เมื่อวานนี้ ไฮไลท์เด่นของงาน Unpacked 5 ที่งานใหญ่ Mobile World Congress คงหนีไม่พ้น การเปิดตัว Samsung Galaxy S5 ทายาทของตระกูล Galaxy S หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือๆหลุดๆออกมาอยู่บ่อยๆ โดยสิ่งที่มาใหม่สำหรับปี 2014 นี้ ได้แก่ หน้าจอ FHD Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดในการแสดงผลอยู่ที่ 1,920 x 1,080 พิกเซล, ซีพียูควอดคอร์ รอบความถี่ 2.5GHz, แรม 2GB, กล้องด้านหลัง 16 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหน้า 2 ล้านพิกเซล, รอบรับบลูทูธ 4.0, NFC, IR blaster และช่องเสียบการ์ด microSD
โดยกรอบหลังมีการดีไซน์ออกมาให้มีลักษณะเป็นลายพรุน ซึ่งจะมีทั้งสีฟ้า, ขาว, ดำ และทอง ด้านระบบปฏิบัติการ จะมีการใช้ Android 4.2.2 หรือ Kit Kat และมีอินเตอร์เฟซที่คุ้นเคย รวมถึงแอพฯเฉพาะมากมายสำหรับตระกูล S นอกจากนี้ ยังจะมีการใช้ระบบรักษาความปลอดภัย Samsung Knox สำหรับผู้ใช้องค์กร และมีแบตเตอรี่ขนาด 2,800mAh ซึ่งสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง (สำหรับการเล่นเว็บ) และ 12 ชั่วโมง (สำหรับการรับชมวีดีโอ) อีกทั้ง ยังมีระบบประหยัดพลังงานพิเศษ ที่จะเป็นการเปิดโหมดการแสดงผลแบบขาว-ดำ และปิดการใช้งานที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะสามารถทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยืดไปได้สูงสุด 24 ชั่วโมง (ในโหมดสแตนด์บาย) ถึงแม้จะมีเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ที่เหลือใช้งานอยู่แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม โดยยังจะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ระบบป้องกันน้ำและฝุ่น (มาตรฐาน IP67) ซึ่งสามารถจมอยู่ใต้น้ำระดับความลึกถึง 3 ฟุตได้นาน 30 นาที
สำหรับคุณสมบัติกล้อง มีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยฟีเจอร์ดีๆอย่างเช่น ฟังก์ชั่นออโต้โฟกัสที่รวดเร็ว และสามารถเลือกโหมดโฟกัสที่เลียนแบบความลึกตื้นมาจากเลนส์กล้อง DSLR รุ่นท็อป และนอกจากจะมีแฟลช LED แล้ว ยังจะมีเซ็นเซอร์ตัวอื่นอีกอยู่ที่ใต้กล้องหลัง ซึ่งจะใช้ในการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพียงแค่วางปลายนิ้วไว้บนเซ็นเซอร์ประมาณ 5-10 วินาที และคุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เครื่องอ่านลายนิ้วมือ (คล้ายๆกับที่พบได้ใน iPhone 5s) ซึ่งใช้ในการตรวจสอบตัวตนของเจ้าของเครื่อง โดยนำมาใช้ในการปลดล็อคเครื่องนั่นเอง และสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน ต้องไม่พลาดฟังก์ชั่นนี้ Kids Mode ซึ่งจะช่วยจำกัดการใช้งานที่ไม่สมควรออกไปได้
อนึ่ง Samsung Galaxy S5 จะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 เมษายนนี้ พร้อมกันทั่วโลก
ที่มา TechSpot
เปิดตัว Samsung Galaxy S5 แล้วที่งาน Mobile World Congress
เมื่อวานนี้ ไฮไลท์เด่นของงาน Unpacked 5 ที่งานใหญ่ Mobile World Congress คงหนีไม่พ้น การเปิดตัว Samsung Galaxy S5 ทายาทของตระกูล Galaxy S หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือๆหลุดๆออกมาอยู่บ่อยๆ โดยสิ่งที่มาใหม่สำหรับปี 2014 นี้ ได้แก่ หน้าจอ FHD Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดในการแสดงผลอยู่ที่ 1,920 x 1,080 พิกเซล, ซีพียูควอดคอร์ รอบความถี่ 2.5GHz, แรม 2GB, กล้องด้านหลัง 16 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหน้า 2 ล้านพิกเซล, รอบรับบลูทูธ 4.0, NFC, IR blaster และช่องเสียบการ์ด microSD
โดยกรอบหลังมีการดีไซน์ออกมาให้มีลักษณะเป็นลายพรุน ซึ่งจะมีทั้งสีฟ้า, ขาว, ดำ และทอง ด้านระบบปฏิบัติการ จะมีการใช้ Android 4.2.2 หรือ Kit Kat และมีอินเตอร์เฟซที่คุ้นเคย รวมถึงแอพฯเฉพาะมากมายสำหรับตระกูล S นอกจากนี้ ยังจะมีการใช้ระบบรักษาความปลอดภัย Samsung Knox สำหรับผู้ใช้องค์กร และมีแบตเตอรี่ขนาด 2,800mAh ซึ่งสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง (สำหรับการเล่นเว็บ) และ 12 ชั่วโมง (สำหรับการรับชมวีดีโอ) อีกทั้ง ยังมีระบบประหยัดพลังงานพิเศษ ที่จะเป็นการเปิดโหมดการแสดงผลแบบขาว-ดำ และปิดการใช้งานที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะสามารถทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยืดไปได้สูงสุด 24 ชั่วโมง (ในโหมดสแตนด์บาย) ถึงแม้จะมีเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ที่เหลือใช้งานอยู่แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม โดยยังจะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ระบบป้องกันน้ำและฝุ่น (มาตรฐาน IP67) ซึ่งสามารถจมอยู่ใต้น้ำระดับความลึกถึง 3 ฟุตได้นาน 30 นาที
สำหรับคุณสมบัติกล้อง มีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยฟีเจอร์ดีๆอย่างเช่น ฟังก์ชั่นออโต้โฟกัสที่รวดเร็ว และสามารถเลือกโหมดโฟกัสที่เลียนแบบความลึกตื้นมาจากเลนส์กล้อง DSLR รุ่นท็อป และนอกจากจะมีแฟลช LED แล้ว ยังจะมีเซ็นเซอร์ตัวอื่นอีกอยู่ที่ใต้กล้องหลัง ซึ่งจะใช้ในการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพียงแค่วางปลายนิ้วไว้บนเซ็นเซอร์ประมาณ 5-10 วินาที และคุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เครื่องอ่านลายนิ้วมือ (คล้ายๆกับที่พบได้ใน iPhone 5s) ซึ่งใช้ในการตรวจสอบตัวตนของเจ้าของเครื่อง โดยนำมาใช้ในการปลดล็อคเครื่องนั่นเอง และสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน ต้องไม่พลาดฟังก์ชั่นนี้ Kids Mode ซึ่งจะช่วยจำกัดการใช้งานที่ไม่สมควรออกไปได้
อนึ่ง Samsung Galaxy S5 จะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 เมษายนนี้ พร้อมกันทั่วโลก
ที่มา TechSpot