สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
แก้ที่นิสัยคุณก่อน
1. เลิกใช้เงินเกินตัว
2. อย่ากู้เงิน หรือ ใช้บัตรเครดิต แล้วจ่ายชำระแค่ขั้นต่ำ (เพราะดอกมันบานปลาย)
3. อย่ากู้เงิน (โดยเฉพาะจากบัตรกดเงินสด) มาใช้โดยไม่จำเป็น
หลังจากนั้น
1. เอาของมีค่าไปขายซะ เอามาโปะหนี้
2. ประเมิน ศักภาพ และ ความสามารถตัวเองว่า มีทางหาเงินเพิ่มได้จากช่องทางไหนบ้าง
3. ค่าใช้จ่ายไหนลดได้ ลดก่อน เพื่อประหยัดรายจ่าย มาจ่ายชำระหนี้สินให้หมด
และ ท้ายที่สุด
ช่วยเห็นคุณค่าของเงินให้มากกว่านี้หน่อยเถอะค่ะ
หัดออมเงินบ้าง เกิดวันไหนป่วย แล้วจะเอาเงินที่ไหนรักษาตัว?
เงินเดือน 19,000 เคยได้ส่งให้พ่อแม่ใช้บ้างรึเปล่า??
อย่างที่ คห อื่นว่า
ถ้ายังไม่แก้นิสัย ต่อให้ มีเงินเดือนเป็นแสน คุณก็จนอยู่ดี ชาตินี้ไม่มีวันรวย จะรวยก็ "รวยหนี้" ค่ะ !
1. เลิกใช้เงินเกินตัว
2. อย่ากู้เงิน หรือ ใช้บัตรเครดิต แล้วจ่ายชำระแค่ขั้นต่ำ (เพราะดอกมันบานปลาย)
3. อย่ากู้เงิน (โดยเฉพาะจากบัตรกดเงินสด) มาใช้โดยไม่จำเป็น
หลังจากนั้น
1. เอาของมีค่าไปขายซะ เอามาโปะหนี้
2. ประเมิน ศักภาพ และ ความสามารถตัวเองว่า มีทางหาเงินเพิ่มได้จากช่องทางไหนบ้าง
3. ค่าใช้จ่ายไหนลดได้ ลดก่อน เพื่อประหยัดรายจ่าย มาจ่ายชำระหนี้สินให้หมด
และ ท้ายที่สุด
ช่วยเห็นคุณค่าของเงินให้มากกว่านี้หน่อยเถอะค่ะ
หัดออมเงินบ้าง เกิดวันไหนป่วย แล้วจะเอาเงินที่ไหนรักษาตัว?
เงินเดือน 19,000 เคยได้ส่งให้พ่อแม่ใช้บ้างรึเปล่า??
อย่างที่ คห อื่นว่า
ถ้ายังไม่แก้นิสัย ต่อให้ มีเงินเดือนเป็นแสน คุณก็จนอยู่ดี ชาตินี้ไม่มีวันรวย จะรวยก็ "รวยหนี้" ค่ะ !
