จากมหากาพย์แห่งความสิ้นหวัง......
“สิ้นหวัง”
http://ppantip.com/topic/31144894
และการรอคอยด้วยความอดทนถึงปีกว่า......
“Olympus Thailand ปัญหาของผมปีกว่าแล้ว จะให้รออีกถึงเมื่อไหร่ ? พรุ่งนี้ก็ Photo Fair 2013 แล้วนะครับ”
http://ppantip.com/topic/31297187
เมื่อการร้องเรียนเป็นผลจนกระทั้งลูกค้าได้รับความเป็นธรรมซะที..…
“Olympus Thailand ตอบกลับมาแล้ว”
http://ppantip.com/topic/31306330
แต่..............มหากาพย์ยังไม่จบ !!!
เหตุเนื่องจากจดหมายยื่นข้อเสนอของทาง Olympus Thailand ฉบับที่ 2 ที่ส่งถึงน้านันต์ (ล๊อคอิน “อนันต์ครับ” เจ้าของกระทู้มหากาพย์) ทั้งหมด 3 แผ่น นั้น ได้มีข้อความที่บิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่น้านันต์ มีการทำสรุป Timeline ของเหตุการณ์ทั้งหมด
ที่เกิดขึ้นแบบระบุวัน/เดือน/ปี แนบไปกับเอกสารร้องเรียนด้วยแล้ว
ที่สำคัญมีการกล่าวหาว่าป๋มเป็นผู้เข้าไปรับกล้องของน้านันต์ออกจากศูนย์บริการในวันที่ 20 มีนาคม 2556 < โดยที่ป๋มมีหลักฐานยืนยันว่าคงไม่สามารถแยกร่างเดินทางไปในที่ ๆ เดียวกัน ภายในช่วงเวลาเดียวกันได้แน่ ๆ
ซึ่งในวันที่มีการนัดส่งมอบกล้องตัวใหม่ให้กับน้านันต์ ก็ได้มีการแจ้งให้ทาง ผจก.ฝ่ายการตลาด ทนายความของทางบริษัท
และคุณตำรวจ จาก บก.ปคบ. (ที่ทาง Olympus Thailand ได้กรุณาเชิญมาแบบไม่มีการบอกกล่าวให้ทราบกันก่อน)
จะเชิญมาเพื่อ …..อะไร ? ป๋มก็ไม่ทราบได้นะฮ่ะ ตอนที่ได้ข่าวจากเพื่อนสมาชิกโอลี่มาบอกให้ระวังตัว เพราะบังเอิญไปเห็นว่าทาง Olympus Thailand ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบที่บูทก่อนวันนัดหมายรับกล้อง ป๋มได้แต่แอบคิดว่าทาง Olympus Thailand
คงมองว่าลูกค้าแฟนบอยอย่างพวกเราใช้กล้องโอลี่กันมา 5-10 ปี นี่ เป็นพวกแก๊งค์มาเฟียที่น่ากลัวในสายตาของทางบริษัท ?
เลยต้องเชิญคุณตำรวจมาคุ้มกัน ?
เพราะ “บก.ปคบ.” คือ “กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค” ซึ่งเป็นคนละหน่วยงานกับ
ทาง สคบ. จังหวัดระยอง ที่น้านันต์ไปทำเรื่องร้องเรียนไว้ และทาง สคบ. ก็ไม่ได้ส่งเรื่องต่อมาให้ทาง บก.ปคบ. ด้วย
ในวันนั้นไม่มีใครรู้ว่า คุณตำรวจเป็นใคร เพราะในพิธีการมอบกล้องในห้องประชุมของทาง BITEC ทาง Olympus Thailand ก็ไม่ได้มี
การแนะนำตัวว่า จนท.จากทางฝั่ง Olympus Thailand เป็นใครบ้าง ?
