ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจคร่าวๆก่อน
1. ว่าที่ 12 นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทยหน้าใหม่
หมายถึง อาจจะมีคนหน้าเดิมๆบ้าง หรือคนที่เคยมาเข้า camp ฝึกซ้อมบ้าง แต่ไม่ใช่ 12 ตัวจริง

2. คิดว่า ยังไงก็ไม่น่าจะเรียกว่าเพิ่มแค่ 12 คนแน่นอน ถึงแม้สมาคมวอลเลย์บอลอาจจะไม่ได้มีเงินมากมายพอที่จะเก็บตัวทีละ 30-40 คนแบบชาติมหาอำนาจวอลเลย์บอลอื่นๆ แต่ที่ผ่านมา ไม่เคยเก็บแบบพอดี แม้แต่ในระดับยุวชน เยาวชนก็ตาม แล้วค่อยไปตัดตัวช่วงท้ายๆเอา
เพราะอย่าลืม นักกีฬามีบาดเจ็บ เจ็บป่วย ล้มหายตายจาก (หรือเรียกแล้วไม่มา มาแล้วหนีจากแคมป์ฝึก 555)
เพราะฉะนั้น การที่จะเก็บตัวแบบพอดีคน ใครเจ็บก็ค่อยเรียกคนอื่นเข้ามาเสริม จะยุ่งยากกว่า ทั้งการปรับตัวเข้ากับระบบทีม ระบบการฝึกซ้อม พละกำลัง รวมทั้งการทำเรื่องหรือหนังสือยืมตัวจากต้นสังกัด หรือสถานศึกษา

อย่างชุดใหญ่ที่ผ่านๆมาก็ก็บตัวประมาณ 14-15 คนแล้วค่อยตัดออกทีหลัง

3. คิดว่าตัวเดิม อยู่ครบหมด และคิดว่าระบบการจัดทีม จะไม่ต่างจากปัจจุบันนี้มาก คือ
MB=3 คน, Setter 2 คน, OH+OPP=5 คน (OH 3คน+Opp 2 คน), Lib 2 คน
ยกว้นในบางปีที่ line up ของเราเคยมี MB 4 ตัว+lib 1 เช่นปีที่ เตย หัทยา ติดทีมชาติชุดใหญครั้งแรก คือ หน่อง แจ็ค แนน(อุทัยเทวี เอ๊ย อุทัยวรรณ) และเตย
(คืดว่า ทีมไทยคงไม่ใช้ระบบ MB1 แน่นอน อิอิ)

4. อ้างอิงเฉพาะทีมใน thailand league เป็นหลัก เพราะตอนนี้คนที่ไม่ได้เล่นในลีก ก็น่าจะหายจากสารบบไปแล้ว ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชเองก็ประเมินผลงานของลีก (อย่าลืมว่า คนที่มีของ อย่าง กมลพร ที่หลายๆคนเชื่อว่าเธอไม่น่าจะหลุด แต่ก็หลุดเพราะผลงานในลีกมีส่วนมาก เพราะปีนั้น พู่ พรพรรณเกิดแบบสุดๆ แต่มกลพรก็ดำดิ่งสุดเหมือนกัน แล้วก็หลุดทีมยาวเลย)

ขออ้างอิงตามนี้ละกัน
MB=3 คน, Setter 2 คน, OH+OPP=5 คน (OH 3คน+Opp 2 คน), Lib 2 คน

MB=3 คน
นาทีนี้ MB ไม่น่าจะหายากเท่าไหร่ เตย เดียร์ ทีพย์ (แก้วกัลยา)
Maybe คารีน่า (ตั้งแต่มีทัดดาวนา คารีน่าแทบจะกลายเป็นอดีตไปเลย ปีนี้ผลงานในลีกก็ไม่ค่อยดีอีก แต่จะโทษเธอคนเดียวไม่ได้ เพราะนครนนท์ เปิดบอลแรกไม่ได้เลย มือเซตก็นะ.... คารีน่าคงจะตีได้สนุกอยู่หรอก)

ปล. เลิกพูดถึง ขวัญจิรา ของขอนแก่น กะอนงค์พร เผื่อหลายๆคนจะัยังไม่เคยรู้ว่า ขวัญจิรา เคยติดทีมชาติชุดซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ ส่วนอนงค์พร ติดทั้งเยาวชนและยุวชน พร้อมๆกับเตยหัทยา และเคยเข้าแคมป์พร้อมๆกับหัทยามาแล้วด้วย ถ้าจำไม่ผิด แต่เป็นช่วงสั้นๆ แต่ที่ไม่ได้ไปต่อ ก็คงรู้นะว่าเพราะอะไร ก็เพราะฝีมือเธอนั่นเอง (เห็นบางคนบอกอยุธยาไม่เคยได้รับโอกาส ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เคยได้โอกาสก่อนเพื่อนเลย แต่ทำไม่ได้)   