ความคิดเห็นที่ 22
สรุปการเงินของคุณ
คุณมีรายรับ 19000 แต่มีรายจ่าย 22310+ค่ากินอยู่ แสดงว่าคุณจะติดลบเดือนละ 3310 บาท+ค่ากินอยู่ทุกเดือน
และคุณจะมีหนี้เพิ่มขึ้น ปีละ 40,000-50,000 ถ้าหากคุณไม่ทำอะไรเลย
สถาณการณ์ตอนนี้ยังแก้ไขทัน
ทางแก้
1.ตรวจว่าตอนนี้คุณมีหนี้สินรวมแล้วเท่าไร เอาแบบเฉพาะเงินต้น แล้วต้องจ่ายเดือนละเท่าไร
2.กำจัดหนี้สินดอกเบี้ยสูง
2.1 กู้สหกรณ์ 100,000 ปิดบัตรเงินสด ปิดบัตรเครดิตใบ30000 1 ใบ เหลือเงิน 40,000 (ย้ำว่าปิดไปเลย ให้เหลือใบเดียว)
2.2 จ่ายหนี้บัตรเครดิตอีกใบให้หมด
3.ลองดูว่าเดือนนึงมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่าไร - ลดค่าใช้จ่าย
4.เงินเดือนเดือนถัดไป นำไปลบออกจากหนี้สหกรณ์ที่ต้องจ่ายเหลือเท่าไร (สมมติว่าคุณผ่อนสหกรณ์เพิ่มเป็นเดือนละ 7000 จะเหลือเงิน 12000)
6. "" ค่าประกันสังคม ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าอินเตอร์เน็ต อีกประมาณ 3,500 บาท
ค่าหาหมอสิว ค่า คสอ. ค่าทำฟัน อีกประมาณ 3,000 บาท ครับ "" ลดรายจ่ายส่วนนี้ให้เหลือไม่เกิน 5000
7. ค่ากินอยู่ต่างๆควบคุมให้อยู่ไม่เกิน 7000 รอเงินเดือนขึ้นถึงจะกินมากกว่านี้ได้
8. 2ปีกว่าๆคุณจะหมดภาระ
9. อย่าใช้บัตรเครดิตซื้อของที่ไม่จำเป็น
ไหวมั้ยครับ
คุณมีรายรับ 19000 แต่มีรายจ่าย 22310+ค่ากินอยู่ แสดงว่าคุณจะติดลบเดือนละ 3310 บาท+ค่ากินอยู่ทุกเดือน
และคุณจะมีหนี้เพิ่มขึ้น ปีละ 40,000-50,000 ถ้าหากคุณไม่ทำอะไรเลย
สถาณการณ์ตอนนี้ยังแก้ไขทัน
ทางแก้
1.ตรวจว่าตอนนี้คุณมีหนี้สินรวมแล้วเท่าไร เอาแบบเฉพาะเงินต้น แล้วต้องจ่ายเดือนละเท่าไร
2.กำจัดหนี้สินดอกเบี้ยสูง
2.1 กู้สหกรณ์ 100,000 ปิดบัตรเงินสด ปิดบัตรเครดิตใบ30000 1 ใบ เหลือเงิน 40,000 (ย้ำว่าปิดไปเลย ให้เหลือใบเดียว)
2.2 จ่ายหนี้บัตรเครดิตอีกใบให้หมด
3.ลองดูว่าเดือนนึงมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่าไร - ลดค่าใช้จ่าย
4.เงินเดือนเดือนถัดไป นำไปลบออกจากหนี้สหกรณ์ที่ต้องจ่ายเหลือเท่าไร (สมมติว่าคุณผ่อนสหกรณ์เพิ่มเป็นเดือนละ 7000 จะเหลือเงิน 12000)
6. "" ค่าประกันสังคม ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าอินเตอร์เน็ต อีกประมาณ 3,500 บาท
ค่าหาหมอสิว ค่า คสอ. ค่าทำฟัน อีกประมาณ 3,000 บาท ครับ "" ลดรายจ่ายส่วนนี้ให้เหลือไม่เกิน 5000
7. ค่ากินอยู่ต่างๆควบคุมให้อยู่ไม่เกิน 7000 รอเงินเดือนขึ้นถึงจะกินมากกว่านี้ได้
8. 2ปีกว่าๆคุณจะหมดภาระ
