พ่อผมอายุเก้าสิบปีท่านชราภาพมาก ปัจจุบันความเสื่อมตามสังขารทำให้ท่านต้องรับการรักษาตัวในไอซียูของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และในเวลานี้ท่านไม่ใคร่รู้สึกตัวนัก แต่ด้วยเหตุที่ท่านเป็นวิศวกรท่านเลยเล่าเรื่องเกี่ยวกับงานวิศวกรไว้บ้าง บางครั้งก็แต่งเป็นนิทานเพื่อเปรียบเปรยสมัยพวกผมยังเป็นเด็กๆๆ มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจให้ผมฟังเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งผมเห็นว่าน่าจะมีความทันสมัยอยู่จึงขอนำมาดัดแปลง และเล่าให้ฟังเท่าที่จับสาระได้ดังนี้ ท่านเล่าว่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบ้านใหญ่หลังหนึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกยกสูงตามสภาพบ้านไทยโบราณ ซึ่งจะมีเสายกบ้านไว้ให้คงสภาพอยู่ได้หลายๆๆต้น ก่อขึ้นมามีคาน มีพื้นไม้ มีเสา ขื่อ ไปจนถึงหลังคา แน่นอนบ้านหลังนั้น ตั้งอยู่ได้เพราะมีเสาหลายต้นช่วยกันรับไว้
อยู่มาวันหนึ่ง มีแมลงวันรำคาญจำนวนหนึ่งบินมาตอมเสาใหญ่ต้นกลางบ้าน เสาต้นนั้นก็นิ่งตรงมิได้สนใจและมิไยที่แมลงเหล่านั้นจะมารุมตอมเพื่อจะเกาะทำรังก็มิไหวติง แมลงก็เกาะทำรังจวบจนสิ้นอายุขัยแมลงก็ทิ้งรังร้างไป ให้เสาและบ้านคงสภาพดังเดิม
อีกหลายเพลาต่อมา มีแมลงรำคาญมาเกาะเสาอื่นที่อยู่รอบออกไป เพื่อจะมาทำรังอีก แต่เสาต้นนั้นรู้สึกรำคาญพยายามจะเอียงเพื่อหลบแมลงก็โดนเสาต้นอื่นๆๆดุว่า จะเอียงหลบไปไย ท่านมิเห็นหรือว่าครั้งก่อน ท่านเสาใหญ่ก็มิได้หลบตั้งตรงเป็นประธานไว้ได้แมลงมันก็จะจากไปเองในที่สุด จึงขอให้ท่านเสาน้อยทนไว้สักเพลา
แต่เสาน้อยทนไม่ไหว ไม่ยอม จึงหันไปถามเสาใหญ่ว่า ครานั้น แมลงมันรุมตอมท่าน ไยท่านทนให้มันตอมอยู่ได้เล่า
เสาใหญ่ตอบว่า แมลงรุมตอมเรานั้น เราก็รำคาญอยู่หรอก แต่หากเราเอียงหลบเหล่าแมลงเหล่านั้น และท่านเสาอื่นก็อาจจะพากันเอียงตามเราไป หากเป็นเช่นนั้น วิบัติก็จะเกิดกับบ้านหลังที่เรารับหน้าที่แบกอยู่นี้ เราจึงจำต้องยอมทนให้แมลงนั้นตอมและทำรัง ซึ่งสุดท้ายมันก็จากไป
เสาน้อยได้ฟังดังนั้น จึงเข้าใจได้โดยพลัน และนิ่งสงบให้เหล่าแมลงเกาะทำรัง ซึ่งสุดท้ายแมลงก็จากไป และทิ้งบ้านให้คงเป็นบ้านที่อยู่อาศัยได้ดังเดิม
นิทานเรื่องนี้พ่อสอนให้ลูกรู้จักหน้าที่ที่ลูกทุกคนจะต้องทำ และย้ำว่าเกิดมาเป็นมนุษย์ทุกคนมีหน้าที่เคารพต่อกฏต่อกติกาและกฎหมาย กฎกติกาจึงเป็นของสำคัญที่พวกเราจะต้องรักษาไว้อย่าให้คลอนแคลนไป เพราะเมื่อใดบ้านเมืองไม่มีกฎไม่มีกติกา ไม่มีขื่อแป ทุกสิ่งอย่างที่ประกอบเป็นบ้านก็จะขาดหลุดออกจากกัน มิอาจดำรงคงเป็นบ้านต่อไปได้ เหมือนสังคมที่มิอาจดำรงเป็นสังคมที่ปกติสุขได้ฉันใดก็ฉันนั้น ส่วนท่านที่รับภาระหน้าที่สำคัญของบ้านเมืองไม่ว่าเป็นตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล รัฐมนตรี ฯลฯ ท่านเองก็มีหน้าที่เสียยิ่งกว่าประชาชนคนทั่วไป เปรียบได้อย่างเป็นเสาที่คำยันให้บ้านตั้งตรงอยู่ได้
