[Liverpool] Southampton 0 - 3 Liverpool : เบรนแด็น รอดเจอร์ส และ นักเตะของเขา

เรายังจำได้ตอนที่ ถูกแฟนๆทีมอื่นหัวเราะเยาะใส่หน้า ตอนร็อดเจอร์สให้สัมภาษณ์ว่า สนใจแนวทางการเล่นแบบ Tiki-Taka ของ บาร์เซโลน่า จนอยากนำมันมาใช้กับทีมที่เขาคุมอยู่อย่าง ลิเวอร์พูลดูบ้าง ทำให้ตอนนั้นได้มีการเกิดการล้อเลียน ถึงภาพพจน์ใหม่ของลิเวอร์พูลว่า

"เนี่ยเหรอว้า บาซ่าแห่งอังกฤษ ถรุ้ยยยยย
กรูขรรม ทำเป็นอยาก ติกิ-ตาก้า ตะุกุกตะกักอ่ะดิไม่ว่า"

และนั่นก็เป็นนิยามของฤดูกาลแรกของร็อดเจอร์สกับ ลิเวอร์พูลจริงๆ
จากที่ควรจะเป็นติกิ-ตาก้า ก็กลายเป็นตะกุก-ตะกักไปซะอย่างนั้น

ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า Tiki-Taka คือ การออกแบบการเล่นเฉพาะทางที่ บาร์เซโลน่าคิดค้นขึ้นจาก
สภาพทีม+แนวทางการเล่น+สไตล์ของผู้จัดการทีม ตั้งแต่ครัฟฟ์พา Totall Football เข้ามาในบารเซโลน่า จนแพร่ขยายไปทั้งวงการฟุตบอลสเปน
ครัฟฟ์ทำให้ โททัล ฟุตบอล ผสานกับ การต่อบอลสั้น เอกลักษณ์ของฟุตบอลสเปนได้เป็นอย่างดี
กลายเป็นต้นกำเนิดของ Tiki-Taka ในที่สุด

เป็ป คือ ศิษย์รุ่นแรกในฟุตบอล ติกิ-ตาก้า ของ โยฮันน์ ครัฟฟ์ พอถึงคราวที่เขาได้มาคุมบาร์เซโลน่า เขาจึงปรับแผนการเล่นนี้เข้ากับทีมในยุคนั้น จนได้ให้กำเนิด สุดยอดทีมแห่งยุคขึ้นมา ซึ่งต้องบอกว่า ติกิ-ต้าก้าแบบดั้งเดิมนั้นเป็นเอกลักษณ์ของบอลสเปนอยู่แล้ว คือ การต่อบอลสั้นเป็นระบบ แต่ ติกิ-ตาก้า ในยุคของเป็ปนั้นคือ เวอร์ชั่นเดเวลอป รวมกับ Total football ที่ครัฟฟ์วางรากฐานให้ กุนซือรุ่นต่อๆมาของบาร์เซโลน่าล้วนแล้วแต่ใช้ ติกิ-ต้าก้า เพียงแต่คนที่ใช้แล้วประสบความสำเร็จที่สุด คือ เป็ป นั่นเอง

ติกิ-ตาก้า จึงไม่ใช่แค่ แผนการเล่นสำเร็จรูป ที่ไม่ว่าทีมใดก็ใช้ได้ แต่มันต้องเกิดจากการปลูกฝังและสร้างความคุ้นเคยมาเป็นเวลานาน .. ฉะนั้น ติกิ-ตาก้า สำหรับ ลิเวอร์พูล จึงกลายเป็น "ตะกุกตะกัก" ไปในที่สุด ...