9. อย่าใช้บัตรเครดิตซื้อของที่ไม่จำเป็น
ไหวมั้ยครับ
ความคิดเห็นที่ 9
ผิดตรงที่คิดจะกู้ใหม่ไปโปะเก่าเนี่ยแหละครับ หยุดเลย หยุดเรื่องกู้เลย เลิกคิดเรื่องกู้ไปอีกสิบปีเต็มๆ เลยคุณ
น้ำ ไฟ มือถือ อินเตอร์เน็ต ตรงนี้ลดลงได้ น่าจะได้มาอีกเดือนละ 2,000
ไอ่สิวกะจัดฟัน เลิกไปซะ ตัวเองยังจะเอาไม่รอดยังจะห่วงหล่ออีก 3,000 รวมเป็น 5,000
เอาไปจ่ายหนี้บัตรเครดิต ให้มันเกินขั้นต่ำซะ มัวแต่จ่ายขั้นต่ำกี่ชาติจะหมด
แนะนำพร้อมคำเตือน เชื่อก็ดี ไม่เชื่อก็สุดแต่เวรแต่กรรม
น้ำ ไฟ มือถือ อินเตอร์เน็ต ตรงนี้ลดลงได้ น่าจะได้มาอีกเดือนละ 2,000
ไอ่สิวกะจัดฟัน เลิกไปซะ ตัวเองยังจะเอาไม่รอดยังจะห่วงหล่ออีก 3,000 รวมเป็น 5,000
เอาไปจ่ายหนี้บัตรเครดิต ให้มันเกินขั้นต่ำซะ มัวแต่จ่ายขั้นต่ำกี่ชาติจะหมด
แนะนำพร้อมคำเตือน เชื่อก็ดี ไม่เชื่อก็สุดแต่เวรแต่กรรม
ความคิดเห็นที่ 34
อ่านแล้วเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ
ลองดูครับ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ปรับเปลี่ยนความคิด และการใช้ชีวิตของตัวเองซะก่อน
ต่อไปจะใช้อะไรก็อยากให้คิดว่า "ตอนนี้เราจน แถมยังเป็นหนี้นะ สิ่งนี้มันจำเป็นจริงๆหรือเปล่า หรือว่ามีอย่างอื่นที่ถูกกว่านี้ไหม"
สุดท้ายก็พยายามเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
ยกตัวอย่าง
เพิ่มรายได้ ถอดหัวโขนแล้วหางานอื่นทำ อย่าหมิ่นเงินน้อย
- มีเวลาว่างก็ขายของ Online ลงทุนน้อย แรกๆ ก็ลองพวก pre order ดู ว่างๆก็ไปคุยกับพวกร้านขายส่ง ต่างๆ ถ่ายรูปมาลงเวป
- ขายของตามตลาดนัด อาจจะซื้อของตามสำเพ็งมาขายก็ได้ ต้นทุนไม่สูงมาก
- ขายของกิน
- ขายตรง - ขายประกัน (ส่วนตัวไม่ชอบพวกนี้) แต่ว่ามันก็มีโอกาสสร้างรายได้
- อื่นๆ ตามคนอื่นแนะนำ
ลดรายจ่าย ลองดูประเด็นที่เห็นในกระทู้ดู
เรื่องจัดฟันนี่มันต้องไปทุกเดือนจริง ๆ ครับเดือนละ 1,000 บาท จะพยายามไป 2 เดือนครั้ง เพื่อลดภาระช่วงแรก ๆ ไปก่อนแล้วกันนะครับ
- ค่าทำฟันถ้าเป็นผมคงต้องปรึกษาหมอก่อนเลยว่า จะทำอย่างไรดี หรือขอย้ายไปที่โรงบาลรัฐได้ไหมรอนานหน่อยแต่ประหยัดกว่า (ยกเว้นคุณมีงานพิเศษทำที่คุ้มกับเวลาที่เสียไป) สมมุติจากเดือนละ 1,000 เหลือ 500 เท่ากับคุณมีเงินที่จะจ่ายหนี้ได้เพิ่มปีละ 6,000 บาท
ส่วนเรื่องสิวนี่ ผมจะพยายามใช้ของที่ถูกที่สุดและดีที่สุดแล้วกันครับ
- มันจำเป็นจริงๆหรือเปล่า สำหรับฐานะของเราในตอนนี้ อย่าคิดว่าแค่เดือนละ 1,000 บาท ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าคุณไม่หาหมอสิวเลยคุณจะประหยัดไปได้ปีละ 12,000 บาท
