ว่ากันด้วยน้ำหอม Celebrity เมืองไทยที่ทำขาย หลายๆ คนอาจจะเห็นกันจนชินตาใน 7-11 ไม่ว่าจะเป็น
- อั้ม พัชราภา
- ชมพู่ อารยา
- พลอย เฌอมาลย์ หรือ
- คริส หอวัง
แน่นอนว่ามีแต่สาวๆ จะให้ชายหนุ่มไปใช้ Sexy Me หรือ Pretty Doll มันจะคงจะทำให้คนอื่นเขาคิดว่าจะ Grand Opening เป็นแน่แท้ เช่นนั้นการมีน้ำหอม Celebrity ชายไทยขึ้นมาซักตัว จึงเป็นที่น่าสนใจว่า เออ กลิ่นจะเป็นอย่างไรหนอ พอไหวไหม แล้วใช้แล้วจะหล่อเหมือนดาราคนนั้นหรือเปล่า แม้ไม่หล่อหน้าแต่หล่อแค่กลิ่นก็ยังดี เช่นนั้น จึงเป็นที่มาของ Review น้ำหอมตัวนี้อย่าง
Mario Maurer - Mario Maurer for Him
หมายเหตุ: กระทู้นี้รีวิวจากการใช้จริง แต่น้ำหอมตัวนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน อย่างน้อยถ้าสนใจควรลองก่อนซื้อ
ที่มา: จริงๆ เคยตั้งใจจะซื้อให้น้องชาย เพราะเห็นว่าราคาไม่แพง แต่พนักงานขายน้ำหอมดันดราม่าใส่ พูดจาจิกลูกค้า ตะคอกใส่ พอตัดสินใจไม่ซื้อ มียืนด่าไล่หลังหน้าร้านกลางห้าง ในเมื่อพนักงานขายเปรี้ยว เลยจัดหนักผ่านบริษัทต้นสังกัดและห้างที่ร้านนี้ตั้งอยู่ จนได้ Feedback ที่ดีเลย สั่งซื้อน้ำหอมตัวอื่นแบบ online กับบริษัทนี้ แล้วได้แถมแบบเทสเตอร์มาหลายหลอด จนลองใช้เองก็ได้ รวมถึงซื้อแบบแบบ Spray ที่ขายตาม 7-11 ให้น้องชายไปแล้ว (ก่อนให้แอบใช้เองไปซักหน่อย) โดยรวมใช้ไปแล้ว 4 รอบ ฉีดครั้งละไม่ต่ำกว่า 7 สเปรย์ครับ
Perfume Pyramid
Top Notes: Mandarin Leaves, Lavender, White Grapefruit
Middle Notes: Sweet Basil, Rosemary, Tonka Beans
Base Notes: Cedarwood, Gaiac Wood, Leathery
Review: โดยรวมของน้ำหอมตัวนี้จะอยู่ในแนว Woody Soft Spicy (จากการใช้ของตัวเองนะครับ)
แรกเริ่มตอนฉีดแน่นอนว่า น้ำหอมออกมันๆ หน่อย แต่ไม่ใช่ Oil Perfume นะครับ ซึมเข้าผิวก็ไม่ได้รวดเร็วอะไรมาก อิงตาม Top Notes อย่างชัดเจนโดยเฉพาะกลิ่นของ White Grapefruit และ Lavender ที่ชัดเจนมาก แต่กลิ่นออกนุ่มๆ นวลๆ ไม่คม ให้อารมณ์ได้ทั้งสดชื่นเบาๆ ไม่ฉุน ออกเย้าๆ หน่อยๆ ด้วยกลิ่นของลาเวนเดอร์ ถือว่าเป็นการทำ Top Notes ได้ดีทีเดียวที่จะให้คนดมสามารถแล้วตัดสินใจซื้อได้โดยไม่รอ Middle และ Base เพราะจะได้มีกลิ่นแบบ Mario ที่สำคัญกลิ่นกระจายออกรอบตัวแบบกลางๆ กำลังดี
