ก่อนที่จิวยี่ยอดขุนพลของง่อก๊กจะตายนั้นได้เงยหน้าพูดประชดประชันต่อฟ้าสวรรค์ว่า  “เทพดาองค์ใดหนอซึ่งให้เราเกิดมาแล้ว เหตุใดจึงให้ขงเบ้งเกิดมาด้วยเล่า” จิวยี่เป็นยอดขุนพลที่ฉลาดหลักแหลม  เก่งกาจ  ขึ้นมาเป็นแม่ทัพคุมกองทัพเรืออันเกรียงไกรทั้งหมดของง่อก๊กได้ด้วยวัยเพียง 26 ปี   แต่ภายหลังเมื่อได้เป็นพันธมิตรกับเล่าปี่รบกับโจโฉ และต้องต่อสู้กับสติปัญญาของขงเบ้งในทางการเมืองจิวยี่กลับพ่ายแพ้อย่างหมดรูป  จนสุดท้ายตนเองจะยกทัพไปตีเมืองเกงจิ๋วที่เล่าปี่อาศัยอยู่  แต่อ้างว่าจะไปยกไปตีเมืองเสฉวนจำต้องผ่านหน้าเมืองเกงจิ๋วไปโดยหวังจะเข้าไปยึดเมืองเอาซึ่งๆ หน้าในขณะที่ไม่ระวังตัว  แต่ก็ถูกขงเบ้งซ้อนกลเข้าอย่างเจ็บปวดและตนเองก็ต้องกลับไปตายอย่างเคียดแค้นหัวใจท่ามกลางทัพเรืออันยิ่งใหญ่ของตนทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ออกรบจริงๆ แต่อย่างใดด้วยวัยเพียง 36 ปีเท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือที่มาของคำตัดพ้ออย่างเคียดแค้นชิงชังน้อยเนื้อต่ำใจของจิวยี่ก่อนกระอักเลือดตาย

สุเทพ  เทือกสุบรรณ  ประกาศตัวตลอดมาว่าตนเองเป็นเพียงร่างทรงและ  กปปส. เป็นเพียงตัวแทนของมวลมหาประชาชน  ดังนั้นคำพูดทุกคำพูดและแนวทางการกระทำทุกการกระทำของนายสุเทพ  พูดหรือทำออกมานั้นจึงไม่ได้มาจากความคิดของนายสุเทพเองแต่ต้องมาจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังร่างทรงของนายสุเทพซึ่งเป็นผู้ตระเตรียมหรือจัดฉากให้  สิ่งเหล่านี้ยืนยันได้ชัดจากพฤติกรรมต่างๆ ของม๊อบ กปปส. และตัวนายสุเทพเองที่สามารถละเมิดกฏหมายได้โดยไม่มีใครสามารถทำอะไรได้  มีกองกำลังติดอาวุธของตนเองคอยปกป้องและพร้อมที่จะต่อสู้หรือทำร้ายผู้ที่เห็นต่างอย่างโจ่งแจ้งกลางเมืองหลวง  สิ่งเหล่านี้ลำพังตัวนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ ที่เป็นเพียงกำนันเมืองสุราษฎร์ธานี  แม้จะเข้ามาเป็นนักการเมืองระดับประเทศ  ก็คงไม่สามารถมีอิทธิพลมากถึงระดับนี้  และทำให้นักวิชาการต่างๆ  นายธนาคาร  แพทย์  คณาจารย์ต่างๆ  องค์กรอิสระ  หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ  ข้าราชการ  ฯลฯ  ยอมเชื่อฟังและปฏิบัติตามนายสุเทพได้   เหนืออื่นใดการจัดการชุมนุมใหญ่โตระดับนี้ได้อย่างต่อเนื่องยาวนานเช่นนี้ย่อมต้องใช้ทุนมหาศาลซึ่งลำพังตัวนายสุเทพ  และแค่การรับบริจาคย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน

ปูนนก