http://news.mthai.com/hot-news/310220.html
โครงการ รับจำนำข้าว เป็นนโยบายหาเสียงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามในการเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554 ด้วยการประกาศ “รับซื้อข้าวทุกเม็ด” ในราคาสูงกว่าราคาตลาด โดยข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ 15,000 บาทต่อตัน และข้าวเปลือกหอมมะลิ 20,000 บาทต่อตัน หวังโกยคะแนนเสียงจากชาวนา 5.7 ล้านครัวเรือน แต่ไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับคนทั้งประเทศ
รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าการจำนำข้าวที่สูงกว่าราคาตลาดจะเป็นตัวฉุดดึงราคาข่าวในประเทศให้สูงขึ้น เพราะมองว่าประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก แต่ผลลัพธ์ทกลับตรงข้ามกับสิ่งที่รัฐบาลพูด จนนำไปสู่หายนะ เพราะการบิดเบือนราคามากเกินไป ทำให้ต้นทุนข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่ง ผู้นำเข้าต่างหนีไปซื้อข้าวจากเวียดนาม กัมพูชา และอินเดียที่มีราคาต่ำกว่า
สุดท้าย ข้าวไทยขายได้น้อยลงมาก รัฐบาลต้องเก็บสต็อคเอาไว้นานเป็นปี จนข้าวเน่า ข้าวเสีย ข้าวเสื่อมคุณภาพ และต้องระบายราคาต่ำ เมื่อรัฐบาลอยู่ในสภาพหลังพิงฝา ไม่สามารถระบายข้าวออกไปต่างประเทศ จึงมีการมั่วตัวเลขการขายข้าวจีทูจี โดยคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อ้างว่า กระทรวงพาณิชย์จัดทำสัญญาขายข้าวแบบจีทูจีแล้ว 7,320,000 ล้านตันกับอินโดนีเซีย จีน และโกตติวัวร์ โดยในเดือน ม.ค.-ก.ย. 2555 มีการส่งมอบแล้ว 1,460,000 ล้านตัน แต่ตัวเลขกรมศุลกากร ปรากฏว่ามีใบขนส่งข้าวออกไปจริงเพียง 649,000 ตัน และรัฐบาลจีนออกมายืนยันว่ายังไม่เคยตกลงซื้อข้าวจากไทย
จำนำข้าว ทำไมชาวนาถึงยังไม่ได้เงิน ?
โครงการ รับจำนำข้าว เป็นนโยบายหาเสียงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามในการเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554 ด้วยการประกาศ “รับซื้อข้าวทุกเม็ด” ในราคาสูงกว่าราคาตลาด โดยข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ 15,000 บาทต่อตัน และข้าวเปลือกหอมมะลิ 20,000 บาทต่อตัน หวังโกยคะแนนเสียงจากชาวนา 5.7 ล้านครัวเรือน แต่ไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับคนทั้งประเทศ
รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าการจำนำข้าวที่สูงกว่าราคาตลาดจะเป็นตัวฉุดดึงราคาข่าวในประเทศให้สูงขึ้น เพราะมองว่าประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก แต่ผลลัพธ์ทกลับตรงข้ามกับสิ่งที่รัฐบาลพูด จนนำไปสู่หายนะ เพราะการบิดเบือนราคามากเกินไป ทำให้ต้นทุนข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่ง ผู้นำเข้าต่างหนีไปซื้อข้าวจากเวียดนาม กัมพูชา และอินเดียที่มีราคาต่ำกว่า
สุดท้าย ข้าวไทยขายได้น้อยลงมาก รัฐบาลต้องเก็บสต็อคเอาไว้นานเป็นปี จนข้าวเน่า ข้าวเสีย ข้าวเสื่อมคุณภาพ และต้องระบายราคาต่ำ เมื่อรัฐบาลอยู่ในสภาพหลังพิงฝา ไม่สามารถระบายข้าวออกไปต่างประเทศ จึงมีการมั่วตัวเลขการขายข้าวจีทูจี โดยคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อ้างว่า กระทรวงพาณิชย์จัดทำสัญญาขายข้าวแบบจีทูจีแล้ว 7,320,000 ล้านตันกับอินโดนีเซีย จีน และโกตติวัวร์ โดยในเดือน ม.ค.-ก.ย. 2555 มีการส่งมอบแล้ว 1,460,000 ล้านตัน แต่ตัวเลขกรมศุลกากร ปรากฏว่ามีใบขนส่งข้าวออกไปจริงเพียง 649,000 ตัน และรัฐบาลจีนออกมายืนยันว่ายังไม่เคยตกลงซื้อข้าวจากไทย