หลังจากผ่านพ้นไปไม่เกิน 10 นาที (ไม่ถึงด้วยซ้ำ) Middle นั้นจึงได้ปล่อยกลิ่นออกมานี่แหละครับที่บอกว่า Soft Spicy เพราะ Sweet Basil และ Tonka Beans นี่แหละครับ ส่วน Rosemary ผมเองจับไม่ค่อยได้ แต่ได้โทนซ่าๆ เย็นๆ อยู่บ้างน่าจะเป็นตัวรองพื้นให้ 2 ตัวบนปล่อยของกันไป ซึ่งโดยรวมกลิ่นในช่วง Middle จะออกแนวหวานๆ เบาๆ ไม่หนัก ไม่ได้หวานลุ่มลึก หวานเย้ายวนชวนงานเข้าให้ไปเกาหูที่คัน หรือหวานหยดย้อยอะไร เพราะกลิ่นออกแนว Safe กำลังดี กลางๆ ไปแทบจะทั้งหมดจริงๆ กลิ่นไม่กระจายออกรอบตัวมาก พูดง่ายๆ ลดลงมาจากช่วง Top ลงมาอีก คงประมาณว่ามาใกล้ๆ โอ้สิ แล้วจะได้กลิ่น
เมื่อถึงช่วงเบส ซึ่งไม่ได้จับเวลาว่าเท่าไหร่ กลิ่นยังแกล้มความหวานกลางๆ จากช่วง Middle มาอยู่บ้างนิดหน่อย แต่โทนกลิ่นเปลี่ยนเป็น Woody อย่างชัดเจน เพราะ Cedar กับ Gaiac ปล่อยของกันออกมาได้เต็มที่อยู่ แต่โทนหนังที่เห็นว่ามี ผมจับได้น้อยนิดเบาบาง ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นออกแนวแมนอย่างชัดเจน มีโทนอบอุ่นอยู่บ้าง และกลายเป็น Skin Scent ไปเรียบร้อย ดมที่ผิวหรือเสื้อตรงจุดฉีดถึงจะได้กลิ่น และบางทีก็หายต๋อม แต่พอออกกำลังกาย ร่างกายฮีทขึ้น จะมีกลิ่นลอยขึ้นมาแบบบางๆ ประมาณว่า ให้เข้ามาคลุกวงในกับโอ้นะ แล้วจะได้กลิ่น
สรุป: ก่อนใช้ไม่ได้มีความคาดหวังใดๆ กับน้ำหอมของมาริโอ้ตัวนี้เลย จึงไม่ต่ำกว่าความคาดหมายอะไร เพราะกลิ่นบางช่วงสังเคราะห์อยู่แล้วล่ะครับ เพียงแต่ถ้าสังเคราะห์แล้วหอมก็ใช้ไปเถอะมันไม่ได้เสียหายอะไร และสรุปภาพรวมออกมาได้ประมาณนี้ครับ
ความทน - จากการฉีด 4 ครั้ง เฉลี่ยอยู่ที่ 6 ชม. ที่จะยังเห็นความชัดเจนของกลิ่นบ้าง แต่ถ้าเกินนั้นอาจจะมีแบบบางเบาจริงๆ แต่ไม่น่าเกิน 8 ชม.