Setter 2 คน
โสรยา นอนมาแน่นอน จริงๆในระดับเยาวชนและยุวชน เธอเป็นตัวจริงตลอด พู่เป็นสำรอง แต่โสรยาเป็นคนที่ไม่นิ่งพอ บทจะหลุดนี่หลุดมากมายมหาศาล ร้องไห้บ่อน้ำตาแตกที่มองโกเลีย ตอนชิงแชมป์มหาลัยเอเชียก็เคยมาแล้ว บทจะท้อก็ท้อเอาง่ายๆ (อันนี้ไม่แน่ใจจริงๆนะ เพราะมันนานหลายปีแล้ว เหมือนมีช่วงนึง 2-3 ปีที่แล้ว จะเลิกเล่นด้วยซ้ำ แบบเล่นให้แค่ทีมมหาลัยที่ตังเองเรียนพอ ได้อาจารย์จรัลนี่แหละที่ช่วยดึงกลับมา)
ถ้าไม่นับเรื่องใจนะ คิดว่าฝีมือเธอสูสีกะพรพรรณเลย แถมบางครั้งเด่นเกินพรพรรณเลยด้วยซ้ำ
อีกคน กรวิภา (จริงๆไม่ค่อยปลื้ม ไม่ใช่เพราะฝีมือไม่ดีนะ แต่เพราะอายุพอสมควรแล้ว ต่อยอดยาก ติดทีมตั้งแต่ ช่วง 2006-2007 แล้วก็เสียหน้าบล็อกมากๆ โดดบล็อกแบบข้อมือเกือบไม่พ้นเนต)
Maybe 1 ณฤมล (ถ้าหาใครไม่ได้แล้วจริงๆนะ อาจจะต้อง comeback มาช่วย แต่เฮียอ๊อดท่านคงไม่เอา แค่ตอนก่อนจะอำลาทีมชาติ เก็บตัวก่อนแข่งซีเกมส์ เธอมีอาการบาดจ็บที่เข่า ซ้อมได้ไม่เท่าเพื่อน ยังมีคนบางคนบ่นเธอเลยว่า เสียเวลาเก็บตัว ซ้อมน้อยกว่าคนอื่นไรงี้)

Maybe 2 กุลภา ของนครนนท์ คือ เราต้องยอมรับความจริงกันว่า ไนไทยมือเซตมันคงมีให้เลือกเท่านี้จริงๆแหละ เธอเป็นมือสองรองจากโสรยา ในชุดมหาลัย (ที่หลายๆคนชอบเรียกว่าชุด B กลายๆ) แต่บอลแก้ไข เธอไม่ดีเอาซะเลย เซตบอลทื่อๆไงไม่รู้ เก็บบอลรองบอลก็ไม่ค่อยดี

ส่วนกมลพร ขอร้องอย่าทู่ซี้เอาเข้ามาเลย ถึงจะมีคนชมเธอเหลือเกินว่าเซตบีหลังเป๊ะมากๆๆ คือ คงลืมไปว่าทีมไทยไม่ใช่รัสเซีย หรือทีมแถบยุโรปที่พวกนั้นจะมีบีหลังเป็นตัวทำแต้มหลัก แต่ทีมไทยเน้นบอลหัวเสา เน้นลูกสูตรบอลวายอะไรพวกนี้มากกว่า แล้วเธอเซตหัวเสาได้ทรมาณตัวตีมาก ถ้าไม่ล้น หรือชิดเนต ก็เซตเลยไปให้กรรมการช่วยตีเลย บ่องตรง ถ้าไม่ใช่เพราะปีนี้ทีมสตรีนนท์ลาจากศรีษะเกษ มาทำทีมให้กับสวนสุนันทา ในลีกจะมีใครอยากจ้างเธอหรือเปล่าไม่รู้ (คือ ถ้าเป็นโค้ชในไทยลีก ระหว่างจ้างเธอ กับปั้นเด็กตัวเองลงให้ฝึกฝีมือ ขอเลือกอย่างหลังดีกว่า)

กิตติยากร ของ ขอนแก่น รู้หรือไม่ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะปีนั้น ขอนแก่นแพ้รวดในเลกแรก ชื่อของกิตติยากรอาจจะไม่มีปรากฏในสารบบของไทยลีกแล้ว
เพราะแพ้รวดนี่แหละ อาจารย์บรรจง ถึงได้ไปขอร้องกึ่งบังคับให้มาช่วยทีมในเลก 2 และอยู่กะขอนแก่นมาจนทุกวันนี้ ฝีมือเธอไม่ได้เด่นมาก และมีช่วงนึงที่อาจจะหลงแสงสีเสียงไปบ้างตอนเข้ามา กทม ใหม่ๆ คิดว่า เธอไม่น่าใช่ตัวเลือกของทีมชาติ

