ก็อ่านรีวิวเที่ยวของคนอื่นที่เป็นประโยชน์กับตัวเองมาเยอะ เลยอยากจะมารีวิวให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง
ก่อนอื่นต้องบอกว่าไต้หวันเป็นประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัย คนไม่ได้พูดภาษาอังกฤษกันเป็นมากนักแต่ก็มักจะพยายามช่วยเหลือ เป็นประเทศที่ค่าของชีพ ค่าเดินทาง และ ค่าโรงแรมที่พัก(ถ้าไม่คิดจะนอนแพงมาก) ถูก สามารถเที่ยวได้คนเดียว(ไม่ต้องกลัวไป เพราะเราก็ไปทั้งเกาะมาคนเดียวเหมือนกัน) ขอแนะนำให้ซื้อบัตร easy card ซึ่งซื้อได้ที่เคาเตอร์สถานีรถไฟฟ้าทุกที่พร้อมกับเติมเงินได้ที่ตู้ในสถานีรถไฟฟ้าทุกที่เช่นกัน จะมีค่ามัดจำบัตรประมาณ 100 แต่พอเราไปคืนจะหักค่าใช้บัตรแค่ 20 เงินที่เหลือถ้าเติมเกินก็จะคืนให้เราหมด บัตรนี้สามารถใช้ได้กับทุกสรรพสิ่งบนโลกไต้หวันนี้ คือจ่ายค่ารถไฟฟ้าได้ บางทีนั่งรถไฟออกนอกเมืองก็จ่ายได้(ุถ้าไปไม่ไกลมาก) จ่ายค่ารถเมย์ได้ จ่าย7-11 ได้ จ่ายแม็คโดโนได้ พูดง่ายๆว่า สมควรมีไว้ในครอบครอง
ก็ขอเริ่มจากเมืองหลวงก่อน คือ ไทเป ในไทเปนี่ค่อนข้างจะเที่ยวได้แบบสะดวกมากเนื่องจากรถไฟฟ้าของเขาไปถึงแทบจะทุกมุมเมืองเลยก็ว่าได้ แล้วก็พอลงจากสถานีส่วนมากก็จะมี visiting center เล็กๆก็สามารถเดินเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับสถาที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้านั้นได้ฟรี โดยเขาก็จะบอกถึงสายรถ ทางไป ทางกลับ ค่าตั๋ว บลาๆ แล้วแต่เราจะถามเลย
อันนี้ก็เป็นแผนที่รถไฟฟ้าในไทเป ขอเริ่มจากบนสุดของแผนที่ก่อน สายสีแดง
สถานี Tamshui : ตลาด danshui เกาะปาหลี
ติดกับสถานีนี้จะมีตลาดเก่าซึ่งสองข้างทางเป็นของกิน แล้วตลาดนี้มีความพิเศษคือมันติดกับแม่น้ำ แล้วถ้าเดินเลียบแม่น้ำไปก็จะเห็นท่าเรือ ซึ่งสามารถขึ้นเรือได้จากตรงนี้ไปถึงเกาะปาหลี ซึ่งเวลามองกลับมาก็จะเห็นฝั่งเมือง คนส่วนมากข้ามไปเกาะปาหลีเช่าจักรยานแล้วก็ปั่นรอบๆ ใช้เวลานั่งเรือข้ามไปประมาณ 15 นาที ค่าข้ามก็ประมาณ 50 บาทต่อเที่ยว ถ้าไปถึงที่นี่ก็มีของที่แนะนำให้กินคือ อาเกะ หน้าตามันจะเหมือนลูกชิ้นปลาใหญ่ๆๆๆๆๆๆ แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช้ มันคือเต้าหู้แล้วยัดวุ้นเส้นไว้ข้างใน ราดซอสสีแดงๆ (เหมือนซอสสุกกี้) อร่อยฟินนนน ><
สถานี Xinbeitou : เมืองน้ำพุร้อน ห้องสมุดรูปเรือ
สายสีชมพูเล็กๆที่ยื่นออกมาจากสถานี Beitou ในสายสีแดง เวลาจะจะไปสถานีนี้ก็ต้องไปเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าที่สถานี beitou ซะก่อนโดยรถไฟฟ้าขบวนที่จะนำไปสถานี Xinbeitou จะมีการตกแต่งโดยใช้พวกถังไม้(เหมือนถังน้ำร้อน)มาตั้ง ก็ให้บรรยากาศดีๆไปอีกแบบ
