง ติดต่อทั้งผ่านบริษัท หรือเเบบราคาฝิ่น ไม่ผ่านนายหน้า ลดค่าใช้จ่าย
ไม่ใช่ว่ายกหูคุยกันหอบเครื่องดนตรีเสื้อผ้าอาภร ขี่เครื่องบินเเล้วมาทำการเเสดงกันเลย มันต้องมีนัดเเนะ ช่วงเวลา ในเเต่ระปีก็มีวงรอบ เทศกาล วันหยุดวันสำคัญ หรือไม่ก็โปรโมทร้าน ต้องมีการจอง จัดคิวกันให้ลงตัวเตรียมการกันล่วงหน้า ถ้ายิ่งดังๆมีชื่อเสียง ค่าตัวหกเจ็ดหลัก ต้องจองกันข้ามปี เเล้วไอ่ที่ว่าจะจองกันเฉยๆ เเบบนัดเจอกัน อันนี้คงไม่ใช่ ต้องมีทำสัญญา ดาราคนไหนเขี้ยวๆ วงดนตรีวงไหนดัง กำลังเป็นที่นิยม ต้องเเหกด่านสู้ราคา มัดจำกันล่วงหน้า 25/50/100 % เเล้วเเต่คนทำสัญญา เครดิตอยู่ที่เเค่ไหน
ความเสี่ยงย่อมมี ในสัญญาจะมีข้อตกลงกันฝ่ายไหนระเมิดหรือผิดสัญญา ถึงตรงนี้คงมองภาพออก เจ้าของร้านไหน ตอนนี้จะเลือกดารา หรือวงดนตรีไหน ไปเเสดง ต้องคิดหนัก หลายงานตอนนี้ต้องปวดหัวเปลี่ยนคิวกัน ศิลปินต้องห้าม ขืนใครฝืนเอาไปทำการเเสดง ร้านนั้นอาจงานเข้า เรื่องความชอบทางการเมือง ถึงเคยเขียนไปว่า ดาราต้องทำความเข้าใจก่อนขึ้นเวทีการเมือง ไม่ใช่ว่าคนฝ่ายไหนไม่เข้าใจการเมืองเเต่มันมีเรื่องละเอียดอ่อนกับความรู้สึก เเฟนๆ
ชั่วโมงนี้ ร้านไหน งานใดก็ต้องหลีกเลี่ยง ดาราพวกนี้ไปก่อน ขืนยังฝืนจัดไป งานล่มกลางคัน หาใครรับผิดชอบไม่ได้ เงินต้องจ่ายตามสัญญา เเต่เเสดงไม่ได้ อันนี้ร้านหรือเจ้าของงานต้องคิด ที่สำคัญ ร้านเราอยู่ตรงนั้น จังหวัดนั้น ไปขัดใจหรือไปทำร้ายจิตใจคนพื้นที่อยู่ยาก งานด้านบริการต้องเอาอกเอาใจ หาคนชอบนั้นยาก เเต่หากทำให้เค้าเกลียด ทำมาหากินลำบาก
มันจึงเป้นบทเรียนที่ดาราทั้งหลายต้องจำใส่กระโหลกไว้ เรื่องการเมือง ต้องดูให้ดีๆ ถ้าเป็นช่วงเวลาปรกติ จะไปช่วยฝ่ายไหน จะไปเดินเเจกใบปริวของใคร อารมณ์ประชาชน เค้าไม่ว่า เเต่นี่มันมีความเป็นความตาย ของพ่อเเม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อน ของกลุ่มคนเหล่านั้น เป็นเดิมพัน ความคับข้องหมองใจ ที่ถูกกระทำย่ำยี หัวใจ ดาราพวกนี้คงไม่เข้าใจ อย่างดาราสองคน ท๊อปเหมี่ยว ไปเเสดงอาการสะใจ คนโดนยิง ภาพมันบาดใจ ฝ่ายเเดง คนโดนยิงเป็นอัมพาต ลูกต้องเฝ้าเช็ดขี้เยี่ยว บนเตียง ตัดภาพไปบนเวที......สะใจหวะยิ่งเเม่มกระจาย.........กรรม