จนเมื่อป๋มสงสัยว่า คุณผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ ป๋มนี่เป็นใครหว่า ? เพราะจากการที่เคยทำ/ร่วมกิจกรรมกับทาง Olympus Thailand มาหลายปี
ก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนเลย มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับเรื่องนี้ด้วยเหรอไงถึงต้องมานั่งอยู่ในห้องนี้ด้วย ก็เลยตัดสินใจเสียมารยาทสอบถามไป และได้คำตอบโดยการแนะนำตัวเองว่าผมชื่อ ร้อยตำรวจตรี พีรศักดิ์ เพ็ชรสุกใส ตำแหน่งรองสารวัตร กองกำกับการ 2
จาก “กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กบ.ปคบ.) ” เนื่องจากชื่อ/ตำแหน่ง/หน่วยงานยาวมากขออนุญาตและขออภัยที่ไม่เขียนชื่อคุณตำรวจไว้ที่หัวกระทู้ ขอใส่เป็นตัวย่อหน่วยงานแทน
ซึ่งคุณตำรวจได้บอกให้ทราบว่า ทาง Olympus Thailand ได้ติดต่อไปให้มาในวันนี้ และถ้าหากมีปัญหาอะไรให้ติดต่อได้
พร้อมให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้กับน้านันต์ ณ ตอนนั้นทุกคนคิดว่าเรื่องทุกอย่างคงจบแล้ว ไม่มีเหตุอันใดที่จะต้องไปรบกวนคุณตำรวจกันเลยสักนิดเดียว
แต่.........มันไม่เป็นอย่างนั้น !!!
ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2556 ในห้องประชุมที่ BITEC ได้มีการแจ้งให้ทราบพร้อมต่อว่าไปด้วยว่า เอกสารแนบของลูกค้ามีสรุปเหตุการณ์อย่างละเอียดเรียงวัน/เดือน/ปีตามลำดับเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำไม ? เอกสารถึงยังมีข้อความบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงได้
ทางบริษัทฯ ไม่ได้มีการตรวจสอบเลยหรือว่า สิ่งที่ลูกค้าร้องเรียนไป 1 ปี กว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทางทนายความของบริษัทฯ ก็ชี้แจงว่า ได้ข้อมูลจากทางศูนย์บริการ และไม่ทราบว่าลูกค้ามีเอกสารสรุปแนบเรื่องร้องเรียนไปด้วย
เนื่องจากวันนี้แค่เป็นการนัดมารับกล้องเท่านั้น รายละเอียดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง ก็เลยไม่พูดถึง ณ ตอนนั้น เพราะเกรงว่าจะทำให้เสียเวลามากไป และป๋มขอให้ทาง Olympus Thailand ไปดำเนินการหาหลักฐานการเข้าไปรับกล้องของป๋ม จากทางศูนย์บริการมาให้ได้ภายใน 1 อาทิตย์
หากหามาไม่ได้ ก็ต้องทำจดหมายขอโทษอย่างเป็นทางการถึงป๋มโดยตรงทันที
แล้วเรื่องทุกอย่างก็เงียบบบบบบบบบบบบบบบบบ ไปกับสายลมและแสงแดดในฤดูหนาว ในปี 2556.............
มหากาพย์เรื่องนี้ก็เลยได้ยาวข้ามมาเป็นปีที่ 2
จนกระทั้ง วันที่ 7 มกราคม 2557
ทาง สคบ. จังหวัดระยอง ได้ติดต่อสอบถามไปกับทางน้านันต์ว่า ได้รับการติดต่อจากทาง Olympus Thailand แล้วหรือยัง ?
เนื่องจากทางบริษัทฯ ได้ทำจดหมายแจ้งไปยัง สคบ. แจ้งขอปิดกรณีร้องเรียนของน้านันต์กับทางสคบ.
น้านันต์ก็เลยบอกให้ สคบ.ทราบว่า ได้รับกล้องชดใช้จาก Olympus Thailand แต่ทาง Olympus Thailand
ยังไม่ยอมส่งจดหมายขอโทษที่กล่าวหาป๋มไว้เลย ดังนั้นจึงยังทำเรื่องปิดกรณีร้องเรียนไม่ได้
และน้านันต์ก็เลยตัดสินใจโทรไปรบกวนคุณตำรวจให้ช่วยตามเรื่องนี้ให้ป๋มด้วย < ขอบคุณน้านันต์มาก ๆ เลยนะค๊าบบบ
และในวันที่ 21 มกราคม 2557
ก็มีจดหมายลงทะเบียน EMS ส่งตรงถึงน้านันต์ เมื่อเปิดออกดูก็พบว่า เป็นจดหมายขอโทษป๋มอย่างเป็นทางการจากทาง Olympus Thailand ซึ่งป๋มก็เคยแจ้งแล้วนะว่าให้ส่งถึงป๋มโดยตรง เพราะป๋มคือผู้เสียหายจากการที่บริษัทกล่าวหา (และป๋มก็ไม่ใช่บุคคลที่ทาง Olympus Thailand ไม่มีข้อมูลที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์) .......
