อยากตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อคนที่กังวลเรื่องการสัมภาษณ์ วีซ่า J1 สำหรับโครงการ work and travel นะคะ สดๆ ร้อนๆ เพิ่งกลับมาจากการสอบสัมภาษณ์เลย คิวสัมภาษณ์ รอบบ่ายโมงตรงค่ะ อย่างที่ทราบกันว่าคุณควรจะไปถึงสถานทูตก่อน 30 นาที ไม่ได้เอารถไปเพราะไม่มีที่จอดและหาที่จอดยากคะ เดินทางโดย BTS ลงสถานีเพลินจิต ประตู 2 เดินถนนวิทยุมาเรื่อย ๆ เลยคะ ผ่านอะไรมากมาย จำไม่ได้ แต่แถวนั้นจะมีสถานฑูตประเทศต่าง ๆ รวมตัวกันอยู่ สามารถพบเห็นชาวต่างชาติเยอะมาก เดินไปเรื่อย ๆ ก็พบกับสถานกงศุลซ้ายมือเลยค่ะ เราก็ไปรอเข้าคิวได้เลย จะมีเจ้าหน้าที่ รปภ มาบอกให้เข้าคิว ยืนรอค่อนข้างนานมาก เพราะเราไปถึงตอน 11.15 คนยังมาไม่เยอะ รอๆๆๆ ระหว่างนี้ก็ลองทักทายเพื่อนคนอื่นบ้าง เผื่อเจอเพื่อนร่วมชะตากรรม 555
ประมาณ 12.30 น. เจ้าหน้าที่ผู้หญิงจะเดินตรวจเอกสารอันดับแรก คือ ใบ DS209 และ หน้าแรกของพาสปอร์ต (ส่วนนี้ก็ไม่ได้ดูนะ ดูแต่ DS) และจะติ๊กชื่อว่าเรามาแล้ว จากนั้นจะได้รับบัตรคิวสีฟ้ามา ยืนรอเพื่อจะเข้าสถานทูตต่อไป
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่สามารถนำเข้าได้นะคะ รับฝากเฉพาะโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องเท่านั้น (หูฟังฝากได้) มี 2 เครื่องหรือสายชาร์จ แฟลชไดช์ หาที่ฝากเองค่ะ กระเป๋าเข้าได้ค่ะ (ขนาดเล็กใหญ่ แฟ้มหนังเอกสาร เข้าได้หมด) เพียงแต่ต้องผ่านเครื่องสแกนก่อน เจ้าหน้าที่จะให้วางทุกอย่างเอกสาร กระเป๋า หากใส่เสื้อคลุมมาต้องถอด เห็นฝรั่งก่อนหน้าใส่เข็มขัดมาก็ถอดนะ เอาของทุกอย่างใส่ตะกร้า แล้วเราก็ไปยืนรอสแกนตัวก่อน ก็จะให้กางแขนกางขา กระโดดตบ (ไม่ใช่แระ) กางแขนยืนให้เขาสแกนไปตามเรื่องราว อยากจะบอกว่าขั้นตอนนี้โคตรจะเซง เจ้าหน้าที่ รปภ จะกร่าง วางอำนาจ ยิ่งกว่าคนสัมภาษณ์วีซ่าอีก 5555
เมื่อผ่านจุดสแกนมาแล้ว ก็เดินออกจากอาคารนั้นค่ะ ไปสู่ขั้นตอนการตรวจเอกสาร
สิ่งที่ต้องเตรียมไปให้พร้อม คือ เอกสารที่เอเจนซี่จัดไว้ให้ (ถ้าเรียงไปให้เรียบร้อยจะดีมาก เพราะบางคนกินเวลานานช่วงนี้) ที่จำได้นะ เรียงตามนี้คะ
พาสปอร์ต
DS 209 ใบที่มีรูปเรา
DS 209 ที่ได้จากอเมริกา
payment
รับรองการเป็นนักศึกษา
ใบเกรด
เพียงเท่านี้ ย้ำจริง เพียงเท่านี้ !!!!! เอกสารอื่นเจ๊ได้ดูเลยจ้าาาา พวกทะบียนบ้าน รับรองสถานะทางการเงิน บลาๆ คืนหมด (ทำไมไม่บอกไปเลยว่าจะเอาเท่าที่จำเป็น แหม่ ) แล้วเจ้าหน้าที่จะใส่แฟ้มใหม่ให้ (เอกสารที่จะใช้จริง) + บัตรคิว (เช่นเลข 3010) อ้อ ! อย่าลืมหยิบเอกสารที่แจกคือสิทธิของเราให้อเมริกา นะ
ขั้นตอนต่อไปเป็นการเช็คเอกสาร หรือข้อมูลของเราประมาณนั้น ยื่นแฟ้มใหม่ที่เจ้าหน้าที่จัดให้เมื่อกี้ค่ะ บางคนจะถามว่าอ่านสิทธิยัง? รีบอ่านนะ เดี๋ยวถามแล้วตอบไม่ได้ (รีบอ่านมากกกก เจ๊ขู่หนู T^T) แล้วเขาก็ให้เราเข้าห้องสัมภาษณ์แล้วววว เย่ !