การกระจายของกลิ่น - ดีสุดก็ช่วง Top ครับ ที่กระจายดีในระดับหนึ่งแล้วจะลดลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็น Skin Scent และหายต๋อมไป
ราคา - ไม่ว่าจะขนาดไหน ไม่แพงครับ ถ้าเทียบกับน้ำหอมแบรนด์ทั่วๆ ไป
Package - ตรงๆ คือ "งง" เพราะขนาด 100 ml ขวดเป็น Design นึง 30 ml ดันเป็นขวดแก้วอีก Design เห็นครั้งแรกงง ตกลง Mario ออกไลน์น้ำหอม 2 กลิ่นหรือเปล่า ซึ่งก็เปล่า ทำไมไม่ทำเหมือนกันแต่ขนาดต่างกันแบบน้ำหอมแบรนด์อื่นๆ ไปน่าจะดีกว่าจะได้ไม่งง (พอถามพนักงานขายที่เกิดเคส เธอจิกกลับบอกว่าเป็นตัวเดียวกันไม่ทราบเหรอ ไงล่ะ เปรี้ยวไหม 55555) แต่ขวด 100 ml ที่เป็นขวดดำเข้มสวยใช้ได้อยู่ครับ
เหมาะสำหรับ - ใส่ชิลล์ๆ ให้คิดไปเองว่าเป็นมาริโอ้ ใส่ทำงาน Office ใส่ไปเที่ยว ใส่ไปเรียน แต่ไม่เหมาะกับการเป็นน้ำหอมใส่ไปเที่ยวกลางคืน เพราะกลิ่นจะหายต๋อมจนไม่มีความเป็นมาริโอ้ในตัวแน่ๆ ครับ
เช่นนั้น ภาพรวมถือว่าเป็นน้ำหอมที่ Safe Scent อยู่ เพราะใส่แล้วไม่รบกวนใครแน่ๆ กลิ่นก็ไม่กระจายมากนัก (กับผิวผม) อันนี้คอมเฟิร์มโดนคนที่บ้านทุกคนที่จะบอกว่า "ถ้าผมจะเดินมาเมื่อไหร่ น้ำหอมจะมาก่อนทุกที แต่พอใส่ตัวนี้แล้วไม่มีมา แปลกใจ" (ออกแนวหลอกด่ากลายๆ แฮะ 55555) และที่สำคัญกลิ่นก็เหมาะกับคนที่จะหันมาลองใช้น้ำหอมด้วย เพราะมันมีความนุ่มในกลิ่น ไม่ทำให้เสียดจมูกแต่ประการใดครับ
ป.ล. ภาพโฆษณาเป็นขี่ชอปเปอร์ แต่ขอแซวหน่อยว่าถ้าใส่ตัวนี้ไปขี่จริง กลิ่นหายหมดก่อนน่ะสิ เพราะลมพัดหายเกลี้ยง และอารมณ์ที่ใส่น้ำหอมตัวนี้จะออกแนวเหมือนแต่งตัวเท่ห์ใส่เสื้อหนัง ใส่ถุงมือพร้อมขับชอปเปอร์ แต่ดันไปขี่ Fino หรือสกู้ตเตอร์มากกว่าน่ะสิ ^^
[CR] ขอซักหน่อยกับ Mario Maurer - Mario Maurer for Him
- อั้ม พัชราภา
- ชมพู่ อารยา
- พลอย เฌอมาลย์ หรือ
- คริส หอวัง
แน่นอนว่ามีแต่สาวๆ จะให้ชายหนุ่มไปใช้ Sexy Me หรือ Pretty Doll มันจะคงจะทำให้คนอื่นเขาคิดว่าจะ Grand Opening เป็นแน่แท้ เช่นนั้นการมีน้ำหอม Celebrity ชายไทยขึ้นมาซักตัว จึงเป็นที่น่าสนใจว่า เออ กลิ่นจะเป็นอย่างไรหนอ พอไหวไหม แล้วใช้แล้วจะหล่อเหมือนดาราคนนั้นหรือเปล่า แม้ไม่หล่อหน้าแต่หล่อแค่กลิ่นก็ยังดี เช่นนั้น จึงเป็นที่มาของ Review น้ำหอมตัวนี้อย่าง
หมายเหตุ: กระทู้นี้รีวิวจากการใช้จริง แต่น้ำหอมตัวนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน อย่างน้อยถ้าสนใจควรลองก่อนซื้อ
ที่มา: จริงๆ เคยตั้งใจจะซื้อให้น้องชาย เพราะเห็นว่าราคาไม่แพง แต่พนักงานขายน้ำหอมดันดราม่าใส่ พูดจาจิกลูกค้า ตะคอกใส่ พอตัดสินใจไม่ซื้อ มียืนด่าไล่หลังหน้าร้านกลางห้าง ในเมื่อพนักงานขายเปรี้ยว เลยจัดหนักผ่านบริษัทต้นสังกัดและห้างที่ร้านนี้ตั้งอยู่ จนได้ Feedback ที่ดีเลย สั่งซื้อน้ำหอมตัวอื่นแบบ online กับบริษัทนี้ แล้วได้แถมแบบเทสเตอร์มาหลายหลอด จนลองใช้เองก็ได้ รวมถึงซื้อแบบแบบ Spray ที่ขายตาม 7-11 ให้น้องชายไปแล้ว (ก่อนให้แอบใช้เองไปซักหน่อย) โดยรวมใช้ไปแล้ว 4 รอบ ฉีดครั้งละไม่ต่ำกว่า 7 สเปรย์ครับ
