ความเดิมตอนที่แล้ว พี่นิกของเรากำลังเจอปัญหาใหญ่ หนึ่งฆาตกรกระชากหนังตำรวจยังคงลอยนวล สองโผล่มาได้จังหวะปัญหาครอบครัวพอดิบพอดี เอาเป็นว่าเหตุการณ์ชุลมุนกว่าที่คิด เพราะ บิดามอนโรกระโจนเข้าใส่นิก นิกก็ป้องกันตัวต่อยบร๊ะบิดาปากแตก แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ว่าครอบครัวกำลังแตกกระเจิงกระจาย ด้วยความที่มอนโรซึ่งเป็นหมาป่ากำลังจะดองกับสาวจิ้งจอกแถมยังมีเพื่อนเป็นกริมม์ ดวกส์ !!! พ่อแม่ก็เกิดการรับไม่ได้ขึ้นมาตัดพ่อตัดลูกกันในบัดดล ส่วนนิกผู้ซึ่งเข้ามาได้จังหวะ(นรก)ก็เครียดมาก ... กุมาถูกเวลาซะจริง จะขอให้ช่วยมอนโรก็รมณ์บ่จอยไปซะแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมอนโรกลับมาคิดสารตะต่าง ๆ นานาก็ได้เวลาง้อโรซาลี รวมทั้งพูดคุยกับพ่อแม่ ตอนแรกได้ผลไม่ค่อยดี แต่มารดามอนโรก็มาปรับความเข้าใจกับโรซาลี รวมทั้งจูเลียตก็เข้ามาปลอบใจจนได้ทราบถึงปัญหานักฆ่าล่าหนังหัว พอกับที่มอนโรเข้ามา กลายเป็นเวลาเจ้าตัวถลกหัวนี้เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับกริมม์ทีเดียว เหมือนมาจากนรกยังไงยังงั้น ประเภทจู่ ๆ ได้เวลา ประตูนรกเปิดก็มาปรากฎตัวล่ากริมม์ มอนโรยังบอกว่าแต่ก่อนเนี้ยโคตรจะชอบตำนานเรื่องนี้เลย ทำให้นิกมองด้วยสายตาฉุนเฉียวนิโหน่ย (ฮา)
ทั้งคู่พากันไปรถเทรลเลอร์ของป้ามารีเพื่อหาอาวุธจัดการ จุดอ่อนของเจ้าตัวนี้ไม่ปรากฎเพราะว่ากริมม์คนอื่น ๆ ยังไม่สามารถเข้าใกล้จนทดสอบสมมติฐานจุดอ่อนของเวสเซนตัวนี้ได้ แต่สันนิษฐาน(เดา)ว่าน่าจะเป็นที่อีหนังหัวและผมของมันเนี่ยแหละ มอนโรและพี่นิกจริงแท็คทีมกันต่อสู้กับเจ้าพวกนี้ โดยภายหลังมีบร๊ะบิดาของมอนโรที่แอบตามลูกมาเข้าช่วยเหลือด้วย จนพอจะเข้าใจสิ่งที่มอนโรอธิบายว่าทำไมถึงมาเป็นเพื่อนกับกริมม์ได้
ทางด้านเจ้แอดดาลินก็ใกล้คลอดเต็มที่ท่านกัปตันก็ให้ลงมือชิงตัวเจ้มาก่อนที่พวก royal คนอื่นจะมาถึง ตอนนี้นางจึงไปซ่อนตัวอยู่กลางป่า ตักกลับมาที่บ้านนิก ความฮาเฮบวกเครียดก็บังเกิดเมื่อมีการเชิญรับประทานอาหารแบบสมานฉันท์สมานเธอขึ้นมา โต๊ะกินข้าวจึงประกอบด้วยสามสี่เผ่าพันธุ์ร่วมสังคายนา เอ๊ย สนทนากัน ได้แก่ มนุษย์ธรรมดา(จูเลียต) กริมม์(นิก) บลูดบาดเทน(มอนโรและบิดามารดา) ฟุคชบาว(โรซาลี) ซึ่งมันตึงเครียดมาก ทุกคนนั่งนิ่งจนเจ้จูพยายามหาเรื่องคุย ... พยายามหาท็อปปิคทั่วไป แต่งงานน่าตื่นเต้นเนอะ กำหนดวันหรือยัง