เข้ามานั่งรอด้านขวา จะมีเก้าอี้เยอะ ๆ นั่งตรงนั้นแหละ อ่านเอกสารให้ครบถ้วน ไม่ต้องห่วงนะคะ เอกสารเป็นภาษาไทยค่ะ ^^ แต่ ! บางทีก็เข้าใจยาก นี่ขนาดภาษาไทยนะเนี่ยยยย บวกกับความตื่นเต้น ใจเต้นตึกตักเลย น้องข้าง ๆ ก็ตื่นเต้นกันหมด มองเห็นที่สัมภาษณ์จะเป็นช่องๆเลยคะ น่าจะสิบกว่าช่องนะ จำไม่ได้ เจ้าหน้าที่ยังไม่มาเลยสักคน อยากสัมภาษณ์แล้วกลัวลืม 5555
สักพักหนึ่ง จะมีเสียงประกาศเรียกหมายเลข (ตามบัตรคิว) เราเป็น 10 คนแรกเลย จะเรียกทีละ 10 คนค่ะ เช่น หมายเลข 3001 - 3010 ให้เข้าแถวรอที่ช่อง 3 ก็เดินๆไปตามกัน ตอนนั้นเข้าใจว่าเปิดอยู่ช่องเดียวเลย แต่สักพักเจ้าหน้าที่จะเปิดช่องแล้วเรียกเราเข้าไปเลยคะ จุดนี้ตื่นเต้นมากกก กลัวตอบไม่ได้ กลัวฟังไม่รู้เรื่อง
มองเห็นคนสัมภาษณ์คนอื่นไปเรื่อย ๆ คนแรกเร็วมาก ประมาณนาทีเดียวเอง คนที่สองได้สัมภาษณ์กับฝรั่งผู้ชาย (หล่อมากก จริงๆ หล่อเกือบทุกคน 55) มีโอกาสได้ฟังคนที่สอง เจ้าหน้าที่ก็ 'สวัสดีครับ' ชัดเว่อร์ แล้วเขาก็ถามอะไรสักอย่างไม่ได้ยิน แต่เขาตอบไม่ได้
จนเจ้าหน้าที่ต้องถามว่า คุณเข้าใจที่พูดมั้ย ? (พูดเร็วๆ)
คนถูกสัมภาษณ์ : ?
เจ้าหน้าที่ : คุณเข้าใจที่ผมพูดมั้ย (ช้าลง ชัดด้วย)
คนถูกสัมภาษณ์ : I...I...I... understand
เจ้าหน้าที่ : คุณได้อ่านเอกสารที่แจกไปแล้วใช่มั้ย
คนถูกสัมภาษณ์ : ? ? ?
เจ้าหน้าที่ : คุณได้เอกสารหรือเปล่า ?