ดาราจะชอบการเมือง มันไม่ผิดขอยืนยันตรงนี้ เเต่การไปเเสดงออกทางการเมืองควรชั่งน้ำหนักให้ดีๆ ดารานักร้อง ขายความชอบ ความนิยม สินค้าคือตัวตน คนนิยมชมชอบมาก เงินทองก้ไหลมาเทมา บางคนถ่ายโฆษณาที่เดียวได้เป็นสิบล้าน หลบเลี่ยงภาษีมาตั้งนาน พอโดนจับได้ หายเงียบ วันนี้โผล่มาต้านคนโกง.....อะไรยะหล่อน
นี่ยิ่งบางคนออกมาทำเหนือเมฆ ทำเนียนๆ เเค้นฝังหุ่น เชื่อโดยสนิทใจรัฐบาลกลั่นเเกล้ง อะเเฮ่มๆๆ ควรกลับไปมองตัวเองเสียก่อน หมกเม็ด บทละครซ่อนอะไรไว้ในเนื้อหา โดนสถานนีจับได้ไล่ทัน ขอหั่นไปสองสามตอน ช่องนั้นเค้าอ่านได้ว่า พวกคุณกำลังเล่นการเมืองผ่านจอของเค้า ขืนปล่อยไป จะกินใจกันการ ที่ไม่ห้าม........ถือว่าให้ท้าย
จะเนียนจะเหนียม อะไรถ้ามาการเมืองต้องยอมรับผลกระทบในช่วงเวลานี้ อย่าไปด่าอย่าไปว่าคนไม่เเยกเเยะ ผลงานการเเสดง กับการเมือง ถ้าจะให้เเยกกัน มันต้องในช่วงเวลาบ้านเมืองเดินไปตามปรกติ เเต่เหตุการณ์ตอนนี้ บ้านเมืองมันไม่ปรกติ ฝ่ายหนึ่งเหยียบย่ำไป บนความเจ็บปวดในใจ ดาราไปเสนอหน้า ออกหน้าออกตา เลือกยืนตรงนั้น ก็ต้องรับสิ่งที่ตามมา
ส่งท้ายกัน ดารา นักร้อง ทั้งหลาย สิ่งที่ทำกันลงไปไม่ว่าจะไปขึ้นเวที โพสเฟรสบุ๊ค ช่วยกันละเลงสีตีใข่ สร้างสีสรร ให้กับฝ่ายม๊อบประชาธิปัตย พวกท่านคงคิดกันมาดีเเล้ว ก็ต้องยอมรับสิ่งที่กำลังตามมา หากถามว่ามีอะไรบ้างเเละจะนานเท่าไหร่ เเล้วมีทางเเก้ไหม ก็ขอบอกว่า นับจากนี้ไป คนจัดงาน เจ้าของร้าน ภาคเหนืออีสานเเละภาคกลางบางจังหวัด จำเป็นต้องงดเว้น จ้างพวก คุณ เธอ ท่าน หล่อนทั้งหลาย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้น
ส่วนใครที่ไปรับงานพรีเซ็นเตอร์ เป็นเเบรนด์เเอมบาสเดอร์สินค้าตัวใด ก็อาจจะถูกถอดออกไป ค่อนข้างจะเเน่นอน ส่วนใครที่ไปรับงานอีเว้น ไว้ที่ไหนเห็นท่าพวกคุณก็จะโดนเว้นวรรคไปในตัว บทเรียนครั้งนี้เเสนเเพง ดาราค่าตัวเเพงๆ ค่าโสหุ้ย เสื้อผ้าหน้าผม ค่าใช้จ่ายการเป็นอยู่รอบตัว เงินทั้งนั้น เอาว่าถ้างานหมด หดหาย รายได้ไม่มีเข้ามา ถึงเวลาหากล้องดีๆสักตัว เเล้วกราบขอโทษเเฟนๆของตัว .............เห็นจะมีทางนี้ทางเดียว