โดยสถานีนี้จะนำท่านไปสู่เมืองน้ำพุร้อน คือ ที่เมืองนี้โดยส่วนมากจะเป็นโรงแรมแช่น้ำพุร้อนทั้งหมด สถานที่ดังในเมืองนี้ก็มีห้องสมุดที่เป็นรูปเรือ กับบ่อน้ำพุร้อน (ที่โคตรรรรจะเหม็นกลิ่นกำมะถัน) แต่โดยรอบๆเมืองก็ถือว่าเป็นเมืองพักผ่อน ให้บรรยากาศชิวๆ มีสวนสาธารณะมากมายมีน้ำพุที่เปิดเป็นเวลา ถ้าว่างๆไม่มีอะไรก็เดินออกจากสถานีนี้ไปเดินเล่นในเมืองนี้ได้ มันไม่ได้ใหญ่มาก รับรองว่าไม่มีหลง
สถานี Shilin : National Palace Museum (กู้กงบ่อฮูก่วน)
จากสถานีนี้ถ้าออกมาที่ป้ายรถเมย์ซึ่งอยู่หน้าแล้วขึ้นรถเมย์สาย R30 นั่งไปจนสุดสาย (จนมันประกาศว่า National Palace Museum) ก็จะเจอกับพิพิทธพัณฑ์ของได้หวัน (ซึ่งสมบัติเรียกว่าทั้งหมดก็ได้) ในนั้นเป็นของเมืองจีน มีหมดตั้งแต่ขวดยานัด (วาดกันอย่างวิจิตร) เครื่องบรอนซ์ เครื่องเงิน ภาพวาด ของเด็ดของเขาคือหักผักกาด กับหมูหยก (มันเป็นไม้ที่แห้งจนกลายเป็นหิน หรือเป็นหยกเนี่ยแหละ) ความพิเศษของไอ้สองอย่างนี้คือ สีของมัน อย่างหัวผักกาดนี่มันเริ่มจากว่าเขามีหยกที่ไล่จากสีขาวไปเขียว แล้วเขาไม่รู้จะแกะเป็นไรจนในที่สุดก็แกะมาได้เป็นหัวผักกาด ส่วนไอ้ชิ้นหมูนี่มันเหมือนหมูจริงมาก แบบเรียกว่ามันเป็นหินที่เหมือนหมูสามชั้น เขาว่ามันพิเศษเพราะมันดูน่ากิน ใครอยากรู้ว่าน่ากินมากขนาดไหน จะอร่อยจริงๆไหม = =' เชิญชมได้ที่พิพิธพัณฑ์ ค่าเข้าชมคนละ 180 ถ้าไปเย็นวันศุกร์ (หลังหกโมงครึ่ง) และวันเสาร์ และโชคดีอาจจะได้เข้าฟรี จริงๆกฏในการเข้าฟรีคือต้องเป็นคนไต้หวัน แต่เนื่องจากว่าคนเอเชียก็หน้าตาเหมือนกันหมด (จะไทยจะไต้หวันก็มองกันไม่ค่อยออก) เพราะงั้นถ้าไม่ได้มีทัวร์ลงและเขาไม่ได้ตรวจบัตรประชาชนก็เดินเข้าไปได้เลย เราเองเคยเข้าฟรีสองครั้ง แต่พอครั้งทีสามดันไปลงวันเดียวกับทัวร์จีน เขาเลยขอดูบัตรประชาชนไต้หวัน (แล้วจะไปมีได้ยังไง = =') เลยต้องเสียเงินกันไปตามระเบียบ
จะบอกว่าเขามีสวนอยู่ชั้นล่างด้วย เห็นหลายๆคนบอกว่าสวยดี โดยส่วนที่เป็นสวนเข้าฟรี และก็ตัวอาคารภาพนอกของพิพิธพัณฑ์ก็สวยมาก บางทีก็เห็นคนชอบมาถ่ายแบบกันอยู่ข้างหน้าด้วย
สถานี Jiantan : Yangmingshan, Shilin night market
ไต้หวันนี่ต้องถือว่าเป็นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องภูเขา และ ของกิน
