โจรเย้ยผวจ.อุดรฯ ย่องเข้าจวนฉลุย ฉกกุญแจรถ 5 คัน



ล่าโจรแสบย่องเข้าจวน ผวจ.อุดรธานี ฉกกุญแจรถหรู 5 คัน ทั้งที่มีเวรยามแน่น และอาวุธครบมือ "เสนีย์" ฉุน ถามตำรวจ ขนาดจวนผู้ว่าฯ ยังโดน แล้วบ้านเรือนประชาชนจะเป็นอย่างไร...

เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคนร้ายบุกเข้าไปลักทรัพย์ เป็นกุญแจรถหรู จำนวน 5 คัน ในเขตจวนผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ตอนช่วงหัวค่ำ เวลาประมาณ 18.30 - 21.30 น. ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ว่าราชการจังหวัดและคนขับรถออกไปทำธุระส่วนตัวข้างนอก แต่มีเจ้าหน้าที่ อส.เข้าเวรอยู่ประตูด้านหน้าและด้านข้าง พร้อมอาวุธประจำกายครบมือ รวมทั้งหมด 4 นาย


โดยเหตุการณ์อุกอาจครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อประมาณ 21.30 น. วันที่ 15 ก.พ. ขณะที่ พ.ต.ท.ธนาเดช พิทักษ์ชลเดช พงส.ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์ในเขตจวนผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เลขที่ 17 ถ.มุขมนตรี ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบตามลำดับ ก่อนรุดตรวจสอบ พร้อมด้วยตำรวจปราบปราม ตำรวจสืบสวน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุพบรอยรองเท้า คาดว่าเป็นรอยรองเท้าของคนร้ายที่ปีนเข้า-ออก ตรงบริเวณด้านหลังบ้านพักเจ้าหน้าที่ อส. ซึ่งเชื่อมติดกับด้านข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไป มีกุญแจรถหรู จำนวนทั้งหมด 5 คัน ประกอบด้วย
กุญแจรถยนต์ยี่ห้อแลนด์โรเวอร์ อีวูค สีเทา หมายเลขทะเบียน ฆฬ-11 กทม. v
กุญแจรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ อีคลาส สีเทา  หมายเลขทะเบียน ขท-11 กทม.
กุญแจรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว ซี่รี่ 5  สีเทา หมายเลขทะเบียน ขล-111 กทม.  
กุญแจรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้าคัมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กก-5 อุดรธานี
และกุญแจรถตู้ยี่ห้อโฟล์ค คาราเวลล์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฮต-33 กทม.
โดยกุญแจทั้งหมดวางอยู่บนพานทองหน้าตู้กระจก ภายในห้องนอนของคนขับรถ และ อส.ที่ดูแลความปลอดภัยอยู่


หลังเกิดเหตุ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผวจ.อุดรธานี สั่งการให้ข้าราชการ และพลเรือนผู้ที่เข้านอกออกในจวน และผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกว่า 70 คน ทยอยเข้าตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือของคนร้าย ที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บไว้ ตรงบริเวณขอบหน้าต่างห้องเก็บของ และลูกบิดประตูห้องนอนของเจ้าหน้าที่ อส.

หลังเกิดเหตุ นายเสนีย์ กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นคืนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้ามาในจวนผู้ว่าฯ เอากุญแจรถยนต์ซึ่งได้จอดอยู่ภายในจวน และรถยนต์ของกาชาด แต่คนร้ายได้เลือกเอาเพียงไป 5 คัน เพราะว่าเป็นกุญแจรถยนต์หรู ซึ่งหนึ่งในรถยนต์ 5 คันนี้ เป็นกุญแจรถยนต์ของผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยที่ได้ฝากจอดไว้ที่จวนผู้ว่าฯ ส่วนอีก 4 คันนั้นเป็นรถยนต์ส่วนตัวของตนเอง ภรรยา ลูกชาย และลูกสาว ซึ่งในช่วงเกิดเหตุนั้นตนไม่ได้อยู่ที่จวนผู้ว่าฯ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ อส.เข้าเวรอยู่ แต่คนร้ายได้เข้ามาทางข้างหลังของจวนผู้ว่าฯ


ผวจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า จากการที่ตำรวจได้มาตรวจสอบ อาจจะเป็นพวกที่ไม่ทราบ หรือทราบว่าเป็นจวนผู้ว่าฯ ซึ่งอยู่ที่การสืบสวน ส่วนข้อเท็จจริงในคืนวันนั้น ก็มีตลาดถนนคนเดินบริเวณ ถ.อธิบดี หน้าศาลากลาง ซึ่งก็ไม่ห่างจากจวนผู้ว่าฯ ทำให้มีผู้คนจำนวนมาก และก็ยังมีงานอุดรเลิฟ มิวสิก บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ วันนั้นก็มีเสียงอะไรดังเยอะมาก และคนร้ายที่เข้ามานั้นก็ได้เอากุญแจรถ ซึ่งก็เป็นช่วงจังหวะที่ตนนั้นเข้ามาในจวนพอดี ทำให้คนร้ายได้รีบปีนออกไป ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกล้องวงจรปิด และก็พอที่จะทราบตัวแล้ว

นายเสนีย์ เปิดเผยต่อว่า ตนก็ไม่ได้กดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งให้ทำงานไปตามขั้นตอน ก็ขอเพียงแต่ว่าคนร้ายเอากุญแจรถยนต์ไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ก็อยากจะฝากไว้ว่า ขนาดบ้านพักผู้ว่าฯ ซึ่งมีเวรยามอยู่อย่างหนาแน่น แต่ก็ยังมีคนร้ายเข้ามาเอากุญแจรถยนต์ไปได้ และถ้าหากเป็นบ้านเรือนประชาชนล่ะ ซึ่งตนนั้นก็ห่วงประชาชนมากกว่า ก็อยากจะขอให้ทางตำรวจเน้นตรวจตราความปลอดภัยบ้านเรือนของประชาชน และหากเกิดเหตุเช่นนี้บ่อยครั้ง ก็ไม่มีความเป็นสวัสดิภาพ และความสงบสุขแก่ประชาชน ก็ขอฝากกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ด้วย

------------------------