ส่วนเรื่องค่าโทรศัพท์ ปกติจ่ายรายเดือน 539 อ่าครับ น่าจะต้องลดโปรหรือไม่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเติมเงินและจะพยายามไม่โทรเกินโปร คงช่วยได้สวนหนึ่งครับ ค่าอินเตอร์เน็ตนี่ จำเป็นต้องใช้ทำงานจริง ๆ ครับ เลยยังตัดไม่ได้อ่าครับ
- ค่าอินเตอร์เน็ต ก็ใช้โปรโมชั่นโทรศัพท์ แบบใช้เน็ตแบบอัลลิมิต แชร์เข้าคอมพิวเตอร์ไป ช้าหน่อย แต่ว่าจะประหยัดค่าอินเตอร์เน็ต สมมุติว่าอินเตอร์เน็ตเดือนละ 599 เท่ากับคุณมีเงินที่จะจ่ายหนี้ได้เพิ่มปีละ 7,188 บาท
ค่าน้ำและค่าไฟ ตรงนี้ค่อนข้างเยอะอ่าครับ เพราะที่บ้านอยู่กันสองคนพี่ชาย ผมต้องรับภาระตรงนี้หมด ค่าไฟเดือนนึงจะค่อนข้างเยอะอ่าครับ ซึ่งอยู่ด้วยกันสองคนจผมก็พยายามประหยัดในส่วนของผมให้ได้มากที่สุดอ่าครับแอร์ก็ไม่ได้เปิดนอนนะครับ โทรทัศน์ก็ไม่ค่อยดู ส่วนพี่ชายผมก็ไม่กล้าว่าอะไรเค้า ก็แล้วแต่เค้าอ่าครับไม่อยากทะเลาะกัน แต่เดือนนึงตกประมาณ 1,500 บาท
- ทำไมคุณถึงรับภาระตรงนี้คนเดียวล่ะครับ ทำไมไม่ลองจับเข่าคุยกับพี่ชายดูล่ะ ว่าตอนนี้เราเป็นหนี้อยู่นะ ผมว่าถึงเราประหยัดอยู่ฝ่ายเดียวก็เหนื่อยนะ ถ้าอีกคนไม่ประหยัดด้วย หรือค่าไฟลองหาร 2 ดู หรือไม่ก็ต้องช่ายกันประหยัด เท่ากับค่าใช้จ่ายคุณจะลดไปครึ่งหนึ่ง เท่ากับคุณจะจ่ายหนี้เพิ่มขึ้น 9,000 บาท
ยกตัวอย่างเท่านี้เท่ากับว่าคุณจะสามารถใช้หนี้ได้เพิ่มปีละ 34,188 บาท++ โดยสามารถประหยัดตรงดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายไปได้อีก
ลองดูครับ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ปรับเปลี่ยนความคิด และการใช้ชีวิตของตัวเองซะก่อน
ต่อไปจะใช้อะไรก็อยากให้คิดว่า "ตอนนี้เราจน แถมยังเป็นหนี้นะ สิ่งนี้มันจำเป็นจริงๆหรือเปล่า หรือว่ามีอย่างอื่นที่ถูกกว่านี้ไหม"
สุดท้ายก็พยายามเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
ยกตัวอย่าง
เพิ่มรายได้ ถอดหัวโขนแล้วหางานอื่นทำ อย่าหมิ่นเงินน้อย
- มีเวลาว่างก็ขายของ Online ลงทุนน้อย แรกๆ ก็ลองพวก pre order ดู ว่างๆก็ไปคุยกับพวกร้านขายส่ง ต่างๆ ถ่ายรูปมาลงเวป
- ขายของตามตลาดนัด อาจจะซื้อของตามสำเพ็งมาขายก็ได้ ต้นทุนไม่สูงมาก
- ขายของกิน
- ขายตรง - ขายประกัน (ส่วนตัวไม่ชอบพวกนี้) แต่ว่ามันก็มีโอกาสสร้างรายได้
- อื่นๆ ตามคนอื่นแนะนำ
ลดรายจ่าย ลองดูประเด็นที่เห็นในกระทู้ดู