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ YangMingShan มาบ้าง มันเป็น National Park ที่ไม่ไกลจากไทเป ไปไม่ยาก และถ้าไปถูกวัน (วันที่อากาศดี) มันก็จะสวยมาก!!! โดยวิธีการไปนั้นก็ง่ายแสนง่าย โดยให้นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี Jiantan หลังจากนั้นก็เดินไปตามทางออกที่เขียนว่า Shilin Night market แต่พอเราออกจากสถานีปุ๊บแทนที่เราจะข้ามถนนไปฝั่งตลาดกลางให้เลี้ยวซ้ายไปตรงป้ายรถเมย์ ถ้าไปวันเสาร์อาทิตย์อาจจะเห็นแถวยาวๆ รอเข้าคิวอยู่ ให้รู้ว่านั่นแหละ แถวที่รอขึ้นรถไปหยางหมิงซาน โดยรถที่ไปได้คือสาย 小15 เป็นรถบัสคันเล็กๆ จะไปจอดป้ายสุดท้ายที่ QingTianGang ในความเห็นเราป้ายนี้ดีที่สุดแล้ว เพราะสวยสุด วิวดีที่สุด แล้วก็ไปมาสะดวกสุด ก็ขามานั่งสายอะไรมา ขากลับก็ไปขึ้นรถที่ป้ายเดิมแล้วก็กลับมาที่สถานีเดิม
ส่วนถ้าออกจากสถานีแล้วเดินไล่มาตามป้ายที่บอกว่า Shilin Night Market แล้วข้ามถนนมาก็จะเห็นตลาดที่ขายตั้งแต่ของกิน เสื้อผ้า รองเท้า ราคาก็ถือว่ารับได้ ส่วนเรื่องรถชาตินี้ไม่ต้องพูดถึง ถ้าเห็นร้านไหนคนต่อคิวยาวๆนั่นก็เข้าไปต่อตามเขาได้เลย เพราะแถวนี้ร้านเด็ดเยอะ ต่อตามๆไปรับรองอร่อยหมด โดยตลาดนี้จะเปิดตั้งแต่หกโมงเย็น คนจะเยอะมากกกกกในคือวันศุกร์และวันเสาร์ ส่วนวันธรรมดาก็จะเงียบๆหน่อย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่ที่สมควรไป
รีวิว เที่ยวเอง ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า
ก่อนอื่นต้องบอกว่าไต้หวันเป็นประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัย คนไม่ได้พูดภาษาอังกฤษกันเป็นมากนักแต่ก็มักจะพยายามช่วยเหลือ เป็นประเทศที่ค่าของชีพ ค่าเดินทาง และ ค่าโรงแรมที่พัก(ถ้าไม่คิดจะนอนแพงมาก) ถูก สามารถเที่ยวได้คนเดียว(ไม่ต้องกลัวไป เพราะเราก็ไปทั้งเกาะมาคนเดียวเหมือนกัน) ขอแนะนำให้ซื้อบัตร easy card ซึ่งซื้อได้ที่เคาเตอร์สถานีรถไฟฟ้าทุกที่พร้อมกับเติมเงินได้ที่ตู้ในสถานีรถไฟฟ้าทุกที่เช่นกัน จะมีค่ามัดจำบัตรประมาณ 100 แต่พอเราไปคืนจะหักค่าใช้บัตรแค่ 20 เงินที่เหลือถ้าเติมเกินก็จะคืนให้เราหมด บัตรนี้สามารถใช้ได้กับทุกสรรพสิ่งบนโลกไต้หวันนี้ คือจ่ายค่ารถไฟฟ้าได้ บางทีนั่งรถไฟออกนอกเมืองก็จ่ายได้(ุถ้าไปไม่ไกลมาก) จ่ายค่ารถเมย์ได้ จ่าย7-11 ได้ จ่ายแม็คโดโนได้ พูดง่ายๆว่า สมควรมีไว้ในครอบครอง
ก็ขอเริ่มจากเมืองหลวงก่อน คือ ไทเป ในไทเปนี่ค่อนข้างจะเที่ยวได้แบบสะดวกมากเนื่องจากรถไฟฟ้าของเขาไปถึงแทบจะทุกมุมเมืองเลยก็ว่าได้ แล้วก็พอลงจากสถานีส่วนมากก็จะมี visiting center เล็กๆก็สามารถเดินเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับสถาที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้านั้นได้ฟรี โดยเขาก็จะบอกถึงสายรถ ทางไป ทางกลับ ค่าตั๋ว บลาๆ แล้วแต่เราจะถามเลย
