พอดีวันหยุดอยู่บ้านว่างๆ ซึ่งปกติก็จะนั่งดู youtube ของ beauty gurus ต่างประเทศรีวิวเครื่องสำอาง สกินแคร์ต่างๆ
แล้วพอดีไปเจอ blogger (pinksofoxy) คนนึง (จริงๆ เราว่าเค้าเป็น youtuber มากกว่านะ) ที่แหวกแนวกว่าเพื่อน
คือแทนที่จะมารีวิวของเล่นใหม่ๆ นู่นนี่เหมือนก่อน มีอยู่วันนึงเค้าก็มานั่งคัดเครื่องสำอางออกและเหลือเท่าที่เค้าใช้จริงๆ
เครื่องสำอางสกินแคร์ส่วนที่คัดออก (ซึ่งเยอะมากๆๆๆๆ จริงๆ และยังมีสภาพดีอยู่) เค้าเอาไปบริจาคให้กับผู้หญิงไม่มีบ้านอยู่และต้องมาอยู่ที่มูลนิธิ (ในอเมริกา) เท่านั้นไม่พอ เค้าตั้งกฏเหล็กให้ตัวเองว่า จะซื้อเครื่องสำอางใหม่ได้แค่ปีละ 10 ชิ้นเท่านั้น!! (สำหรับเรา นางคือ beauty guru กลับใจชัดๆ !!!)
พอดูจบแล้วเราแบบ เฮ้ย! ใช่เลยอะ มันเป็นสิ่งที่เราอยากปรับเปลี่ยนอะไรในตัวเองบ้าง
ตัวเราเองไม่ใช่คนแต่งหน้าอะไรมากนัก แต่ก็มีเครื่องสำอางอยู่พอสมควร
อาจไม่เยอะถ้าเทียบกับหลายๆ คนนะคะ
แต่สำหรับเรา มันเยอะเกินความจำเป็นที่ใช้จริงๆ และอาจจะหมดอายุก่อนจะใช้หมดด้วยซ้ำ
เราว่า เครื่องสำอางชิ้นนึงมันไม่ได้ถูกๆ นะ ยิ่งพวก counter brand ด้วยแล้วละก้อ อย่างน้อยก็แบงค์พันใบนึงล่ะที่ลอยออกจากกระเป๋าต่อของ 1 ชิ้น และยิ่งเราซื้อมาแล้วปล่อยให้มันนอนเล่นอยู่ในลิ้นชักรอวันหมดอายุซะอย่างนั้น เราว่ามันยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ค่ะ สู้เก็บเงินไว้ไปทำอย่างอื่นดีกว่า
อย่างของเรานะคะ เครื่องสำอางที่เรามีทั้งหมดตอนนี้ (มีทยอยให้แม่ ให้เพื่อนไปส่วนนึงแล้ว เพราะคิดว่าใช้ไม่ทัน + ใช้แล้วดับ)
อาจจะไม่ได้เยอะมากสำหรับหลายๆ คน แต่อย่างที่บอก เราไม่ค่อยแต่งหน้า แค่ปัดแก้มกับทาปากแค่นั้น
แทบไม่ทำอะไรกับคิ้วเลย eyeshadowนี่ชอบมาก อะไรออกใหม่รู้หมด ใครมาแต่งให้ดูนี่ชอบมาก แต่ในชีวิตจริงแทบไม่ได้แตะ -__-"
mascara ไม่ค่อยปัดเพราะขี้เกียจจึงไม่เคยใช้หมด แต่พอมันแห้งทีไร ต้องแจ้นไปหาซื้อใหม่ทุกที (เพื่อ???)
ทีนี้พอมานั่งคัดแต่ของที่เราใช้จริงๆ มันก็เหลือเท่านี้
ลิปสติก คัดแต่โทนสีที่ใช้บ่อย เอาไปผสมๆ เอาได้อีกหลายสี ลิปไลน์เนอร์สีนู้ดแท่งเดียวอยู่
บลัชออน โทนส้ม 1 โทนชมพู 1
และอื่นๆ อย่างละชิ้นที่จำเป็นและได้ใช้บ่อยที่สุด
น้อยลงมาเยอะ ส่วนที่คัดออกไปนี่ซื้อเพราะทนกระแสไม่ไหว คิดไปเองว่าใช้แล้วจะสวย หรือไม่ก็ลดราคาเลยอดใจไม่ได้!