ในยามที่บ้านเมืองเราขับขันและวิกฤติเช่นนี้ จึงขอให้ท่านทั้งหลาย ทำหน้าที่ของตนและตั้งให้ตรงเป็นประหนึ่งเสาที่คำยันบ้านไว้มิให้เอียงพังทลายลงมาเทอญ
۞۞ ۞۞ นิทานเรื่องบ้านและแมลงรำคาญ ۞۞ ۞۞
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบ้านใหญ่หลังหนึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกยกสูงตามสภาพบ้านไทยโบราณ ซึ่งจะมีเสายกบ้านไว้ให้คงสภาพอยู่ได้หลายๆๆต้น ก่อขึ้นมามีคาน มีพื้นไม้ มีเสา ขื่อ ไปจนถึงหลังคา แน่นอนบ้านหลังนั้น ตั้งอยู่ได้เพราะมีเสาหลายต้นช่วยกันรับไว้
อยู่มาวันหนึ่ง มีแมลงวันรำคาญจำนวนหนึ่งบินมาตอมเสาใหญ่ต้นกลางบ้าน เสาต้นนั้นก็นิ่งตรงมิได้สนใจและมิไยที่แมลงเหล่านั้นจะมารุมตอมเพื่อจะเกาะทำรังก็มิไหวติง แมลงก็เกาะทำรังจวบจนสิ้นอายุขัยแมลงก็ทิ้งรังร้างไป ให้เสาและบ้านคงสภาพดังเดิม
อีกหลายเพลาต่อมา มีแมลงรำคาญมาเกาะเสาอื่นที่อยู่รอบออกไป เพื่อจะมาทำรังอีก แต่เสาต้นนั้นรู้สึกรำคาญพยายามจะเอียงเพื่อหลบแมลงก็โดนเสาต้นอื่นๆๆดุว่า จะเอียงหลบไปไย ท่านมิเห็นหรือว่าครั้งก่อน ท่านเสาใหญ่ก็มิได้หลบตั้งตรงเป็นประธานไว้ได้แมลงมันก็จะจากไปเองในที่สุด จึงขอให้ท่านเสาน้อยทนไว้สักเพลา
แต่เสาน้อยทนไม่ไหว ไม่ยอม จึงหันไปถามเสาใหญ่ว่า ครานั้น แมลงมันรุมตอมท่าน ไยท่านทนให้มันตอมอยู่ได้เล่า
เสาใหญ่ตอบว่า แมลงรุมตอมเรานั้น เราก็รำคาญอยู่หรอก แต่หากเราเอียงหลบเหล่าแมลงเหล่านั้น และท่านเสาอื่นก็อาจจะพากันเอียงตามเราไป หากเป็นเช่นนั้น วิบัติก็จะเกิดกับบ้านหลังที่เรารับหน้าที่แบกอยู่นี้ เราจึงจำต้องยอมทนให้แมลงนั้นตอมและทำรัง ซึ่งสุดท้ายมันก็จากไป
เสาน้อยได้ฟังดังนั้น จึงเข้าใจได้โดยพลัน และนิ่งสงบให้เหล่าแมลงเกาะทำรัง ซึ่งสุดท้ายแมลงก็จากไป และทิ้งบ้านให้คงเป็นบ้านที่อยู่อาศัยได้ดังเดิม
นิทานเรื่องนี้พ่อสอนให้ลูกรู้จักหน้าที่ที่ลูกทุกคนจะต้องทำ และย้ำว่าเกิดมาเป็นมนุษย์ทุกคนมีหน้าที่เคารพต่อกฏต่อกติกาและกฎหมาย กฎกติกาจึงเป็นของสำคัญที่พวกเราจะต้องรักษาไว้อย่าให้คลอนแคลนไป เพราะเมื่อใดบ้านเมืองไม่มีกฎไม่มีกติกา ไม่มีขื่อแป ทุกสิ่งอย่างที่ประกอบเป็นบ้านก็จะขาดหลุดออกจากกัน มิอาจดำรงคงเป็นบ้านต่อไปได้ เหมือนสังคมที่มิอาจดำรงเป็นสังคมที่ปกติสุขได้ฉันใดก็ฉันนั้น ส่วนท่านที่รับภาระหน้าที่สำคัญของบ้านเมืองไม่ว่าเป็นตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล รัฐมนตรี ฯลฯ ท่านเองก็มีหน้าที่เสียยิ่งกว่าประชาชนคนทั่วไป เปรียบได้อย่างเป็นเสาที่คำยันให้บ้านตั้งตรงอยู่ได้
ในยามที่บ้านเมืองเราขับขันและวิกฤติเช่นนี้ จึงขอให้ท่านทั้งหลาย ทำหน้าที่ของตนและตั้งให้ตรงเป็นประหนึ่งเสาที่คำยันบ้านไว้มิให้เอียงพังทลายลงมาเทอญ