Perfume Pyramid
Top Notes: Mandarin Leaves, Lavender, White Grapefruit
Middle Notes: Sweet Basil, Rosemary, Tonka Beans
Base Notes: Cedarwood, Gaiac Wood, Leathery
Review: โดยรวมของน้ำหอมตัวนี้จะอยู่ในแนว Woody Soft Spicy (จากการใช้ของตัวเองนะครับ)
แรกเริ่มตอนฉีดแน่นอนว่า น้ำหอมออกมันๆ หน่อย แต่ไม่ใช่ Oil Perfume นะครับ ซึมเข้าผิวก็ไม่ได้รวดเร็วอะไรมาก อิงตาม Top Notes อย่างชัดเจนโดยเฉพาะกลิ่นของ White Grapefruit และ Lavender ที่ชัดเจนมาก แต่กลิ่นออกนุ่มๆ นวลๆ ไม่คม ให้อารมณ์ได้ทั้งสดชื่นเบาๆ ไม่ฉุน ออกเย้าๆ หน่อยๆ ด้วยกลิ่นของลาเวนเดอร์ ถือว่าเป็นการทำ Top Notes ได้ดีทีเดียวที่จะให้คนดมสามารถแล้วตัดสินใจซื้อได้โดยไม่รอ Middle และ Base เพราะจะได้มีกลิ่นแบบ Mario ที่สำคัญกลิ่นกระจายออกรอบตัวแบบกลางๆ กำลังดี
หลังจากผ่านพ้นไปไม่เกิน 10 นาที (ไม่ถึงด้วยซ้ำ) Middle นั้นจึงได้ปล่อยกลิ่นออกมานี่แหละครับที่บอกว่า Soft Spicy เพราะ Sweet Basil และ Tonka Beans นี่แหละครับ ส่วน Rosemary ผมเองจับไม่ค่อยได้ แต่ได้โทนซ่าๆ เย็นๆ อยู่บ้างน่าจะเป็นตัวรองพื้นให้ 2 ตัวบนปล่อยของกันไป ซึ่งโดยรวมกลิ่นในช่วง Middle จะออกแนวหวานๆ เบาๆ ไม่หนัก ไม่ได้หวานลุ่มลึก หวานเย้ายวนชวนงานเข้าให้ไปเกาหูที่คัน หรือหวานหยดย้อยอะไร เพราะกลิ่นออกแนว Safe กำลังดี กลางๆ ไปแทบจะทั้งหมดจริงๆ กลิ่นไม่กระจายออกรอบตัวมาก พูดง่ายๆ ลดลงมาจากช่วง Top ลงมาอีก คงประมาณว่ามาใกล้ๆ โอ้สิ แล้วจะได้กลิ่น
เมื่อถึงช่วงเบส ซึ่งไม่ได้จับเวลาว่าเท่าไหร่ กลิ่นยังแกล้มความหวานกลางๆ จากช่วง Middle มาอยู่บ้างนิดหน่อย แต่โทนกลิ่นเปลี่ยนเป็น Woody อย่างชัดเจน เพราะ Cedar กับ Gaiac ปล่อยของกันออกมาได้เต็มที่อยู่ แต่โทนหนังที่เห็นว่ามี ผมจับได้น้อยนิดเบาบาง ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นออกแนวแมนอย่างชัดเจน มีโทนอบอุ่นอยู่บ้าง และกลายเป็น Skin Scent ไปเรียบร้อย ดมที่ผิวหรือเสื้อตรงจุดฉีดถึงจะได้กลิ่น และบางทีก็หายต๋อม แต่พอออกกำลังกาย ร่างกายฮีทขึ้น จะมีกลิ่นลอยขึ้นมาแบบบางๆ ประมาณว่า ให้เข้ามาคลุกวงในกับโอ้นะ แล้วจะได้กลิ่น
สรุป: ก่อนใช้ไม่ได้มีความคาดหวังใดๆ กับน้ำหอมของมาริโอ้ตัวนี้เลย จึงไม่ต่ำกว่าความคาดหมายอะไร เพราะกลิ่นบางช่วงสังเคราะห์อยู่แล้วล่ะครับ เพียงแต่ถ้าสังเคราะห์แล้วหอมก็ใช้ไปเถอะมันไม่ได้เสียหายอะไร และสรุปภาพรวมออกมาได้ประมาณนี้ครับ
ความทน - จากการฉีด 4 ครั้ง เฉลี่ยอยู่ที่ 6 ชม. ที่จะยังเห็นความชัดเจนของกลิ่นบ้าง แต่ถ้าเกินนั้นอาจจะมีแบบบางเบาจริงๆ แต่ไม่น่าเกิน 8 ชม.