คนถูกสัมภาษณ์ : ?? ท่าทาง งงๆ
---- ช่วงนี้ไม่ได้ฟัง หันไปเม้ากับคนข้างๆ ---
เจ้าหน้าที่ : สีโปรดของคุณคือ ? (ตอนได้ยินงงเลย อะไรวะมีงี้ด้วย แต่เข้าใจว่าเขาตอบไม่ค่อยได้เลย ทั้งที่เขาพูดชัดนะ)
คนถูกสัมภาษณ์ : #$@$)JO
เจ้าหน้าที่ : อะไรนะ
คนถูกสัมภาษณ์ : สีนู้ด
จะฟังต่อซะหน่อย แต่ถึงคิวแล้วค่าาาาา คนที่สิบมาแล้ววว ฝรั่งควักมือเรียกเราเข้าไป
เจ้าหน้าที่ : สวัสดีครับ (ภาษาไทย)
เรา : สวัสดีค่ะ (ไทยเช่นกัน ยิ้ม )
เจ้าหน้าที่ : ชื่ออะไรครับ (อังกฤษแล้วน้าา)
เรา : my name is....
เจ้าหน้าที่ : ไปทำงานอะไรหรอ
เรา : ฟาสฟู้ดจ้าา MD
เจ้าหน้าที่ : คุณอยู่ปี 4 ใช่มั้ย จะรับปริญญามั้ย
เรา : กลับเซ่ บอกแพลนเราไปเลยคะ ว่าจะกลับแน่ๆ วันที่เท่าไร เพื่อความชัวร์ เนอะ
เจ้าหน้าที่ : เรียนอยู่คณะอะไร
เรา : คณะ... เอก...
เจ้าหน้าที่ : มีเอกสารนี้มั้ย (ชี้ที่แปะอยู่หน้ากระจก)
เรา : มีค่ะ
เจ้าหน้าที่ : โอเค วางนิ้วชี้ซ้ายบนเครื่องเลย
เรา : (เอออออ ดีใจสิ สแกนนิ้วก็ผ่านไง)
เจ้าหน้าที่ : เก็บดีๆ อ่านด้วยนะ มันสำคัญมาก ขอให้โชคดีในอเมริกาครับ ^___^
เรา : เย่ๆ ขอบคุณค่าาาาาาาาาาา
เสร็จแบบเอ๋อ ๆ อะไรว้าาา อุตส่าห์ตื่นเต้น เตรียมคำตอบมามากมาย สิทธิอ่ะ ถามมมมเหอะะะ อยากตอบ 555 อุตส่าห์อ่านมา แต่แล้วแต่คนด้วยนะ เจ้าหน้าที่บางคนก็ถามบ้าง แต่ตอบไทยได้ อาจบอกเขาหน่อยว่า May I explain inThai ? เขาก็เข้าใจอยู่แล้ว
ดังนั้นอยากจะบอกคนที่เตรียมจะไปสัมภาษณ์นะคะ อย่ากังวลมาก เราก็เป็นคนหนึ่งที่ภาษาไม่ได้เก่งมากมาย พอถูไถไปได้ ก่อนหน้าที่ก็กลัวคะ กลัวฟังไม่ออก กลัวตอบไม่ถูก ต่างๆนานา แต่ปรากฏว่ามันไม่ได้น่ากลัวมากมายอะไรขนาดนั้น เพราะฉะนั้นสู้ ๆ นะคะ แนวคำถามก็มีอยู่ไม่กี่แบบหรอกคะ หลักๆ ก็จะ ไปที่ไหน ไปทำอะไร มีแพลนจะเที่ยวไหนมั้ย เรียนที่ไหน สิทธิของเรา และขั้นตอนการสัมภาษณ์ไม่ได้ยุ่งยากค่ะ เสร็จก็จบ กลับบ้านเลย เอกสารเดี๋ยวส่งคืนทางไปรษณีย์
แต่อยากแนะนำว่าไปเร็วๆ ดีแล้วคะ จะได้ไม่ต้องรอคิวนาน ตอนเราออกมาข้างนอก คิวยาวมากกก และแดดตอนบ่ายของประเทศไทยก็ไม่เคยปรานีใคร จะหงุดหงิดและหน้ามันเยิ้ม และเจ้าหน้าที่บอกว่าวันนี้มีคิวสัมภาษณ์ 500 คน โอววว พระเจ้า อาจจะเป็นเหตให้ถามไม่เยอะ เพราะยังมีคนรออีกเยอะเลย และอีกอย่างเราไปโครงการนี้มันระยะเวลาไม่นานด้วย อีก sponsor ทั้งไทย อเมริกา ยิ่งไม่ยาก หากเราหนีไม่กลับเขาก็ไปตามกับคนพวกนี้ได้คะ
