เหตุ ปะทะแยกหลักสี่ผ่านมา 1 เดือนแล้ว แต่ตำรวจยังไม่สามารถหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ หนึ่งในผู้บาดเจ็บสาหัส คือนายอะแกว แซ่ลิ่ว ขณะนี้ย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว อาการทั่วไปดีขึ้นแต่ยังต้องฝึกหายใจด้วยตัวเอง และทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ แม้โอกาสเป็นอัมพาตตลอดชีวิตจะมีสูงก็ตาม
การพูดคุยเป็นประจำ คือแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้นายอะแกว แซ่ลิ่ววัย 72 ปี ฟื้นจากอาการป่วย และกระตุ้นการรับรู้ของพ่อให้มากขึ้น หลังจากเขาบาดเจ็บสาหัสจากเหตุปะทะที่แยกหลักสี่ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระสุนปืนปริศนายิงเข้าที่ต้นคอซ้าย ทะลุไปถูกไขประสาท ส่งผลให้แขนและขา ขยับเขยื้อนไม่ได้ ซึ่งทางการแพทย์บ่งชี้ว่าเป็นอัมพาต
นายอะแกว ย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยใช้สิทธิบัตรทอง อาการทั่วไปตอนนี้ดีขึ้น ผู้ป่วยรู้สึกตัวแต่ยังพูดไม่ได้ จึงตอบสนองผ่านการกะพริบตา และพยักหน้า
ที่ยังเป็นปัญหา คือมีไข้สูง หายใจด้วยตัวเองได้ไม่เต็มที่ จึงยังต้องให้ออกซิเจนผ่านลำคอ และให้ยาปฎิชีวนะรักษาแผลติดเชื้อ ซึ่งแพทย์กังวลว่า ปอดอาจจะแฟบ หากผู้ป่วยยังไม่สามารถหายใจเองได้ ช่วงนี้ แพทย์จึงยังรักษาตามอาการ พร้อมกับทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาได้เลย ว่า นายอะแกว จะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่
เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาทจากผู้ใจบุญในช่วงแรกที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกใช้ไปบางส่วนแล้ว ทั้งการซื้อยา และผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งนางเอื้องฟ้า ยอมรับว่า ไม่น่าจะเพียงพอสำหรับการรักษาตัวที่บ้านหลังจากนี้ เพราะพ่อของเธอมีโอกาสต้องนอนบนเตียงไปตลอดชีวิต
ขณะที่ตัวเธอเอง หยุดงานมาแล้ว 1 เดือน เพื่อดูแลพ่อ ซ้ำร้าย เพิ่งตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 5 เซนติเมตร ที่ปีกมดลูกด้านซ้าย หลังจากรู้สึกเจ็บท้องมากว่า 7 ปี จึงเตรียมผ่าตัด เพื่อพิสูจน์ชิ้นเนื้อในเดือนหน้า เธอบอกว่า หลังจากนี้ คงต้องลาออกจากงานประจำ เพื่อมาดูแลพ่อ เพราะหากจ้างพยาบาลมาดูแล ภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวก็จะสูงขึ้น
ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร รายงานว่า เหตุปะทะที่แยกหลักสี่ มีผู้บาดเจ็บรวม 7 ราย กลับบ้านได้แล้ว 6 ราย และอีก 1 ราย คือนายอะแกว ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการสาหัสมากที่สุด
ส่วนความคืบด้านคดี พลตำรวจตรีปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการรวบรวมภาพในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัย 4 ราย แต่ศาลยกคำร้อง 1 ราย โดยให้กลับมาหาหลักฐานเพิ่ม ส่วนอีก 3 ราย ศาลนัดฟังคำสั่งในวันที่ 11 มีนาคมนี้
ที่มา :
http://shows.voicetv.co.th/voice-news/98740.html
1 มีนาคม 2557
อะแกว แซ่ลิ่ว (ชายชราที่ถูกยิงที่แยกหลักสี่) ชีวิต 1 เดือนหลังถูกยิง !
