ผู้บัญชาการทหารบก หนุน"นายกรัฐมนตรี-สุเทพ" เจรจาแก้ปัญหาความขัดแย้ง ย้ำทหารไม่เกี่ยวเหตุการณ์ความรุนแรง เชื่อไม่เกิดสงครามการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า กองทัพพร้อมสนับสนุนการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแกนนำกลุ่มกปปส. แต่การเจรจาจะเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่าย ซึ่งต้องใช้เวลา
ส่วนกรณีการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ชุมนุมนั้น ยืนยันว่าอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุต่าง ๆ นั้น ไม่ใช่ของกองทัพเนื่องจากมีการตรวจสอบยอดอาวุธในคลังแสงอยู่ตลอด
ส่วนกรณีการแบ่งแยกประเทศนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง และประชาชนไทยคงไม่ยอมให้เกิดขึ้น ยืนยันทหารพร้อมดูแลทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันที่ผ่านมาไม่ได้มีคำสั่งห้ามคนเสื้อแดงเข้ามาชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพียงแต่ขอร้องว่า อย่าพกพาอาวุธ
นอกจากนี้ ยังขอขอบคุณ ที่ตนเองมีชื่ออยู่ในโพลนายกรัฐมนตรีคนกลาง แต่ไม่ดีใจ เพราะสถานการณ์บ้านเมือง ยังมีความรุนแรงมากขึ้น ส่วนการปฏิวัติรัฐประหารนั้น ต้องมีเหตุผลจริง ๆ ถึงจะสามารถทำได้ เช่นสถานการณ์รุนแรงจนควบคุมไม่ได้ หรือเกิดสงครามกลางเมือง แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่ถึงขั้นเกิดสงครามกลางเมืองในประเทศไทยแน่
พร้อมวอนประชาชนเข้าใจและเห็นใจทหาร เพราะทหารพร้อมดูแลทุกฝ่ายที่ผ่านมาใช้กำลังทหารกว่า 56 กองร้อย ในการดูแลรอบการชุมนุม แต่ไม่เข้าไปในพื้นที่ชุมนุม รวมทั้งการตั้งจุดตรวจต่าง ๆ อีกกว่า 176
ผบ.ทบ.หนุนนายกฯ-สุเทพเจรจา เชื่อไม่เกิดสงครามกลางเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า กองทัพพร้อมสนับสนุนการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแกนนำกลุ่มกปปส. แต่การเจรจาจะเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่าย ซึ่งต้องใช้เวลา
ส่วนกรณีการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ชุมนุมนั้น ยืนยันว่าอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุต่าง ๆ นั้น ไม่ใช่ของกองทัพเนื่องจากมีการตรวจสอบยอดอาวุธในคลังแสงอยู่ตลอด
ส่วนกรณีการแบ่งแยกประเทศนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง และประชาชนไทยคงไม่ยอมให้เกิดขึ้น ยืนยันทหารพร้อมดูแลทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันที่ผ่านมาไม่ได้มีคำสั่งห้ามคนเสื้อแดงเข้ามาชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพียงแต่ขอร้องว่า อย่าพกพาอาวุธ
นอกจากนี้ ยังขอขอบคุณ ที่ตนเองมีชื่ออยู่ในโพลนายกรัฐมนตรีคนกลาง แต่ไม่ดีใจ เพราะสถานการณ์บ้านเมือง ยังมีความรุนแรงมากขึ้น ส่วนการปฏิวัติรัฐประหารนั้น ต้องมีเหตุผลจริง ๆ ถึงจะสามารถทำได้ เช่นสถานการณ์รุนแรงจนควบคุมไม่ได้ หรือเกิดสงครามกลางเมือง แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่ถึงขั้นเกิดสงครามกลางเมืองในประเทศไทยแน่
พร้อมวอนประชาชนเข้าใจและเห็นใจทหาร เพราะทหารพร้อมดูแลทุกฝ่ายที่ผ่านมาใช้กำลังทหารกว่า 56 กองร้อย ในการดูแลรอบการชุมนุม แต่ไม่เข้าไปในพื้นที่ชุมนุม รวมทั้งการตั้งจุดตรวจต่าง ๆ อีกกว่า 176