เรื่องจัดฟันนี่มันต้องไปทุกเดือนจริง ๆ ครับเดือนละ 1,000 บาท จะพยายามไป 2 เดือนครั้ง เพื่อลดภาระช่วงแรก ๆ ไปก่อนแล้วกันนะครับ
- ค่าทำฟันถ้าเป็นผมคงต้องปรึกษาหมอก่อนเลยว่า จะทำอย่างไรดี หรือขอย้ายไปที่โรงบาลรัฐได้ไหมรอนานหน่อยแต่ประหยัดกว่า (ยกเว้นคุณมีงานพิเศษทำที่คุ้มกับเวลาที่เสียไป) สมมุติจากเดือนละ 1,000 เหลือ 500 เท่ากับคุณมีเงินที่จะจ่ายหนี้ได้เพิ่มปีละ 6,000 บาท
ส่วนเรื่องสิวนี่ ผมจะพยายามใช้ของที่ถูกที่สุดและดีที่สุดแล้วกันครับ
- มันจำเป็นจริงๆหรือเปล่า สำหรับฐานะของเราในตอนนี้ อย่าคิดว่าแค่เดือนละ 1,000 บาท ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าคุณไม่หาหมอสิวเลยคุณจะประหยัดไปได้ปีละ 12,000 บาท
ส่วนเรื่องค่าโทรศัพท์ ปกติจ่ายรายเดือน 539 อ่าครับ น่าจะต้องลดโปรหรือไม่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเติมเงินและจะพยายามไม่โทรเกินโปร คงช่วยได้สวนหนึ่งครับ ค่าอินเตอร์เน็ตนี่ จำเป็นต้องใช้ทำงานจริง ๆ ครับ เลยยังตัดไม่ได้อ่าครับ
- ค่าอินเตอร์เน็ต ก็ใช้โปรโมชั่นโทรศัพท์ แบบใช้เน็ตแบบอัลลิมิต แชร์เข้าคอมพิวเตอร์ไป ช้าหน่อย แต่ว่าจะประหยัดค่าอินเตอร์เน็ต สมมุติว่าอินเตอร์เน็ตเดือนละ 599 เท่ากับคุณมีเงินที่จะจ่ายหนี้ได้เพิ่มปีละ 7,188 บาท
ค่าน้ำและค่าไฟ ตรงนี้ค่อนข้างเยอะอ่าครับ เพราะที่บ้านอยู่กันสองคนพี่ชาย ผมต้องรับภาระตรงนี้หมด ค่าไฟเดือนนึงจะค่อนข้างเยอะอ่าครับ ซึ่งอยู่ด้วยกันสองคนจผมก็พยายามประหยัดในส่วนของผมให้ได้มากที่สุดอ่าครับแอร์ก็ไม่ได้เปิดนอนนะครับ โทรทัศน์ก็ไม่ค่อยดู ส่วนพี่ชายผมก็ไม่กล้าว่าอะไรเค้า ก็แล้วแต่เค้าอ่าครับไม่อยากทะเลาะกัน แต่เดือนนึงตกประมาณ 1,500 บาท
- ทำไมคุณถึงรับภาระตรงนี้คนเดียวล่ะครับ ทำไมไม่ลองจับเข่าคุยกับพี่ชายดูล่ะ ว่าตอนนี้เราเป็นหนี้อยู่นะ ผมว่าถึงเราประหยัดอยู่ฝ่ายเดียวก็เหนื่อยนะ ถ้าอีกคนไม่ประหยัดด้วย หรือค่าไฟลองหาร 2 ดู หรือไม่ก็ต้องช่ายกันประหยัด เท่ากับค่าใช้จ่ายคุณจะลดไปครึ่งหนึ่ง เท่ากับคุณจะจ่ายหนี้เพิ่มขึ้น 9,000 บาท
ยกตัวอย่างเท่านี้เท่ากับว่าคุณจะสามารถใช้หนี้ได้เพิ่มปีละ 34,188 บาท++ โดยสามารถประหยัดตรงดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายไปได้อีก
แสดงความคิดเห็น
ทำงานมนุษย์เงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาท/เดือน กับหนี้บัตรเครดิตเกือบ 200,000 จะจัดการกับมันยังไงดีครับ
เงินเดือนประมาณ 19,000 บาท หยุดเสาร์-อาทิตย์ ทำงานเลิกประมาณ 18.00 น.