อันนี้ก็เป็นแผนที่รถไฟฟ้าในไทเป ขอเริ่มจากบนสุดของแผนที่ก่อน สายสีแดง
สถานี Tamshui : ตลาด danshui เกาะปาหลี
ติดกับสถานีนี้จะมีตลาดเก่าซึ่งสองข้างทางเป็นของกิน แล้วตลาดนี้มีความพิเศษคือมันติดกับแม่น้ำ แล้วถ้าเดินเลียบแม่น้ำไปก็จะเห็นท่าเรือ ซึ่งสามารถขึ้นเรือได้จากตรงนี้ไปถึงเกาะปาหลี ซึ่งเวลามองกลับมาก็จะเห็นฝั่งเมือง คนส่วนมากข้ามไปเกาะปาหลีเช่าจักรยานแล้วก็ปั่นรอบๆ ใช้เวลานั่งเรือข้ามไปประมาณ 15 นาที ค่าข้ามก็ประมาณ 50 บาทต่อเที่ยว ถ้าไปถึงที่นี่ก็มีของที่แนะนำให้กินคือ อาเกะ หน้าตามันจะเหมือนลูกชิ้นปลาใหญ่ๆๆๆๆๆๆ แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช้ มันคือเต้าหู้แล้วยัดวุ้นเส้นไว้ข้างใน ราดซอสสีแดงๆ (เหมือนซอสสุกกี้) อร่อยฟินนนน ><
สถานี Xinbeitou : เมืองน้ำพุร้อน ห้องสมุดรูปเรือ
สายสีชมพูเล็กๆที่ยื่นออกมาจากสถานี Beitou ในสายสีแดง เวลาจะจะไปสถานีนี้ก็ต้องไปเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าที่สถานี beitou ซะก่อนโดยรถไฟฟ้าขบวนที่จะนำไปสถานี Xinbeitou จะมีการตกแต่งโดยใช้พวกถังไม้(เหมือนถังน้ำร้อน)มาตั้ง ก็ให้บรรยากาศดีๆไปอีกแบบ
โดยสถานีนี้จะนำท่านไปสู่เมืองน้ำพุร้อน คือ ที่เมืองนี้โดยส่วนมากจะเป็นโรงแรมแช่น้ำพุร้อนทั้งหมด สถานที่ดังในเมืองนี้ก็มีห้องสมุดที่เป็นรูปเรือ กับบ่อน้ำพุร้อน (ที่โคตรรรรจะเหม็นกลิ่นกำมะถัน) แต่โดยรอบๆเมืองก็ถือว่าเป็นเมืองพักผ่อน ให้บรรยากาศชิวๆ มีสวนสาธารณะมากมายมีน้ำพุที่เปิดเป็นเวลา ถ้าว่างๆไม่มีอะไรก็เดินออกจากสถานีนี้ไปเดินเล่นในเมืองนี้ได้ มันไม่ได้ใหญ่มาก รับรองว่าไม่มีหลง
สถานี Shilin : National Palace Museum (กู้กงบ่อฮูก่วน)
จากสถานีนี้ถ้าออกมาที่ป้ายรถเมย์ซึ่งอยู่หน้าแล้วขึ้นรถเมย์สาย R30 นั่งไปจนสุดสาย (จนมันประกาศว่า National Palace Museum) ก็จะเจอกับพิพิทธพัณฑ์ของได้หวัน (ซึ่งสมบัติเรียกว่าทั้งหมดก็ได้) ในนั้นเป็นของเมืองจีน มีหมดตั้งแต่ขวดยานัด (วาดกันอย่างวิจิตร) เครื่องบรอนซ์ เครื่องเงิน ภาพวาด ของเด็ดของเขาคือหักผักกาด กับหมูหยก (มันเป็นไม้ที่แห้งจนกลายเป็นหิน หรือเป็นหยกเนี่ยแหละ) ความพิเศษของไอ้สองอย่างนี้คือ สีของมัน อย่างหัวผักกาดนี่มันเริ่มจากว่าเขามีหยกที่ไล่จากสีขาวไปเขียว แล้วเขาไม่รู้จะแกะเป็นไรจนในที่สุดก็แกะมาได้เป็นหัวผักกาด