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า จะส่งไปหาน้านันต์ทำไม ? เลยเดือดร้อนน้านันต์ต้องเสียเงินส่ง EMS กลับมาให้ป๋มอีกที
[^O^]...ขอบคุณตำรวจจาก บก.ปคบ. ได้รับหนังสือขอโทษจาก Olympus Thailand แล้วคับ
“สิ้นหวัง”
http://ppantip.com/topic/31144894
และการรอคอยด้วยความอดทนถึงปีกว่า......
“Olympus Thailand ปัญหาของผมปีกว่าแล้ว จะให้รออีกถึงเมื่อไหร่ ? พรุ่งนี้ก็ Photo Fair 2013 แล้วนะครับ”
http://ppantip.com/topic/31297187
เมื่อการร้องเรียนเป็นผลจนกระทั้งลูกค้าได้รับความเป็นธรรมซะที..…
“Olympus Thailand ตอบกลับมาแล้ว”
http://ppantip.com/topic/31306330
แต่..............มหากาพย์ยังไม่จบ !!!
เหตุเนื่องจากจดหมายยื่นข้อเสนอของทาง Olympus Thailand ฉบับที่ 2 ที่ส่งถึงน้านันต์ (ล๊อคอิน “อนันต์ครับ” เจ้าของกระทู้มหากาพย์) ทั้งหมด 3 แผ่น นั้น ได้มีข้อความที่บิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่น้านันต์ มีการทำสรุป Timeline ของเหตุการณ์ทั้งหมด
ที่เกิดขึ้นแบบระบุวัน/เดือน/ปี แนบไปกับเอกสารร้องเรียนด้วยแล้ว
ที่สำคัญมีการกล่าวหาว่าป๋มเป็นผู้เข้าไปรับกล้องของน้านันต์ออกจากศูนย์บริการในวันที่ 20 มีนาคม 2556 < โดยที่ป๋มมีหลักฐานยืนยันว่าคงไม่สามารถแยกร่างเดินทางไปในที่ ๆ เดียวกัน ภายในช่วงเวลาเดียวกันได้แน่ ๆ
ซึ่งในวันที่มีการนัดส่งมอบกล้องตัวใหม่ให้กับน้านันต์ ก็ได้มีการแจ้งให้ทาง ผจก.ฝ่ายการตลาด ทนายความของทางบริษัท
และคุณตำรวจ จาก บก.ปคบ. (ที่ทาง Olympus Thailand ได้กรุณาเชิญมาแบบไม่มีการบอกกล่าวให้ทราบกันก่อน)
จะเชิญมาเพื่อ …..อะไร ? ป๋มก็ไม่ทราบได้นะฮ่ะ ตอนที่ได้ข่าวจากเพื่อนสมาชิกโอลี่มาบอกให้ระวังตัว เพราะบังเอิญไปเห็นว่าทาง Olympus Thailand ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบที่บูทก่อนวันนัดหมายรับกล้อง ป๋มได้แต่แอบคิดว่าทาง Olympus Thailand
คงมองว่าลูกค้าแฟนบอยอย่างพวกเราใช้กล้องโอลี่กันมา 5-10 ปี นี่ เป็นพวกแก๊งค์มาเฟียที่น่ากลัวในสายตาของทางบริษัท ?
เลยต้องเชิญคุณตำรวจมาคุ้มกัน ?
เพราะ “บก.ปคบ.” คือ “กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค” ซึ่งเป็นคนละหน่วยงานกับ
ทาง สคบ. จังหวัดระยอง ที่น้านันต์ไปทำเรื่องร้องเรียนไว้ และทาง สคบ. ก็ไม่ได้ส่งเรื่องต่อมาให้ทาง บก.ปคบ. ด้วย
ในวันนั้นไม่มีใครรู้ว่า คุณตำรวจเป็นใคร เพราะในพิธีการมอบกล้องในห้องประชุมของทาง BITEC ทาง Olympus Thailand ก็ไม่ได้มี
การแนะนำตัวว่า จนท.จากทางฝั่ง Olympus Thailand เป็นใครบ้าง ?