หนี้บัตรที่ต้องผ่อนต่อเดือนขั้นต่ำประมาณ 9,000 บาท ณ ปัจจุบันนะครับ (ซึ่งตอนนี้คงเหลือหนี้อีกประมาณ 100,000 กว่าบาท)
หนี้สหกรณ์ที่ออฟฟิชประมาณต่อเดือนประมาณ 7,000 บาท (เป็นเงินออมสหกรณ์ปกติเดือนละ 500 บาท + เงินกู้ฉุกเฉินผ่อนเดือนละประมาณ 4,300 บาท ซึ่งอีกสามเดือนหมดครับ+เงินกู้สามัญเดือนละ 2010 บาท อีก 50 งวดหมดครับ T_T) **
ค่าประกันสังคม ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าอินเตอร์เน็ต อีกประมาณ 3,500 บาท
ค่าหาหมอสิว ค่า คสอ. ค่าทำฟัน อีกประมาณ 3,000 บาท ครับ
แค่นี้เงินเดือนก็หมดแล้วครับ ยังเหลือค่าเดินทาง ค่ากิน ค่านู้นค่านี่อีก เห้อ ชีวิต ก็เลยก็กดบัตรที่ผ่อนไปมาใช้ใหม่ มันวนกันแบบนี้ทุกเดือนเลยไม่รู้เมื่อไหร่จะใช้หนี้หมดอ่าครับ T_T
**ซึ่งตรงนี้ผมคิดอยู่ว่าจะกู้ใหม่เมื่อผ่อนครบ 1 ปีอ่าครับ ซึ่งใกล้จะครบกำหนดแล้ว หนี้เก่าที่เหลืออยู่ประมาณ 80000 กว่าบาท ซึ่งหนี้เก่าก็หนี้บัตรล้วน ๆ อ่าครับ กะว่าจะกู้ใหม่สักประมาณ 180,000 บาทครับ หักกับหนี้เก่า ผมก็จะได้มีเงินไปใช้หนี้บัตรเครดิตที่ค้างอยู่ประมาณ 100,000 บาทพอดี ด้วยที่ดอกเบี้ยถูกกว่า ตกร้อยละ 7.5 ต่อปี
ไม่ทราบว่าแนวคิดการจัดการหนี้ผมแบบนี้จะถูกต้องหรือปล่าวอ่าครับ ซึ่งผมอยากให้หนี้ 180,000 นี้หายไปไว ๆ ด้วย ผมต้องหารายได้เสริมทางอื่นด้วยใช่ไหมครับ พอจะมีท่านไหนแนะนำบ้างครับ งานเสริมสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราทำอะไรได้บ้างอ่าครับ ตอนนี้เครียดจริง ๆ เพราะช่วงระหว่าง 2-3 เดือนนี้ กว่าจะครบรอบกู้ใหม่ได้ ก็แทบจะกินแกลบกันเลยทีเดียวครับ แล้วหลังจากกู้ใหม่มาโปะหนี้เก่าได้แล้ว จะพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ใช้เงินอย่างรัดกุมมากกว่าเดิมครับ ยอมรับเลยก่อนหน้านี้ใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก สำนึกแล้วจริง ๆ T_T