การกระจายของกลิ่น - ดีสุดก็ช่วง Top ครับ ที่กระจายดีในระดับหนึ่งแล้วจะลดลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็น Skin Scent และหายต๋อมไป
ราคา - ไม่ว่าจะขนาดไหน ไม่แพงครับ ถ้าเทียบกับน้ำหอมแบรนด์ทั่วๆ ไป
Package - ตรงๆ คือ "งง" เพราะขนาด 100 ml ขวดเป็น Design นึง 30 ml ดันเป็นขวดแก้วอีก Design เห็นครั้งแรกงง ตกลง Mario ออกไลน์น้ำหอม 2 กลิ่นหรือเปล่า ซึ่งก็เปล่า ทำไมไม่ทำเหมือนกันแต่ขนาดต่างกันแบบน้ำหอมแบรนด์อื่นๆ ไปน่าจะดีกว่าจะได้ไม่งง (พอถามพนักงานขายที่เกิดเคส เธอจิกกลับบอกว่าเป็นตัวเดียวกันไม่ทราบเหรอ ไงล่ะ เปรี้ยวไหม 55555) แต่ขวด 100 ml ที่เป็นขวดดำเข้มสวยใช้ได้อยู่ครับ
เหมาะสำหรับ - ใส่ชิลล์ๆ ให้คิดไปเองว่าเป็นมาริโอ้ ใส่ทำงาน Office ใส่ไปเที่ยว ใส่ไปเรียน แต่ไม่เหมาะกับการเป็นน้ำหอมใส่ไปเที่ยวกลางคืน เพราะกลิ่นจะหายต๋อมจนไม่มีความเป็นมาริโอ้ในตัวแน่ๆ ครับ
เช่นนั้น ภาพรวมถือว่าเป็นน้ำหอมที่ Safe Scent อยู่ เพราะใส่แล้วไม่รบกวนใครแน่ๆ กลิ่นก็ไม่กระจายมากนัก (กับผิวผม) อันนี้คอมเฟิร์มโดนคนที่บ้านทุกคนที่จะบอกว่า "ถ้าผมจะเดินมาเมื่อไหร่ น้ำหอมจะมาก่อนทุกที แต่พอใส่ตัวนี้แล้วไม่มีมา แปลกใจ" (ออกแนวหลอกด่ากลายๆ แฮะ 55555) และที่สำคัญกลิ่นก็เหมาะกับคนที่จะหันมาลองใช้น้ำหอมด้วย เพราะมันมีความนุ่มในกลิ่น ไม่ทำให้เสียดจมูกแต่ประการใดครับ
ป.ล. ภาพโฆษณาเป็นขี่ชอปเปอร์ แต่ขอแซวหน่อยว่าถ้าใส่ตัวนี้ไปขี่จริง กลิ่นหายหมดก่อนน่ะสิ เพราะลมพัดหายเกลี้ยง และอารมณ์ที่ใส่น้ำหอมตัวนี้จะออกแนวเหมือนแต่งตัวเท่ห์ใส่เสื้อหนัง ใส่ถุงมือพร้อมขับชอปเปอร์ แต่ดันไปขี่ Fino หรือสกู้ตเตอร์มากกว่าน่ะสิ ^^