ซึ่งถ้าเราไม่ได้ซื้อแต่แรก เราจะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอีกเป็นหมื่น
การที่เรามีน้อยชิ้นกว่าเดิมก็ไม่ได้ทำให้เราสวยน้อยลง (กล้าพูด!) เราสวยเท่าเดิม แต่เงินเก็บในกระเป๋ามีเพิ่มขึ้น (Less is more)
เงินที่เหลือเพิ่มนี้ เราสามารถเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้ สำหรับเรา เราชอบท่องเที่ยว
เงินส่วนตรงนี้สามารถเป็นเงินเก็บสำหรับค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม อื่นๆ (ถ้าเราไม่ได้ใช้)
แป้งทั้งหมดที่มี
แต่จริงๆ เรามีแค่นี้ก็พอแล้ว
(ไม่ใช่ว่า mac หรือ lunasol ไม่ดีนะคะ แต่มันแพงและแป้ง drugstore ก็ทำได้ดีไม่ต่างกันมากเท่าไหร่)
บ้าลิปมันมาก
แต่ที่ใช้และชอบมากจริงๆ มีแค่นี้
บ้าซื้อ Toner อยู่พักนึงแต่ใช้ไม่หมดซักขวด (ขอรวม Hada ในนี้ด้วยนะคะ)
แต่อันนี้คือที่ชอบจริงๆ (เป็นพวกชอบลอง นิสัย (ชวน) เสีย (ตังค์))
เราเริ่มจากกฎเหล็ก 3 ข้อง่ายๆ (แต่ทำยาก ><")
1) ถ้ายังไม่หมดไม่ซื้อ (ห้ามตุน เครื่องสำอาง skincare มีวันหมดอายุของมัน จำไว้!)
2) ถ้าไม่จำเป็นไม่ซื้อ
3) ใช้เงินอย่างมีสติ คิดให้เยอะๆ ก่อนซื้อ
ขอจบกระทู้ดื้อๆ ด้วยรูปนี้จาก Jay The Rabbit ค่ะ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ
(ชีวิตดีๆ ไม่ต้องมีทุกอย่างก็ได้ จริงๆ นะคะ)
ปอลิง >> ใครมีวิธีประหยัด หักห้ามใจตัวเองยังไง เชิญแชร์กันได้เต็มที่เลยจ้า
(กระทู้ชวนประหยัด) มาซื้อเท่าที่จำเป็นกันเถอะค่ะ!!
แล้วพอดีไปเจอ blogger (pinksofoxy) คนนึง (จริงๆ เราว่าเค้าเป็น youtuber มากกว่านะ) ที่แหวกแนวกว่าเพื่อน
คือแทนที่จะมารีวิวของเล่นใหม่ๆ นู่นนี่เหมือนก่อน มีอยู่วันนึงเค้าก็มานั่งคัดเครื่องสำอางออกและเหลือเท่าที่เค้าใช้จริงๆ
เครื่องสำอางสกินแคร์ส่วนที่คัดออก (ซึ่งเยอะมากๆๆๆๆ จริงๆ และยังมีสภาพดีอยู่) เค้าเอาไปบริจาคให้กับผู้หญิงไม่มีบ้านอยู่และต้องมาอยู่ที่มูลนิธิ (ในอเมริกา) เท่านั้นไม่พอ เค้าตั้งกฏเหล็กให้ตัวเองว่า จะซื้อเครื่องสำอางใหม่ได้แค่ปีละ 10 ชิ้นเท่านั้น!! (สำหรับเรา นางคือ beauty guru กลับใจชัดๆ !!!)