เบรนแด็น รอดเจอร์ส เป็นกุนซือที่บ้าแท็คติคคนหนึ่ง แม้ภาพลักษณ์และ สไตล์การเล่นรวมถึงธรรมชาติของทีม อาจทำให้ไม่รู้สึกแตกต่างอะไรนัก ตอนที่ร็อดเจอร์สมาคุมลิเวอร์พูลปีแรก นอกจากเขาจะพยายามให้นักเตะเล่นบอลแบบ Tiki-Taka แล้ว ยังนำฟอร์เมชั่นใหม่ๆมาทดลองใช้อยู่เรื่อยๆอีกด้วย ไม่ยึดแผนใดแผนหนึ่งแบบกุนซือเจนสนามคนอื่นๆ นอกจาก Tiki-Taka เขายังลองให้นักเตะเล่นแบบ Total voetbal ด้วย ซึ่งแท็คติคนี้ก็ยังคงใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน

Total voetbal จะคล้ายกับ Total football แต่จะรวมแ็ท็กติกดั้งเดิมของ Tiki-Taka ลงไปด้วย คือ เน้นเล่นบอลสั้น ต่อบอลรวดเร็ว เพรสซิ่งตลอดเวลา และ ผู้เล่นปรับตำแหน่งบนสนามได้ทุกตำแหน่ง สามารถเล่นเกมบุกได้ทุกคน/รับได้ทุกคน ร็อดเจอร์ส พยายามเล่นแผนนี้กับทีมพอสมควร ซึ่งก็ออกมาไม่ค่อยดีเ่ท่าไหร่ ณ ปัจจุบันเขาก็ยังทำอยู่ เห็นได้ชัดจากตอนต้นฤดูกาล ที่หลายคนบ้ายิง บ้าเลี้ยง บ้าบุก แบบ บ้าๆบอๆ กันเหลือเกิน = ='

เวลาเจอทีมใหญ่ ร็อดเจอร์สจะอัดกองกลางเพิ่มเป็น 4-5-1 เวลาเจอทีมเล็กเขาจะเ่ล่นแผนทั่วไปแบบ 4-2-3-1 หรือ หากต้องการเกมที่แตกต่างไปเลยเขาจะเล่น 4-4-2 หรือ 4-2-4 ฤดูกาลแรกของเขากับลิเวอร์พูลนั้น แม้จะไม่ได้สร้างความประทับใจนัก แต่ก็ไม่ถือว่า ย่ำแย่จนรับไม่ได้

ปีแรกของร็อดเจอร์ส เราเจอล้อว่า "ห้าวอยากเป็นบาซ่าแห่งอังกฤษ"

มาปีนี้ เราก็ยังหนีไม่พ้นการถูกตั้งฉายาล้อเลียน เมื่อ เบรนเด็น รอดเจอร์ส พาลูกทีมไปดูเกมการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนลีกส์รอบแบ่งกลุ่ม ในสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านต้อนรับ ยอดทีมยักษ์ใหญ่จากเยอรมัน บาร์เยิร์น มิวนิค

ร็อดเจอร์สบอกว่า "เขาอยากพาเด็กๆมาสัมผัสบรรยากาศในถ้วยที่เราไม่ได้เล่นมานานแล้ว เพื่อให้เรามีความกระหายกับมันมากขึ้น" คำสัมภาษณ์ก็ทำนองนั้น สุดท้ายร็อดเจอร์สยังบอกอีกด้วยว่า สไตล์การเล่นของบาร์เยิร์นมิวนิค นั้นน่าสนใจจริงๆ
และตามคาด เราถูกแอนตี้แฟน เอามาล้อเลียนอีกครั้ง

"คราวนี้อยากจะเป็น บาร์เยิร์นแห่งอังกฤษอีกแล้ว
กร๊ากกกกกกกกกกกกกก กรูขรรม"

ก็ ... อ่ะนะ ... ว่าไงก็ว่ากัน ... พวกพี่คิดไงมันก็ตามนั้นนั่นหล่ะ



นอกจากนั้น ร็อดเจอร์สยังเป็นผู้จัดการทีมที่ แอนตี้แฟน ให้ฉายาว่าเหมาะสมกับลิเวอร์พูลจริงๆ
เพราะ "ขี้โม้พอกัน" ทั้งกัปตัน ทั้งโค้ช ทั้งแฟนบอล ...
แต่..แน่ใจเหรอ ว่าคุณไม่ต้องการผู้จัดการแบบนี้ กัปตันแบบนี้ และ แฟนบอลแบบนี้?