ปล. พูดถึงเรื่อง หลงแสงสีเสียง คือ ของไทย เด็กไปอยู่ตามอคาเดมี่ต่าง แล้วแต่อาจารย์ที่แนะนำมารู้จักหรือสนิทกะที่ไหน หรือพ่อแม่อยากให้อยู่ที่ไหน
และโรงเรียนที่ทำทีมในไทยมันก้ไม่ได้เยอะมาก เด็กหลายๆคนต้องจกกบ้านมาอยู่หอ เช้าซ้อม เย็นซ้อม วันหยุดปิดเทอม ก็ตระเวณแข่งไป
พอมาเรียนมหาลัย มีอิสระ ทำให้หลายๆคนเตลิดไปกับแสงสีเสียงก็เยอะ น่าเสียดายมาก สองสามปีก่อนถ้าจำไม่ผิดก็มีเด็กที่มาจากโรงเรียนทางภาคอีสานตอนบนต้องมาจบชีวิตไปก็เพราะเรื่องพวกนี้ แสงสีเสียงและรักในวัยเรียน (ข่าวเขาว่ามา)

OH+OPP=5 คน (OH 3คน+Opp 2 คน),
OH 3
เอางี้ จากไทยแลนด์ลีก 8 ทีม
ใช้หลักการตัดออกง่ายสุด
- นครนนท์ กัตติกา บังอร 2 คนนี้ไม่โดดเด่นเลย หลุดแน่นอน
- อุดร ก็ยังไม่เด่นพอ (แต่เกมรับดีกว่ากัตติกาแน่นอน)
- สวนสุนันทา สนธยา สิรินทรา ปิยธิดา ไม่น่าได้ไปต่อ (กลัวเหลือเกินว่าโค้ชจะเอาสนธยากลับมา)
- ศรีษะเกษ ไม่ต้องพูดถึง ถ้ามีหัวเสาที่ดีพอ คงไม่เอาอุทัยวรรณไปตีหัวเสาหรอก
- ขอนแก่น หัวเสา พรทิพย์ คัทลีย์ ธนาพร พลเรือง (แต่ไทบไม่ค่อยได้ลงเลย แถมเกมรับอ่อนอีก)
  ให้ผ่านแค่คัทลีย์
- ชลบุรี สุทัตตา (ไม่พูดถึงเพียวนะ เพราะนั่น 1 ใน 12 คนทีมชาติอยู่แล้ว) อดีตเอซของทีมในระดับยุวชน เยาวชน เคยติดทีมชาติในช่วงที่บะหมี่หลุดไป คือเหมือนทีมไทย อยากให้มีตัวสารพัดประโยชน์ไว้สักตัว เกมบุกใช้ได้ เกมรับใช้ได้ ตรงจุดไหนขาด ก็ไปแทนได้ เช่น ลิบเจ็บกระทันหัน ก็ไปแทนได้ (ถึงแม้จะไม่เทพเท่าลิบตัวจริง) หัวเสาเจ็บ ปแทนหัวเสาได้ (ถึงจะไม่เทพเท่าหัวเสา) โดยต้องรวมอยู่ในตัวคนคนนั้นคนเดียว ปีนั้นเลยลองเลือกใช้สุทัตตา เพราะเป็นเอซหัวเสาของทีมเยาวชนสูง 174-175 เกมรับพอไหว น่าจะ 2010 แต่ก็ได้แค่นั้นจริงๆ
  คือ คนนี้ ให้ +- นะ เพราะหัวเสาในไทยลีกมันมีแค่นี้
- โคราช แป้ง กะ วนิดา แป้งนี่ติดชัวร์ ส่วนวนิดา ต้องเดาใจโค้ช ว่าจะเลือกใคร (แต่ดีกว่าเลือกสุทัตตาแน่นอน)
- อยุธยา เยาวลักษณ์ กรรณิการ์ ชัชชุอร (เป็นทีมที่ไม่มีบีหลังแบบจ๋า คือสามคนนี้ตีแบบหัวเสาหมดเลย)
เยาวลักษณ์ เคยติดทีมเยาวชนพร้อมอรอุมา สูงน่าจะสัก 173-174 ที่ผ่านๆมา อาจจะดูไม่ค่อยเด่น แต่พอมาอยู่ทีมดีๆอย่างอยุธยาก็ดูดีขึ้นเยอะนะ อย่างน้อยๆ เธอช่วยเกมรับอยุธยาได้เยอะมาก และตีดีกว่า สำรองที่อยุธยามีอยู่ (สิริพร ขอไม่พูดถึงนะ เธอเลยจุดนั้นไปแล้ว เคยติดทีมชาติ เลยอยู่ใน line up ตัวจริงก็เคย แต่เธอเล่นไม่ออกจริงๆเวลาเจอแมทช์ระดับโลก เสียดายความสูง)
  เพราะฉะนั้นถ้าให้เลือก เอา กรรณิการ์ ชัชชุอร