ปรากฎแว่ ... ทุกชีวิตบนโต๊ะอาหาร intense ไปกว่าเดิม (ฮ่า) ทุกผู้เข้าสู่โหมดแปลงร่าง พี่นิกลุกพรวดพราดขึ้นมาพร้อมมีดในมือ (ฮา) everybody calm down ในใจคงนึกว่ากุเอ๋ย เหนื่อยใจจริง !! เป็นกริมม์ เป็นตำรวจ และ เป็นกรรมการห้ามทัพด้วย มีเจ้จูนั่งงง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แอร๊ววว ฮาตรงนี้แหละ ลุกพรวดขึ้นมา เฮ้ย อย่ามาตีกันในนี้ ถือมีดยืนเทศนากันเลยทีเดียว
Grimm S.3 EP.13 : อุตะ ..... เค้าซีเรียสแต่เราแอบฮา (สปอยด์)
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมอนโรกลับมาคิดสารตะต่าง ๆ นานาก็ได้เวลาง้อโรซาลี รวมทั้งพูดคุยกับพ่อแม่ ตอนแรกได้ผลไม่ค่อยดี แต่มารดามอนโรก็มาปรับความเข้าใจกับโรซาลี รวมทั้งจูเลียตก็เข้ามาปลอบใจจนได้ทราบถึงปัญหานักฆ่าล่าหนังหัว พอกับที่มอนโรเข้ามา กลายเป็นเวลาเจ้าตัวถลกหัวนี้เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับกริมม์ทีเดียว เหมือนมาจากนรกยังไงยังงั้น ประเภทจู่ ๆ ได้เวลา ประตูนรกเปิดก็มาปรากฎตัวล่ากริมม์ มอนโรยังบอกว่าแต่ก่อนเนี้ยโคตรจะชอบตำนานเรื่องนี้เลย ทำให้นิกมองด้วยสายตาฉุนเฉียวนิโหน่ย (ฮา)
ทั้งคู่พากันไปรถเทรลเลอร์ของป้ามารีเพื่อหาอาวุธจัดการ จุดอ่อนของเจ้าตัวนี้ไม่ปรากฎเพราะว่ากริมม์คนอื่น ๆ ยังไม่สามารถเข้าใกล้จนทดสอบสมมติฐานจุดอ่อนของเวสเซนตัวนี้ได้ แต่สันนิษฐาน(เดา)ว่าน่าจะเป็นที่อีหนังหัวและผมของมันเนี่ยแหละ มอนโรและพี่นิกจริงแท็คทีมกันต่อสู้กับเจ้าพวกนี้ โดยภายหลังมีบร๊ะบิดาของมอนโรที่แอบตามลูกมาเข้าช่วยเหลือด้วย จนพอจะเข้าใจสิ่งที่มอนโรอธิบายว่าทำไมถึงมาเป็นเพื่อนกับกริมม์ได้
ทางด้านเจ้แอดดาลินก็ใกล้คลอดเต็มที่ท่านกัปตันก็ให้ลงมือชิงตัวเจ้มาก่อนที่พวก royal คนอื่นจะมาถึง ตอนนี้นางจึงไปซ่อนตัวอยู่กลางป่า ตักกลับมาที่บ้านนิก ความฮาเฮบวกเครียดก็บังเกิดเมื่อมีการเชิญรับประทานอาหารแบบสมานฉันท์สมานเธอขึ้นมา โต๊ะกินข้าวจึงประกอบด้วยสามสี่เผ่าพันธุ์ร่วมสังคายนา เอ๊ย สนทนากัน ได้แก่ มนุษย์ธรรมดา(จูเลียต) กริมม์(นิก) บลูดบาดเทน(มอนโรและบิดามารดา) ฟุคชบาว(โรซาลี) ซึ่งมันตึงเครียดมาก ทุกคนนั่งนิ่งจนเจ้จูพยายามหาเรื่องคุย ... พยายามหาท็อปปิคทั่วไป แต่งงานน่าตื่นเต้นเนอะ กำหนดวันหรือยัง
ปรากฎแว่ ... ทุกชีวิตบนโต๊ะอาหาร intense ไปกว่าเดิม (ฮ่า) ทุกผู้เข้าสู่โหมดแปลงร่าง พี่นิกลุกพรวดพราดขึ้นมาพร้อมมีดในมือ (ฮา) everybody calm down ในใจคงนึกว่ากุเอ๋ย เหนื่อยใจจริง !! เป็นกริมม์ เป็นตำรวจ และ เป็นกรรมการห้ามทัพด้วย มีเจ้จูนั่งงง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แอร๊ววว ฮาตรงนี้แหละ ลุกพรวดขึ้นมา เฮ้ย อย่ามาตีกันในนี้ ถือมีดยืนเทศนากันเลยทีเดียว