สำหรับร็อดเจอร์ส เท่าที่ผ่านมา เขาไม่ไ่ด้เป็นผู้จัดการทีมที่เพอร์เฟ็ค แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาเป็นผู้จัดการที่วางตัวได้ดีมากคนหนึ่ง และ ให้กำลังใจทีมได้มากมายมหาศาล แม้ใครจะมองว่า การให้กำลังใจแบบนั้น ถือเป็นการ "โม้" ก็ตาม ร็อดเจอร์ส ชื่นชมนักเตะของเขาเสมอ และ กระหายชัยชนะในนัดต่อไป รวมทั้งการยอมรับความผิดพลาดของทีมตัวเอง เหนืออื่นใด เขาชอบการพัฒนาเปลี่ยนแปลง

บางครั้งการเปลี่ยนตัว การแก้เกม การจัดทีมจะน่าหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่สุดท้าย เราก็จะหายโกรธเขาอยู่ดีเมื่อเขาออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องความมั่นใจ คือ ถ้าใครไม่เป็น แต่เราคงต้องบอกว่า เราเป็นเช่นนั้นจริงๆ

ที่บอกว่า แน่ใจเหรอว่าคุณไม่ต้องการผู้จัดการแบบนี้?
ไม่ได้หมายความว่า แน่ใจเหรอว่าคุณไม่ต้องการร็อดเจอร์ส
แต่หมายความว่า
แน่ใจเหรอ...ว่าคุณไม่ต้องการผู้จัดการที่มั่นใจในนักเตะตัวเอง
เชื่อใจและให้กำลังใจนักเตะเสมอ ยอมรับความผิดพลาดทั้งของตัวเองและของทีม

ที่บอกว่า แน่ใจเหรอว่าคุณไม่ต้องการกัปตันแบบนี้?
ไม่ได้หมายความว่า แน่ใจเหรอว่าคุณไม่ต้องการเจอร์ราร์ด
แต่หมายความว่า
แน่ใจเหรอ... ว่าคุณไม่ต้องการกัปตันที่เชื่อมั่นในทีมของตัวเอง 1000% เปอร์เซนต์
และคอยอบรมสั่งสอนนักเตะใหม่ๆ รวมถึงส่งต่อวัฒนธรรมของทีมสู่เพื่อนร่วมทีมตลอดเวลา
กัปตันที่เป็นศูนย์กลางของทีม อะไรแบบนั้น

ที่บอกว่า แน่ใจเหรอว่าคุณไม่ต้องการแฟนบอลแบบนี้?
ไม่ได้หมายความว่า แน่ใจเหรอว่าคุณไม่ต้องการจะเป็นแฟนบอลแบบ The Kop
แต่หมายความว่า
แน่ใจเหรอ... ว่าคุณจะไม่ต้องการเป็นแฟนบอลที่ยังคงอยู่กับทีมเสมอแม้ทีมจะตกต่ำขนาดไหน
แม้จะแพ้ แต่ก็ยังคงโม้ได้ และ ไม่เคยหมดหวัง

มีคนแบบร็อดเจอร์สอีกมาก
มีคนแบบเจอร์ราร์ดอีกมาก
และมีแฟนบอลแบบ The Kop อีกมาก

มีอีกหลายทีมที่มี กุนซือที่น่าเคารพ มีนักเตะที่น่าให้ความรัก และ มีทีมที่คู่ควรให้ผูกพันธ์
แน่ใจเหรอว่าคุณไม่อยากเป็นเช่นนั้น หรือ สัมผัสบรรยากาศเช่นนั้น...?

นัดนี้เราต้องการ 3 แต้ม พอๆักับที่ต้องการลบอาถรรพ์ที่ "สนามเซนต์ แมรี่" สนามเหย้าของเซาธ์แธมตัน ครั้งที่แล้วเซาธ์บุกไปเอาแต้มเราถึงแอนฟิลด์ ตอกย้ำ คำพูดที่ว่า "ลิเวอร์พูลนี่แพ้ทางเซาธ์ฯจริงๆ" นัดนี้เราเลยต้องการลบอาถรรพ์ "แพ้ทาง" ที่ว่านั่นเต็มที่ และ ชัยชนะครั้งล่าสุดของเราที่เซนต์แมรี่ ยังต้องย้อนไปถึงปี 2003 เลยทีเดียว อาถรรพ์ 12 ปีจะถูกลบโดยการทำทีมของ เบรนเด็น รอดเจอร์สได้หรือไม่

เดี๋ยวรู้กัน

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่