เหตุ ปะทะแยกหลักสี่ผ่านมา 1 เดือนแล้ว แต่ตำรวจยังไม่สามารถหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ หนึ่งในผู้บาดเจ็บสาหัส คือนายอะแกว แซ่ลิ่ว ขณะนี้ย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว อาการทั่วไปดีขึ้นแต่ยังต้องฝึกหายใจด้วยตัวเอง และทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ แม้โอกาสเป็นอัมพาตตลอดชีวิตจะมีสูงก็ตาม
การพูดคุยเป็นประจำ คือแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้นายอะแกว แซ่ลิ่ววัย 72 ปี ฟื้นจากอาการป่วย และกระตุ้นการรับรู้ของพ่อให้มากขึ้น หลังจากเขาบาดเจ็บสาหัสจากเหตุปะทะที่แยกหลักสี่ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระสุนปืนปริศนายิงเข้าที่ต้นคอซ้าย ทะลุไปถูกไขประสาท ส่งผลให้แขนและขา ขยับเขยื้อนไม่ได้ ซึ่งทางการแพทย์บ่งชี้ว่าเป็นอัมพาต
นายอะแกว ย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยใช้สิทธิบัตรทอง อาการทั่วไปตอนนี้ดีขึ้น ผู้ป่วยรู้สึกตัวแต่ยังพูดไม่ได้ จึงตอบสนองผ่านการกะพริบตา และพยักหน้า
ที่ยังเป็นปัญหา คือมีไข้สูง หายใจด้วยตัวเองได้ไม่เต็มที่ จึงยังต้องให้ออกซิเจนผ่านลำคอ และให้ยาปฎิชีวนะรักษาแผลติดเชื้อ ซึ่งแพทย์กังวลว่า ปอดอาจจะแฟบ หากผู้ป่วยยังไม่สามารถหายใจเองได้ ช่วงนี้ แพทย์จึงยังรักษาตามอาการ พร้อมกับทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาได้เลย ว่า นายอะแกว จะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่
เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาทจากผู้ใจบุญในช่วงแรกที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกใช้ไปบางส่วนแล้ว ทั้งการซื้อยา และผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งนางเอื้องฟ้า ยอมรับว่า ไม่น่าจะเพียงพอสำหรับการรักษาตัวที่บ้านหลังจากนี้ เพราะพ่อของเธอมีโอกาสต้องนอนบนเตียงไปตลอดชีวิต
ขณะที่ตัวเธอเอง หยุดงานมาแล้ว 1 เดือน เพื่อดูแลพ่อ ซ้ำร้าย เพิ่งตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 5 เซนติเมตร ที่ปีกมดลูกด้านซ้าย หลังจากรู้สึกเจ็บท้องมากว่า 7 ปี จึงเตรียมผ่าตัด เพื่อพิสูจน์ชิ้นเนื้อในเดือนหน้า เธอบอกว่า หลังจากนี้ คงต้องลาออกจากงานประจำ เพื่อมาดูแลพ่อ เพราะหากจ้างพยาบาลมาดูแล ภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวก็จะสูงขึ้น
ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร รายงานว่า เหตุปะทะที่แยกหลักสี่ มีผู้บาดเจ็บรวม 7 ราย กลับบ้านได้แล้ว 6 ราย และอีก 1 ราย คือนายอะแกว ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการสาหัสมากที่สุด
ส่วนความคืบด้านคดี พลตำรวจตรีปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการรวบรวมภาพในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัย 4 ราย แต่ศาลยกคำร้อง 1 ราย โดยให้กลับมาหาหลักฐานเพิ่ม ส่วนอีก 3 ราย ศาลนัดฟังคำสั่งในวันที่ 11 มีนาคมนี้
ที่มา : http://shows.voicetv.co.th/voice-news/98740.html
1 มีนาคม 2557