โชคดีนะคะ ทุกคน
สัมภาษณ์ visa J1 สดๆร้อนๆ
ประมาณ 12.30 น. เจ้าหน้าที่ผู้หญิงจะเดินตรวจเอกสารอันดับแรก คือ ใบ DS209 และ หน้าแรกของพาสปอร์ต (ส่วนนี้ก็ไม่ได้ดูนะ ดูแต่ DS) และจะติ๊กชื่อว่าเรามาแล้ว จากนั้นจะได้รับบัตรคิวสีฟ้ามา ยืนรอเพื่อจะเข้าสถานทูตต่อไป
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่สามารถนำเข้าได้นะคะ รับฝากเฉพาะโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องเท่านั้น (หูฟังฝากได้) มี 2 เครื่องหรือสายชาร์จ แฟลชไดช์ หาที่ฝากเองค่ะ กระเป๋าเข้าได้ค่ะ (ขนาดเล็กใหญ่ แฟ้มหนังเอกสาร เข้าได้หมด) เพียงแต่ต้องผ่านเครื่องสแกนก่อน เจ้าหน้าที่จะให้วางทุกอย่างเอกสาร กระเป๋า หากใส่เสื้อคลุมมาต้องถอด เห็นฝรั่งก่อนหน้าใส่เข็มขัดมาก็ถอดนะ เอาของทุกอย่างใส่ตะกร้า แล้วเราก็ไปยืนรอสแกนตัวก่อน ก็จะให้กางแขนกางขา กระโดดตบ (ไม่ใช่แระ) กางแขนยืนให้เขาสแกนไปตามเรื่องราว อยากจะบอกว่าขั้นตอนนี้โคตรจะเซง เจ้าหน้าที่ รปภ จะกร่าง วางอำนาจ ยิ่งกว่าคนสัมภาษณ์วีซ่าอีก 5555
เมื่อผ่านจุดสแกนมาแล้ว ก็เดินออกจากอาคารนั้นค่ะ ไปสู่ขั้นตอนการตรวจเอกสาร
สิ่งที่ต้องเตรียมไปให้พร้อม คือ เอกสารที่เอเจนซี่จัดไว้ให้ (ถ้าเรียงไปให้เรียบร้อยจะดีมาก เพราะบางคนกินเวลานานช่วงนี้) ที่จำได้นะ เรียงตามนี้คะ
พาสปอร์ต
DS 209 ใบที่มีรูปเรา
DS 209 ที่ได้จากอเมริกา
payment
รับรองการเป็นนักศึกษา
ใบเกรด
เพียงเท่านี้ ย้ำจริง เพียงเท่านี้ !!!!! เอกสารอื่นเจ๊ได้ดูเลยจ้าาาา พวกทะบียนบ้าน รับรองสถานะทางการเงิน บลาๆ คืนหมด (ทำไมไม่บอกไปเลยว่าจะเอาเท่าที่จำเป็น แหม่ ) แล้วเจ้าหน้าที่จะใส่แฟ้มใหม่ให้ (เอกสารที่จะใช้จริง) + บัตรคิว (เช่นเลข 3010) อ้อ ! อย่าลืมหยิบเอกสารที่แจกคือสิทธิของเราให้อเมริกา นะ
ขั้นตอนต่อไปเป็นการเช็คเอกสาร หรือข้อมูลของเราประมาณนั้น ยื่นแฟ้มใหม่ที่เจ้าหน้าที่จัดให้เมื่อกี้ค่ะ บางคนจะถามว่าอ่านสิทธิยัง? รีบอ่านนะ เดี๋ยวถามแล้วตอบไม่ได้ (รีบอ่านมากกกก เจ๊ขู่หนู T^T) แล้วเขาก็ให้เราเข้าห้องสัมภาษณ์แล้วววว เย่ !