จนเมื่อป๋มสงสัยว่า คุณผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ ป๋มนี่เป็นใครหว่า ? เพราะจากการที่เคยทำ/ร่วมกิจกรรมกับทาง Olympus Thailand มาหลายปี
ก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนเลย มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับเรื่องนี้ด้วยเหรอไงถึงต้องมานั่งอยู่ในห้องนี้ด้วย ก็เลยตัดสินใจเสียมารยาทสอบถามไป และได้คำตอบโดยการแนะนำตัวเองว่าผมชื่อ ร้อยตำรวจตรี พีรศักดิ์ เพ็ชรสุกใส ตำแหน่งรองสารวัตร กองกำกับการ 2
จาก “กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กบ.ปคบ.) ” เนื่องจากชื่อ/ตำแหน่ง/หน่วยงานยาวมากขออนุญาตและขออภัยที่ไม่เขียนชื่อคุณตำรวจไว้ที่หัวกระทู้ ขอใส่เป็นตัวย่อหน่วยงานแทน
ซึ่งคุณตำรวจได้บอกให้ทราบว่า ทาง Olympus Thailand ได้ติดต่อไปให้มาในวันนี้ และถ้าหากมีปัญหาอะไรให้ติดต่อได้
พร้อมให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้กับน้านันต์ ณ ตอนนั้นทุกคนคิดว่าเรื่องทุกอย่างคงจบแล้ว ไม่มีเหตุอันใดที่จะต้องไปรบกวนคุณตำรวจกันเลยสักนิดเดียว
แต่.........มันไม่เป็นอย่างนั้น !!!
ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2556 ในห้องประชุมที่ BITEC ได้มีการแจ้งให้ทราบพร้อมต่อว่าไปด้วยว่า เอกสารแนบของลูกค้ามีสรุปเหตุการณ์อย่างละเอียดเรียงวัน/เดือน/ปีตามลำดับเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำไม ? เอกสารถึงยังมีข้อความบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงได้
ทางบริษัทฯ ไม่ได้มีการตรวจสอบเลยหรือว่า สิ่งที่ลูกค้าร้องเรียนไป 1 ปี กว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทางทนายความของบริษัทฯ ก็ชี้แจงว่า ได้ข้อมูลจากทางศูนย์บริการ และไม่ทราบว่าลูกค้ามีเอกสารสรุปแนบเรื่องร้องเรียนไปด้วย
เนื่องจากวันนี้แค่เป็นการนัดมารับกล้องเท่านั้น รายละเอียดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง ก็เลยไม่พูดถึง ณ ตอนนั้น เพราะเกรงว่าจะทำให้เสียเวลามากไป และป๋มขอให้ทาง Olympus Thailand ไปดำเนินการหาหลักฐานการเข้าไปรับกล้องของป๋ม จากทางศูนย์บริการมาให้ได้ภายใน 1 อาทิตย์
หากหามาไม่ได้ ก็ต้องทำจดหมายขอโทษอย่างเป็นทางการถึงป๋มโดยตรงทันที
แล้วเรื่องทุกอย่างก็เงียบบบบบบบบบบบบบบบบบ ไปกับสายลมและแสงแดดในฤดูหนาว ในปี 2556.............
มหากาพย์เรื่องนี้ก็เลยได้ยาวข้ามมาเป็นปีที่ 2
จนกระทั้ง วันที่ 7 มกราคม 2557
ทาง สคบ. จังหวัดระยอง ได้ติดต่อสอบถามไปกับทางน้านันต์ว่า ได้รับการติดต่อจากทาง Olympus Thailand แล้วหรือยัง ?
เนื่องจากทางบริษัทฯ ได้ทำจดหมายแจ้งไปยัง สคบ. แจ้งขอปิดกรณีร้องเรียนของน้านันต์กับทางสคบ.
น้านันต์ก็เลยบอกให้ สคบ.ทราบว่า ได้รับกล้องชดใช้จาก Olympus Thailand แต่ทาง Olympus Thailand
ยังไม่ยอมส่งจดหมายขอโทษที่กล่าวหาป๋มไว้เลย ดังนั้นจึงยังทำเรื่องปิดกรณีร้องเรียนไม่ได้
และน้านันต์ก็เลยตัดสินใจโทรไปรบกวนคุณตำรวจให้ช่วยตามเรื่องนี้ให้ป๋มด้วย < ขอบคุณน้านันต์มาก ๆ เลยนะค๊าบบบ
และในวันที่ 21 มกราคม 2557
ก็มีจดหมายลงทะเบียน EMS ส่งตรงถึงน้านันต์ เมื่อเปิดออกดูก็พบว่า เป็นจดหมายขอโทษป๋มอย่างเป็นทางการจากทาง Olympus Thailand ซึ่งป๋มก็เคยแจ้งแล้วนะว่าให้ส่งถึงป๋มโดยตรง เพราะป๋มคือผู้เสียหายจากการที่บริษัทกล่าวหา (และป๋มก็ไม่ใช่บุคคลที่ทาง Olympus Thailand ไม่มีข้อมูลที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์) .......
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า จะส่งไปหาน้านันต์ทำไม ? เลยเดือดร้อนน้านันต์ต้องเสียเงินส่ง EMS กลับมาให้ป๋มอีกที