คือเราก็สงสัยมานานเเล้ว พวกไปคิงงี้ หรือพวกทำซับติด LC เขาไปกลัวเลยเหรอ
จนเราสงสัยอ่ะ  เลยไปหาหนังสือเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญามาอ่าน
จนพอจะเข้าใจได้บ้าง คือ

ที่เราเข้าใจว่ามันเป็นการซื้อ LC นั้น จริงๆเเล้วมันไม่ใช่อ่ะ  เเละไม่ใช่การโอนลิขสิทธิ์ที่จะทำให้ทางญี่ปุ่นขาดสิทในส่วนนั้นไป
เเต่มันเป็นการอนุญาติขอใช้ลิขสิท  โดยมีค่าตอบเเทนหรือไม่มีก็ได้(กรณีนี้คงต้องมีอยู่เเล้วแหละ)
ซึ่งหลักๆมันจะมีอยู่ 3 กรณี

1.สัญญาอนุญาติให้ใช้สิทธิไม่เด็ดขาด(non-exclusive copyright licensing agreement)
ก็ประมาณว่า เจ้าของสิทธิอนุญาติให้คนอื่นใช้งานเเล้ว ก็ยังมีสิทธิอนุญาติให้ผู้อื่นใช้งานได้อย่างไม่จำกัด
เจ้าของงานก็สามารถใช้งานตัวเองได้

2.สัญญาอนุญาติให้ใช้สิทธิเเต่เพียงผู้เดียว(sole copyright licensing agreement)
ก็ประมาณว่า สัญญาอันนี้อนุญาติให้เฉพาะผู้รับอนุญาติเเต่เพียงผู้เดียวที่สามารถใช้งานลิขสิทธิ์นั้นได้
เจ้าของลิขสิทธิ์จะไม่สามารถอนุญาตให้คนอื่นใช้ได้เลย  เเต่ทางเจ้าของ(ญี่ปุ่น) สามารถ
กำหนดระยะเวลาหรืออนุญาติเฉพาะบางอย่างได้ อย่างเช่น ทำ DVD เรื่อง Free ให้ทำได้เเต่แผ่น เเต่ห้ามทำบุลเลคไรงี้
เเละผู้ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์(ทางญี่ปุ่น)ยังสามารถใช้งานของตัวเองได้ตามปกติ

เเละแบบสุดท้าย

3.สัญญาอนุญาติให้ใช้ลิขสิทธิ์เด็ดขาด(exclusive copyright licensing agreement)
คือ ผู้ได้รับอนุญาติใช้งานอันมีลิขสิทธิ์นั้นได้เเต่เพียงผู้เดียว  เเม้เเต่เจ้าของงาน(ทางญี่ปุ่น)ยังไม่มีสิทธิใช้
เเละห้ามใช้ เเละเจ้าของงานก็ไม่สามารถอนุญาติให้คนอื่นใช้งานได้อีกด้วย

สรุป

- เเละนี้คือตามที่เราเข้าใจคร่าวๆ  เมื่อเราลองมาคิดดู แบบที่ญี่ปุ่นจะมีโอกาสอนุญาติให้มากที่สุดคือ แบบที่ 2 เเละ แบบที่ 1
เเละทั้งสองแบบนี้กฎหมายถือว่าผู้ที่ได้รับอนุญาติไม่ใช่ผู้เสียหาย  เเละเมื่อไม่ใช่ผู้เสียหายจึงไม่สามารถฟ้องคดีได้  ต้องให้ทางญี่ปุ่น
เจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น ที่จะฟ้องได้  

- เเละแบบที่เเทบไม่มีโอกาสเลยคือแบบที่ 3 กฎหมายให้ถือว่า ผู้ที่ได้รับอนุญาติมีฐานะเป็นผู้เสียหาย
เมื่อเป็นผู้เสียหายจึงมีสิทธิฟ้องคดีได้  ฉนั้นเมื่อมีใครมาละเมิดงานที่ตนได้รับอนุญาติจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก็สามารถฟ้องคดีได้ด้วยตนเอง
โดยไม่ต้องรอให้ทางญี่ปุ่นฟ้องเอง