เข้ามานั่งรอด้านขวา จะมีเก้าอี้เยอะ ๆ นั่งตรงนั้นแหละ อ่านเอกสารให้ครบถ้วน ไม่ต้องห่วงนะคะ เอกสารเป็นภาษาไทยค่ะ ^^ แต่ ! บางทีก็เข้าใจยาก นี่ขนาดภาษาไทยนะเนี่ยยยย บวกกับความตื่นเต้น ใจเต้นตึกตักเลย น้องข้าง ๆ ก็ตื่นเต้นกันหมด มองเห็นที่สัมภาษณ์จะเป็นช่องๆเลยคะ น่าจะสิบกว่าช่องนะ จำไม่ได้ เจ้าหน้าที่ยังไม่มาเลยสักคน อยากสัมภาษณ์แล้วกลัวลืม 5555
สักพักหนึ่ง จะมีเสียงประกาศเรียกหมายเลข (ตามบัตรคิว) เราเป็น 10 คนแรกเลย จะเรียกทีละ 10 คนค่ะ เช่น หมายเลข 3001 - 3010 ให้เข้าแถวรอที่ช่อง 3 ก็เดินๆไปตามกัน ตอนนั้นเข้าใจว่าเปิดอยู่ช่องเดียวเลย แต่สักพักเจ้าหน้าที่จะเปิดช่องแล้วเรียกเราเข้าไปเลยคะ จุดนี้ตื่นเต้นมากกก กลัวตอบไม่ได้ กลัวฟังไม่รู้เรื่อง
มองเห็นคนสัมภาษณ์คนอื่นไปเรื่อย ๆ คนแรกเร็วมาก ประมาณนาทีเดียวเอง คนที่สองได้สัมภาษณ์กับฝรั่งผู้ชาย (หล่อมากก จริงๆ หล่อเกือบทุกคน 55) มีโอกาสได้ฟังคนที่สอง เจ้าหน้าที่ก็ 'สวัสดีครับ' ชัดเว่อร์ แล้วเขาก็ถามอะไรสักอย่างไม่ได้ยิน แต่เขาตอบไม่ได้
จนเจ้าหน้าที่ต้องถามว่า คุณเข้าใจที่พูดมั้ย ? (พูดเร็วๆ)
คนถูกสัมภาษณ์ : ?
เจ้าหน้าที่ : คุณเข้าใจที่ผมพูดมั้ย (ช้าลง ชัดด้วย)
คนถูกสัมภาษณ์ : I...I...I... understand
เจ้าหน้าที่ : คุณได้อ่านเอกสารที่แจกไปแล้วใช่มั้ย
คนถูกสัมภาษณ์ : ? ? ?
เจ้าหน้าที่ : คุณได้เอกสารหรือเปล่า ?
คนถูกสัมภาษณ์ : ?? ท่าทาง งงๆ
---- ช่วงนี้ไม่ได้ฟัง หันไปเม้ากับคนข้างๆ ---
เจ้าหน้าที่ : สีโปรดของคุณคือ ? (ตอนได้ยินงงเลย อะไรวะมีงี้ด้วย แต่เข้าใจว่าเขาตอบไม่ค่อยได้เลย ทั้งที่เขาพูดชัดนะ)
คนถูกสัมภาษณ์ : #$@$)JO
เจ้าหน้าที่ : อะไรนะ
คนถูกสัมภาษณ์ : สีนู้ด
จะฟังต่อซะหน่อย แต่ถึงคิวแล้วค่าาาาา คนที่สิบมาแล้ววว ฝรั่งควักมือเรียกเราเข้าไป
เจ้าหน้าที่ : สวัสดีครับ (ภาษาไทย)
เรา : สวัสดีค่ะ (ไทยเช่นกัน ยิ้ม )
เจ้าหน้าที่ : ชื่ออะไรครับ (อังกฤษแล้วน้าา)
เรา : my name is....
