10 อันดับ 'ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม' เวทีออสการ์ในดวงใจข้าพเจ้า

10 อันดับ 'ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม' เวทีออสการ์ในดวงใจข้าพเจ้า

ตอนแรกว่าจะจั่วหัวว่า best of the best แต่เกรงว่าบางเรื่องจะเป็นความชอบส่วนตัวมากกว่าเลยใช้ว่าในดวงใจดีกว่า ฮ่าๆๆๆ



เคยดูไปทั้ง 55 เรื่องจาก 85 เรื่องครับ

1. The Godfather (1972)

- สารภาพตอนดูหนังรอบแรกนี่แอบง่วง ดูแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมคนยกย่องกันเยอะถึงขั้นเป็นอันดับหนึ่งในใจหลาย ๆ คน เลยไปเอานิยายมาอ่านต่อเท่านั้นแหละครับ เป็นนิยายอันดับหนึ่งในใจผมทันทีเลยครับ อ่านซ้ำบ่อยมาก เป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อย ๆ เพื่อศึกษาซึมซับวิธีคิดของท่านดอนและไมเคิล ส่วนเวอชั่นหนังก็ชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยครับ โคตรคลาสสิกหนังมาเฟีย หนังปกครองคน ฉากจบเวอชั่นนี่ก็คลาสสิกมาก

2. Schindler's List (1993)

- เป็นหนังเกี่ยวกับนาซีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยดูมาเลยครับ การเล่าเรื่อง ประเด็นของหนัง รวมถึงความโหดร้ายของสงคราม มิตรภาพระหว่างสงคราม มันถูกถ่ายทอดออกมาในหนังได้อย่างยอดเยี่ยม เยี่ยมจนไม่รู้สึกว่านี่คือหนังยาวสามชั่วโมง เพราะเรื่องดำเนินไปเรื่อย ๆ อย่างเป็นธรรมชาติและน่าติดตาม ไม่มีฉากไหนที่ผมรู้สึกว่าฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็นต้องใส่แต่อย่างใด หนังดีที่สุดของสปีลเบิร์ก หนึ่งในหนังที่ดีที่สุดของโลก!!!

3. Casablanca (1942)

- "Here's Looking at You, Kid." ดูเรื่องนี้แล้วโคตรชอบ 'ริก' พระเอกของเรื่อง คนอะไรโคตรสุภาพบุรุษ แล้วตัวหนังนี่ไม่ได้มีดีแค่โรแมนซ์ แต่ยังใส่ความขัดแย้งทางการเมืองเลือกข้างในสงครามโลกเป็นพื้นหลังด้วย ฉากเด็ดก็ฉากร้องเพลงมาร์ชนั่นแหละครับ!!

4. On the Waterfront (1954)

- ถ้าจะมีหนัง hidden agenda การเมืองแหล่ม ๆ สักเรื่องก็ต้องเรื่องนี้แหละครับ โคตรหนังในดวงใจเลย สมมุติตัวผมถูกยัดเยียดข้อหาว่า 'ขายเพื่อน' หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าผมจะแก้ตัวก็คงต้องใช้วิธีทำหนังเทียบเคียงเรื่องราวแบบนี้แหละครับ! ไหนจะการแสดงของแบรนโดในเรื่องนี้ที่โคตรได้ใจผมเลย

5. The Apartment (1960)

- มนุษย์เงินเดือนหวังเติบโตในบริษัทด้วยการให้เหล่าผู้บริหารยืมอพาร์ทเม้นท์ของเขาเป็นที่นัดเจอชู้สาว แต่แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาตกหลุมรักกับหนึ่งในชู้รักของผู้บริหาร โอยย เห็นพล็อตแล้วมันเป็นการปะทะกันระหว่าง ความทะเยอทะยานในอาชีพ vs. ทำตามหัวใจ บทหนังดีมากกกกกก ดีในแง่ของความน่าเชื่อถือของเรื่องราวทุกอย่างมีเหตุมีผลรองรับ สมราคาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ และการแสดงของแจ็ค เลมม่อนสมราคานักแสดงชายเข้าชิงออสการ์ 8 ครั้ง!

6. Amadeus (1984)

- ผมหลงรักวิธีการเล่าชีวประวัติของ 'โมสาร์ท' โดยเลือกเล่าแบบ 'flashback' ผ่านสายตา Antonio Salieri เพื่อนสนิทของโมสาร์ทให้ออกมาเป็นเชิงอิจฉาริษยา โกรธพระเจ้าที่ประทานพรสวรรค์ล้ำค่าให้โมสาร์ท เทคนิคนี้ทำให้ช่วงการเล่าอดีตสามารถเพิ่มเติมการบรรยายความรู้สึกตัวละครโดยใช้เวลาปัจจุบันอธิบายความรู้สึกเวลานั้น รวมถึงบอกเล่าความเก่งกาจของโมสาร์ทที่สร้างงานล้ำสมัยกว่าคนฟัง เยี่ยมเลยครับ หนังมาถูกทางแล้วที่ใช้วิธีนี้เล่าเรื่อง ผลลัพธ์ที่ได้ยอดเยี่ยมมากครับ อ่อ ผมชอบการตีความที่มาของอุปรากรด้วยครับ