พอดูจบแล้วเราแบบ เฮ้ย! ใช่เลยอะ มันเป็นสิ่งที่เราอยากปรับเปลี่ยนอะไรในตัวเองบ้าง
ตัวเราเองไม่ใช่คนแต่งหน้าอะไรมากนัก แต่ก็มีเครื่องสำอางอยู่พอสมควร
อาจไม่เยอะถ้าเทียบกับหลายๆ คนนะคะ
แต่สำหรับเรา มันเยอะเกินความจำเป็นที่ใช้จริงๆ และอาจจะหมดอายุก่อนจะใช้หมดด้วยซ้ำ
เราว่า เครื่องสำอางชิ้นนึงมันไม่ได้ถูกๆ นะ ยิ่งพวก counter brand ด้วยแล้วละก้อ อย่างน้อยก็แบงค์พันใบนึงล่ะที่ลอยออกจากกระเป๋าต่อของ 1 ชิ้น และยิ่งเราซื้อมาแล้วปล่อยให้มันนอนเล่นอยู่ในลิ้นชักรอวันหมดอายุซะอย่างนั้น เราว่ามันยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ค่ะ สู้เก็บเงินไว้ไปทำอย่างอื่นดีกว่า
อย่างของเรานะคะ เครื่องสำอางที่เรามีทั้งหมดตอนนี้ (มีทยอยให้แม่ ให้เพื่อนไปส่วนนึงแล้ว เพราะคิดว่าใช้ไม่ทัน + ใช้แล้วดับ)
อาจจะไม่ได้เยอะมากสำหรับหลายๆ คน แต่อย่างที่บอก เราไม่ค่อยแต่งหน้า แค่ปัดแก้มกับทาปากแค่นั้น
แทบไม่ทำอะไรกับคิ้วเลย eyeshadowนี่ชอบมาก อะไรออกใหม่รู้หมด ใครมาแต่งให้ดูนี่ชอบมาก แต่ในชีวิตจริงแทบไม่ได้แตะ -__-"
mascara ไม่ค่อยปัดเพราะขี้เกียจจึงไม่เคยใช้หมด แต่พอมันแห้งทีไร ต้องแจ้นไปหาซื้อใหม่ทุกที (เพื่อ???)
ทีนี้พอมานั่งคัดแต่ของที่เราใช้จริงๆ มันก็เหลือเท่านี้
ลิปสติก คัดแต่โทนสีที่ใช้บ่อย เอาไปผสมๆ เอาได้อีกหลายสี ลิปไลน์เนอร์สีนู้ดแท่งเดียวอยู่
บลัชออน โทนส้ม 1 โทนชมพู 1
และอื่นๆ อย่างละชิ้นที่จำเป็นและได้ใช้บ่อยที่สุด
น้อยลงมาเยอะ ส่วนที่คัดออกไปนี่ซื้อเพราะทนกระแสไม่ไหว คิดไปเองว่าใช้แล้วจะสวย หรือไม่ก็ลดราคาเลยอดใจไม่ได้!
ซึ่งถ้าเราไม่ได้ซื้อแต่แรก เราจะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอีกเป็นหมื่น
การที่เรามีน้อยชิ้นกว่าเดิมก็ไม่ได้ทำให้เราสวยน้อยลง (กล้าพูด!) เราสวยเท่าเดิม แต่เงินเก็บในกระเป๋ามีเพิ่มขึ้น (Less is more)
เงินที่เหลือเพิ่มนี้ เราสามารถเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้ สำหรับเรา เราชอบท่องเที่ยว
เงินส่วนตรงนี้สามารถเป็นเงินเก็บสำหรับค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม อื่นๆ (ถ้าเราไม่ได้ใช้)
แป้งทั้งหมดที่มี
แต่จริงๆ เรามีแค่นี้ก็พอแล้ว
(ไม่ใช่ว่า mac หรือ lunasol ไม่ดีนะคะ แต่มันแพงและแป้ง drugstore ก็ทำได้ดีไม่ต่างกันมากเท่าไหร่)
บ้าลิปมันมาก
แต่ที่ใช้และชอบมากจริงๆ มีแค่นี้
บ้าซื้อ Toner อยู่พักนึงแต่ใช้ไม่หมดซักขวด (ขอรวม Hada ในนี้ด้วยนะคะ)
แต่อันนี้คือที่ชอบจริงๆ (เป็นพวกชอบลอง นิสัย (ชวน) เสีย (ตังค์))
เราเริ่มจากกฎเหล็ก 3 ข้อง่ายๆ (แต่ทำยาก ><")
1) ถ้ายังไม่หมดไม่ซื้อ (ห้ามตุน เครื่องสำอาง skincare มีวันหมดอายุของมัน จำไว้!)
2) ถ้าไม่จำเป็นไม่ซื้อ
3) ใช้เงินอย่างมีสติ คิดให้เยอะๆ ก่อนซื้อ
ขอจบกระทู้ดื้อๆ ด้วยรูปนี้จาก Jay The Rabbit ค่ะ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ
(ชีวิตดีๆ ไม่ต้องมีทุกอย่างก็ได้ จริงๆ นะคะ)
ปอลิง >> ใครมีวิธีประหยัด หักห้ามใจตัวเองยังไง เชิญแชร์กันได้เต็มที่เลยจ้า