เจ้าหน้าที่ : ไปทำงานอะไรหรอ
เรา : ฟาสฟู้ดจ้าา MD
เจ้าหน้าที่ : คุณอยู่ปี 4 ใช่มั้ย จะรับปริญญามั้ย
เรา : กลับเซ่ บอกแพลนเราไปเลยคะ ว่าจะกลับแน่ๆ วันที่เท่าไร เพื่อความชัวร์ เนอะ
เจ้าหน้าที่ : เรียนอยู่คณะอะไร
เรา : คณะ... เอก...
เจ้าหน้าที่ : มีเอกสารนี้มั้ย (ชี้ที่แปะอยู่หน้ากระจก)
เรา : มีค่ะ
เจ้าหน้าที่ : โอเค วางนิ้วชี้ซ้ายบนเครื่องเลย
เรา : (เอออออ ดีใจสิ สแกนนิ้วก็ผ่านไง)
เจ้าหน้าที่ : เก็บดีๆ อ่านด้วยนะ มันสำคัญมาก ขอให้โชคดีในอเมริกาครับ ^___^
เรา : เย่ๆ ขอบคุณค่าาาาาาาาาาา
เสร็จแบบเอ๋อ ๆ อะไรว้าาา อุตส่าห์ตื่นเต้น เตรียมคำตอบมามากมาย สิทธิอ่ะ ถามมมมเหอะะะ อยากตอบ 555 อุตส่าห์อ่านมา แต่แล้วแต่คนด้วยนะ เจ้าหน้าที่บางคนก็ถามบ้าง แต่ตอบไทยได้ อาจบอกเขาหน่อยว่า May I explain inThai ? เขาก็เข้าใจอยู่แล้ว
ดังนั้นอยากจะบอกคนที่เตรียมจะไปสัมภาษณ์นะคะ อย่ากังวลมาก เราก็เป็นคนหนึ่งที่ภาษาไม่ได้เก่งมากมาย พอถูไถไปได้ ก่อนหน้าที่ก็กลัวคะ กลัวฟังไม่ออก กลัวตอบไม่ถูก ต่างๆนานา แต่ปรากฏว่ามันไม่ได้น่ากลัวมากมายอะไรขนาดนั้น เพราะฉะนั้นสู้ ๆ นะคะ แนวคำถามก็มีอยู่ไม่กี่แบบหรอกคะ หลักๆ ก็จะ ไปที่ไหน ไปทำอะไร มีแพลนจะเที่ยวไหนมั้ย เรียนที่ไหน สิทธิของเรา และขั้นตอนการสัมภาษณ์ไม่ได้ยุ่งยากค่ะ เสร็จก็จบ กลับบ้านเลย เอกสารเดี๋ยวส่งคืนทางไปรษณีย์
แต่อยากแนะนำว่าไปเร็วๆ ดีแล้วคะ จะได้ไม่ต้องรอคิวนาน ตอนเราออกมาข้างนอก คิวยาวมากกก และแดดตอนบ่ายของประเทศไทยก็ไม่เคยปรานีใคร จะหงุดหงิดและหน้ามันเยิ้ม และเจ้าหน้าที่บอกว่าวันนี้มีคิวสัมภาษณ์ 500 คน โอววว พระเจ้า อาจจะเป็นเหตให้ถามไม่เยอะ เพราะยังมีคนรออีกเยอะเลย และอีกอย่างเราไปโครงการนี้มันระยะเวลาไม่นานด้วย อีก sponsor ทั้งไทย อเมริกา ยิ่งไม่ยาก หากเราหนีไม่กลับเขาก็ไปตามกับคนพวกนี้ได้คะ
โชคดีนะคะ ทุกคน