7. Patton (1970)

- เนื้อหาที่หนังนำเสนอล้วนแต่เป็นการเชิดชู ยกย่องวีรบุรุษผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของฝ่ายสัมพันธมิตร นายทหารผู้ที่ถูกการเมืองเล่นงาน ตกเป็นเหยื่อของการเมืองอเมริกาที่ต้องการเอาใจอังกฤษและสนับสนุนแนวรบตะวันออกอย่างรัสเซียเพื่อชนะสงคราม ที่สุดแล้วเมื่อดู Patton จนจบ อาจจะทำให้คนดูตระหนักอย่างหนึ่งว่า การเมืองและสงคราม มันเป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กันอย่างแท้จริง และชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตรอาจจะไม่เกิดขึ้นถ้าปราศจากชายที่ชื่อว่า "นายพลแพตตัน"

ผมชอบ Patton อยู่อย่างหนึ่งคือผู้กำกับและคนเขียนบทตีความตัวละครมาให้หมดแล้ว คนดูอย่างไรแค่รับสาส์นที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อก็พอ ทั้งหมด 170 นาทีของหนังแทบจะมุ่งเน้นไปที่ตัวละครนายพลแพตตันทั้งหมดครับ ตามประวัติศาสตร์ก็คือเป็นนายพลคนเดียวที่ฝ่ายเยอรมันเกรงกลัวในความสามารถ ฝ่ายเยอรมันมีเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นายพลแพตตันด้วยครับ ผู้กำกับเลือกจะสื่อว่านายพลแพตตันเป็น "วีรบุรุษที่มีทั้งคนชอบและชิงชัง" ซึ่งถ้าดูตามเนื้อหาของหนังแล้วก็ไม่แปลกใจครับ

8. Ben-Hur (1959)

- โคตรหนังมหากาพย์ สเกลหนังยิ่งใหญ่ เมื่อแม่ทัพโรมันเนรเทศชนชั้นสูงชาวยิวเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปเป็นทาส สาเหตุเพราะเขาไม่ยอมทรยศต่อชาวยิวที่ต้องการอิสระจากโรมัน และหลังจากนี้ก็เป็นเรื่องราวของการกลับมาล้างแค้นครับ หนังยอดเยี่ยมทุกอย่างสมราคา 11 รางวัลชนะเลิศออสการ์ ทีเด็ดของหนังคือฉากแข่งรถม้าศึก เมื่อเทียบกับปีสร้างแล้วต้องบอกว่าโคตรคลาสสิก มาดูทุกวันนี้ยังรู้สึกว่าฉากนี้ทันสมัยอยู่เลยครับ

9. The Sting (1973)

- โคตรของโคตรของโคตรของโคตรหนังต้มตุ๋นเลยครับ เปื่อยกันทั้งโลก ฮ่าๆๆๆ หนังดูง่าย เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนแต่เห็นทริคกลเม็ดในการตุ๋นได้อย่างชัดเจน ช่วงครึ่งแรกของหนังก็มีการต้มตุ๋นแบบธรรมดาทั่วไป แต่พอถึงการตุ๋นครั้งใหญ่ที่ต้องอาศัยคนร่วมงานจำนวนมากนี่สิขอบอกว่าเด็ดมาก จะเด็ดยังไงต้องไปดูเองเลยครับ เป็นแผนการต้มตุ๋นที่สุดยอดมาก ไม่บ่อยที่ออสการ์จะมอบรางวัลชนะเลิศให้หนังแนวนี้ด้วยนะ!!

10. Rebecca (1940)

- หนังเรื่องเดียวของฮิตช์ค็อกที่ได้ 'best picture' จากเวทีออสการ์ ความยอดเยี่ยมของหนังอยู่ที่ตัวละคร 'แม๊กซิม' ซึ่งดูเหมือนจะมีความทุกข์ในใจทำให้ตัวละครมีมิติ มีน้ำหนักชวนติดตาม แถมด้วยบทหนังแนว Mystery ที่ค่อย ๆ เล่าเรื่องชวนสงสัยก่อนจะบรรจงกระแทกใส่คนดูในช่วงท้ายก็ทำได้เยี่ยมมาก แม้หนังจะผ่านมา 74 ปีแล้วแต่ไม่รู้สึกว่ามันล้าสมัยแต่อย่างใดครับ

++++++++++++++++++++++++++++++++++
แอบเสียดายที่พอจัด 10 อันดับแล้วหลาย ๆ เรื่องที่ผมก็ชอบมาก ๆ ต้องหลุดไป
ขอเรียงอันดับ 11-20 เพิ่มเติมไว้ด้วยนิดนึงละกันครับ
11. All About Eve
12. The Godfather: Part II
13. Lawrence of Arabia
14. The Bridge on the River Kwai
15. The Lost Weekend
16. The French Connection
17. Gone with the Wind
18. American Beauty
19. The Artist
20. Gladitor

แล้วของคุณมีเรื่องอะไรกันบ้างครับ

หนังโปรดของข้าพเจ้า: https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่