ส่วนไอ้ชิ้นหมูนี่มันเหมือนหมูจริงมาก แบบเรียกว่ามันเป็นหินที่เหมือนหมูสามชั้น เขาว่ามันพิเศษเพราะมันดูน่ากิน ใครอยากรู้ว่าน่ากินมากขนาดไหน จะอร่อยจริงๆไหม = =' เชิญชมได้ที่พิพิธพัณฑ์ ค่าเข้าชมคนละ 180 ถ้าไปเย็นวันศุกร์ (หลังหกโมงครึ่ง) และวันเสาร์ และโชคดีอาจจะได้เข้าฟรี จริงๆกฏในการเข้าฟรีคือต้องเป็นคนไต้หวัน แต่เนื่องจากว่าคนเอเชียก็หน้าตาเหมือนกันหมด (จะไทยจะไต้หวันก็มองกันไม่ค่อยออก) เพราะงั้นถ้าไม่ได้มีทัวร์ลงและเขาไม่ได้ตรวจบัตรประชาชนก็เดินเข้าไปได้เลย เราเองเคยเข้าฟรีสองครั้ง แต่พอครั้งทีสามดันไปลงวันเดียวกับทัวร์จีน เขาเลยขอดูบัตรประชาชนไต้หวัน (แล้วจะไปมีได้ยังไง = =') เลยต้องเสียเงินกันไปตามระเบียบ
จะบอกว่าเขามีสวนอยู่ชั้นล่างด้วย เห็นหลายๆคนบอกว่าสวยดี โดยส่วนที่เป็นสวนเข้าฟรี และก็ตัวอาคารภาพนอกของพิพิธพัณฑ์ก็สวยมาก บางทีก็เห็นคนชอบมาถ่ายแบบกันอยู่ข้างหน้าด้วย
สถานี Jiantan : Yangmingshan, Shilin night market
ไต้หวันนี่ต้องถือว่าเป็นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องภูเขา และ ของกิน
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ YangMingShan มาบ้าง มันเป็น National Park ที่ไม่ไกลจากไทเป ไปไม่ยาก และถ้าไปถูกวัน (วันที่อากาศดี) มันก็จะสวยมาก!!! โดยวิธีการไปนั้นก็ง่ายแสนง่าย โดยให้นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี Jiantan หลังจากนั้นก็เดินไปตามทางออกที่เขียนว่า Shilin Night market แต่พอเราออกจากสถานีปุ๊บแทนที่เราจะข้ามถนนไปฝั่งตลาดกลางให้เลี้ยวซ้ายไปตรงป้ายรถเมย์ ถ้าไปวันเสาร์อาทิตย์อาจจะเห็นแถวยาวๆ รอเข้าคิวอยู่ ให้รู้ว่านั่นแหละ แถวที่รอขึ้นรถไปหยางหมิงซาน โดยรถที่ไปได้คือสาย 小15 เป็นรถบัสคันเล็กๆ จะไปจอดป้ายสุดท้ายที่ QingTianGang ในความเห็นเราป้ายนี้ดีที่สุดแล้ว เพราะสวยสุด วิวดีที่สุด แล้วก็ไปมาสะดวกสุด ก็ขามานั่งสายอะไรมา ขากลับก็ไปขึ้นรถที่ป้ายเดิมแล้วก็กลับมาที่สถานีเดิม
ส่วนถ้าออกจากสถานีแล้วเดินไล่มาตามป้ายที่บอกว่า Shilin Night Market แล้วข้ามถนนมาก็จะเห็นตลาดที่ขายตั้งแต่ของกิน เสื้อผ้า รองเท้า ราคาก็ถือว่ารับได้ ส่วนเรื่องรถชาตินี้ไม่ต้องพูดถึง ถ้าเห็นร้านไหนคนต่อคิวยาวๆนั่นก็เข้าไปต่อตามเขาได้เลย เพราะแถวนี้ร้านเด็ดเยอะ ต่อตามๆไปรับรองอร่อยหมด โดยตลาดนี้จะเปิดตั้งแต่หกโมงเย็น คนจะเยอะมากกกกกในคือวันศุกร์และวันเสาร์ ส่วนวันธรรมดาก็จะเงียบๆหน่อย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่ที่สมควรไป