คำชี้แจงจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กรณีการจัดเก็บน้องหมาค่ะ

กระทู้สนทนา
ตามที่มีผู้ตั้งกระทู้ “คุณสรยุทธคะ!!! ราชภัฏสุราษฏร์ สั่งฆ่าหมาท้องแก่ + ฝังทั้งเป็น ขอเสียง vote!!!”

http://ppantip.com/topic/31695830/comment78

เนื้อหาโดยสังเขประบุว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีสั่งฆ่าหมาท้องแก่ หมามีเจ้าของ และหมาพิการ ยังไม่ตายก็เอาไปฝังนั้น มหาวิทยาลัยขอชี้แจงดังนี้...

เนื่องจากในมหาวิทยาลัยมีสุนัขจรจัดมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้น เช่น สุนัขกัดนักศึกษา สุนัขวิ่งตัดหน้ารถทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง สุนัขรื้อถังขยะ เลียจานข้าว ขึ้นไปนอนบนโต๊ะในโรงอาหาร เป็นต้น กอปรกับใกล้ถึงหน้าร้อนซึ่งอาจมีพิษสุนัขบ้าระบาดได้ มหาวิทยาลัยห่วงใยในสวัสดิภาพและสุขอนามัยของนักศึกษา อาจารย์ บุคลากร และผู้มาติดต่อราชการ จึงมีความจำเป็นต้องจัดระเบียบสุนัขดังกล่าว โดยมีวิธีการและกระบวนการที่ชัดเจน โปร่งใส ดังนี้

วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
มหาวิทยาลัยได้ออกบันทึกข้อความเป็นหนังสือเวียน แจ้งแก่อาจารย์และบุคลากรให้ช่วยกำกับดูแลสุนัขของตนให้อยู่ในบริเวณบ้าน (อาจขังหรือล่ามไว้) ให้เรียบร้อย ภายในวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ หากไม่สามารถดำเนินการได้ มหาวิทยาลัยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดเก็บสุนัขไปเก็บในที่ที่มหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้


หนังสือเวียนแจ้งให้เจ้าของสุนัขกำกับดูแลสุนัขให้อยู่ในบริเวณบ้าน


วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
คณะทำงานได้ดำเนินการจัดเก็บสุนัข โดยได้รับความอนุเคราะห์กำลังคน องค์ความรู้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ จาก “สำนักการสาธารณสุข เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี” และ “สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี” โดยทีมผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วย คุณวิรัตน์ ดีขุนทด หัวหน้าสัตวบาลและนักวิชาการสัตวบาล ๒ ท่าน อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในครั้งนี้ คือ “อุปกรณ์ยิงสลบสัตว์” ซึ่งใช้ร่วมกับ “ยาสลบ” และ “ยานำสลบ” โดยตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่า ยานำสลบนั้นเป็นตัวยาสำคัญที่ขาดไม่ได้เพื่อความปลอดภัยของสุนัข กล่าวคือ เป็นยาที่ออกฤทธิ์เพื่อรักษาระบบการทำงานของหัวใจให้เป็นปกติ ป้องกันไม่ให้เกิดอาการช็อค ทั้งนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์อย่างดี มูลค่ากว่าแสนบาท มีความปลอดภัยกับสัตว์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ

ขั้นตอนเริ่มจากการคำนวณน้ำหนักของสุนัขเพื่อกำหนดปริมาณยา การยิงจะเล็งที่กล้ามเนื้อสะโพก ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย ใช้เวลาประมาณ ๕ - ๑๐ นาที สัตว์ที่ได้รับยาก็จะหลับ ระหว่างนั้นจะมีลิ้นห้อยออกนอกปากหรืออาจสำรอกอาหารออกมา นักวิชาการสัตวบาลทั้งสามท่านย้ำกับเราว่า ไม่ต้องตกใจ นั่นคือปฏิกิริยาจากร่างกายที่จะช่วยให้ระบบหายใจของสุนัขทำงานได้ตามปกตินั่นเอง

เมื่อสุนัขหลับ เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจะอุ้ม (ย้ำว่า “อุ้ม” นะคะ ไม่มีการลากถูให้ได้รับบาดเจ็บ) เพื่อขนย้าย (โดยรถกระบะ) ไปยังวัดสวนโมกขธรรมาราม (ทางเข้าวัดบ้านใหม่พัฒนา) ซอย ๕ นิคมสร้างตนเองขุนทะเล ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ติดต่อขอความอนุเคราะห์เอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยมหาวิทยาลัยได้จัดหาอาหารสำหรับสุนัขไว้ให้อย่างเพียงพอ และเตรียมการสำหรับฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและคุมกำเนิดเอาไว้แล้ว เมื่อสุนัขได้นอนพักประมาณ ๒ - ๓ ชั่วโมงก็จะตื่นขึ้นมาตามปกติ


ภาพสุนัขบางส่วนที่วัดสวนโมกขธรรมาราม


ทั้งนี้ ทุกท่านสามารถเยี่ยมชมความเป็นอยู่ของสุนัขหรือร่วมบริจาคอาหารได้ที่วัดดังกล่าว ส่วนสุนัขตัวใดที่มีเจ้าของและอาจถูกจัดเก็บมาอยู่ที่วัดด้วย เจ้าของสามารถมารับตัวกลับได้ตลอดเวลาค่ะ

อนึ่ง ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรบัณฑิตราชภัฏภาคใต้มาต่อเนื่องถึง ๓ ปีซ้อน (พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๖) และเราต้องดำเนินการจัดเก็บน้องหมาก่อนจัดงานทุกครั้ง ซึ่งเราใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอน ตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตของมัน และได้ถ่ายภาพตลอดจนบันทึกขั้นตอนต่าง ๆ ไ้ว้อย่างละเอียด เพียงแต่ในครั้งนี้เราไม่ได้ถ่ายภาพไว้เท่านั้นเองค่ะ จึงขอนำภาพเก่าเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ มาแสดงให้ทุกท่านดู โดยการจัดเก็บน้องหมาในครั้งนี้เราใช้ทีมงานเดิมและวิธีการเดิมค่ะ



แฟ้มภาพจากจดหมายข่าวของมหาวิทยาลัย แสดงให้เห็นความใส่ใจในการจัดเก็บสุนัข
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่