Opp 2 คน
จากไทยแลนด์ลีก 8 ทีม
- นครนนท์ ตอนนี้เอาแจ็คมาเล่นบีหลัง แทนธนาภรณ์
- อุดร ส่วนตัวคิดว่าพอไหวนะ เหมือนได้ยินว่าสูง 177-178 ตีซ้ายด้วยปะ ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเท่าไหร่นะ
- สวนสุนันทา จบข่าว ปีก่อนหน้านั้น สุมาลัยมาดีมาก ตอนเลกแรก แต่หลังจากนั้นมา หาฟอร์มเก่งตัวเองไม่เจอ
- ศรีษะเกษ สินีนาฏ
- ขอนแก่น เอมอร
- ชลบุรี พรพพิมล จบข่าวอีกคน
- โคราช รัศมี ด้วยอาการเจ็บ คิดว่าไม่น่าได้ไปต่อ

Lib 2 คน
ถ้ายุพาไม่ติด ก็ไม่รู้จะว่าไงละ ตามมาด้วย วรางคณาของโคราช และ อ้อม ฑิฆัมพร ช้างเขียว ของ ศรีษะเกษ
คนอื่น ยังไม่ผ่าน สุจิตรา โพธิสม ของนครนนท์นี่ บางที่ลิบสำรองอีกคนที่เคยไปคัดยุวชน ยังเล่นดีกว่าอีก อลิสา ยอดพินิจ ของ สวนสุนันทาก็ยังเด็กไป


สรุป ถ้าเฉพาะ 12 คน ส่วนตัวขอเลือกโดยอ้างอิงตามนี้
MB=3 คน, Setter 2 คน, OH+OPP=5 คน (OH 3คน+Opp 2 คน), Lib 2 คน
ก็จะเป็น
1 MB1 = เตย
2 MB2 = เดียร์
3 MB3 = ทิพย์ (แก้วกัลยา)
4 Setter1= โสรยา
5 Setter2 = กรวิภา
6 OH1 = แป้ง
7 OH2 = วนิดา
8 OH3 = กรรณิการ์
9 Opp1 = เอมอร
10 Opp2 = สินีนาฏ
11 Lib 1 = ยุพา
12 lib 2 = วรางคณา

แต่ถ้าโค้ชเล่นสูตรนี้ คือ OH4 + Lib 1
ขอเอาชัชชุอรไป แทน วรางคณา

ปล.แอบเห็นต่างกับหลายๆคนที่บอกว่า น้องชัชชุอรยังเด็กไป อะไรต่างๆนาๆ
ของอย่างนี้ เราไม่วัดที่ความเด็ก ความแก่ วัดที่ความสามรถถ้าเด็กมันจะมีดีกว่าผู้ใหญ่ ก็ต้องให้เด็กมันได้ไป
เมืองนอก ญี่ปุ่น เกาหลี คิวบา ติดทีมตั้งแต่ 15-16 กันก็เยอะแยะ คือน้องเข้าแคมป์ตอนนี้ กว่าจะ debut ในนามทีมชาติ ก็กลางๆหรือปลายๆปีหน้า เก็บสถิติออกมา ก็กลายเป็นติดทีมชาติครั้งแรกตอน 15 มันก็คล้ายๆประเทศอื่นนะ ไม่ได้ว่าเด็กเกินไปเลย ถ้าเด็กมีความสามารถ

และอย่างที่บอกไปตอนแรกว่า น่าจะต้องมีเก็บตัวเกินไปนิดหน่อยแน่ๆเลยคิดว่า น่าจะเป็น
MB คารีน่า
OH คัทลีย์ ชัชชุอร (ไม่แน่นะ ใครจะไปรู้ว่า โค้ชอาจจะเลือกจุฑารัตน์ก็ได้ ลองทายใจกันดูเล่นๆ)
Opp ขอ อุดรเหอะ ชอบเป็นการส่วนตัว
Lib ทิฆัมพร
Setter ทิชาญา (แทบไม่เหลือใครให้เลือกแล้วจริงๆ)