จากเกมส์ช่วงชิงอำนาจที่ยื้อมาเป็นเวลาหลายเดือนของพลพรรคประชาธิปัตย์ที่สิงสถิตย์ในร่างทรง ม็อบกปปส. (ตามความเห็นของกูรูทางการเมืองฝ่ายต่างๆ) โหมกระหน่ำทำให้ก่อนหน้านี้มีไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ที่เล่นเอากองเชียร์ฝ่ายรัฐบาลเพื่อไทยใจหายใจคว่ำ นึกว่ารัฐบาลไปแน่ๆ แต่จนแล้วจนรอดจวบจนกระทั่งทุกวันนี้ กำนันเทือกถึงกับเปรยบนเวทีว่าประเมินปูต่ำไป ปูด้านกว่าที่คิด ปูอดทนกว่าที่คิดไว้ ในท่วงทำนองจังหวะกำลังใจของมวลชนก็แผ่วลงทุกขณะ อย่างไม่มีทีท่าว่าอาการจะดีขึ้นอย่างไร อาจจะเป็นจริงดังคำกล่าวของพวกเดียวกันที่ฟิวส์ขาดด่ากำนันว่า โง่!! ไปก่อนหน้านี้ตอนที่มวลชนพีคสุดมาหลายแสนคน เจอมุขตำรวจมอบดอกกุหลาบ แถมปรบมือให้กำลังใจ ม็อบไม่ทำอะไรเดินเอ๋อ ออกมาแบบงงๆ ไม่เผด็จศึก ในขณะที่มีการประกาศชัยชนะของแกนนำอย่างครึกโครมบนเวที (แต่ลึกๆในใจของผู้ชุมนุมต่างก็รู้ว่ามันไม่ใช่การชนะ)
จนถึงปัจจุบัน ยุทธศาสตร์เรียกแขก ก็ถูกงัดมาใช้ปรับเปลี่ยน พลิกแพลงจนหลังๆ แขกเบื่อหน่ายเลิกอุปทานหมู่ไปหมดแล้ว แม้กระทั่งล่าสุด "โครงการจากผู้ดีดาวน์เกรดสู่ชาวนาผู้ยากไร้" หลังจากจุดแล้วไฟกลับมอดไวกว่าที่คิดไว้มาก ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นร่างทรงเองที่ถูกรัฐบาลเพื่อไทยเดินเกมส์ต้อนอย่างรู้ตัวเมื่อสาย มวลชนร่อยหรอ เกมส์เรียกกระแสโหนกระแสใช้พร่ำเพื่อ ท่อน้ำเลี้ยงก็อุดตัน เดินขอทานก็คงอีกไม่นานจบ อำนาจพิเศษก็ไม่ใช่จะใช้ได้บ่อยๆ บวกกับความเดือดร้อนของคนกรุงฯ ที่อิหนาระอาใจ
เมื่อมองไปยังเป้าหมายกับความหวังที่จะมีช่องโหว่ไปนั่งบนเก้าอี้แห่งอำนาจ มันริบหรี่ยิ่งกว่าแสงไฟปลายอุโมงค์ แต่เป็นแสงหิ่งห้อยน้อยหลายตัวในถ่ำมากกว่า ไม่รู้จะเดินตามหิ่งห้อยตัวไหนดี
มันทำให้คิดว่ามวลชนในวันที่มากสุดยังทำอะไรไม่ได้ หรือกลับไม่ยอมทำอะไร ไฉนเลยขะหวังว่ามวลชนจะออกมามากเท่าเดิมตามคำพูดของนักวิชาการท่านหนึ่งว่า "ชั่วชีวิตผม คงไม่ได้เห็นมวลชนออกมามากขนาดนี้แล้ว" แน่นอน ถ้ามวลชนไม่ออกมามากเท่าเดิมหรือมากกว่าเก่าแล้ว ยังไงเสียก็โดนกระแสสังคมตราหน้าว่า "คนเขาไม่เอาด้วยแล้ว" หรือพวกเบื่อหมดแล้ว หาความชอบธรรม ตีกินกับคำว่า"มวลมหาประชาชน"ไม่ได้แล้ว
สุดท้าย... คงได้แต่วิงวอนอำนาจพิเศษเท่านั้น
ที่กำลังถูกเพ่งเล็งจากสังคมไทยและสังคมโลก ชนิดอยากจะบอกกับกำนันกลับว่า "กรูก็ยังเอาตัวไม่รอด"
...........ยื้อเพราะหมดปัญญา............
กำนันสารภาพหมดปัญญาที่จะกำจัดปู !!
จนถึงปัจจุบัน ยุทธศาสตร์เรียกแขก ก็ถูกงัดมาใช้ปรับเปลี่ยน พลิกแพลงจนหลังๆ แขกเบื่อหน่ายเลิกอุปทานหมู่ไปหมดแล้ว แม้กระทั่งล่าสุด "โครงการจากผู้ดีดาวน์เกรดสู่ชาวนาผู้ยากไร้" หลังจากจุดแล้วไฟกลับมอดไวกว่าที่คิดไว้มาก ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นร่างทรงเองที่ถูกรัฐบาลเพื่อไทยเดินเกมส์ต้อนอย่างรู้ตัวเมื่อสาย มวลชนร่อยหรอ เกมส์เรียกกระแสโหนกระแสใช้พร่ำเพื่อ ท่อน้ำเลี้ยงก็อุดตัน เดินขอทานก็คงอีกไม่นานจบ อำนาจพิเศษก็ไม่ใช่จะใช้ได้บ่อยๆ บวกกับความเดือดร้อนของคนกรุงฯ ที่อิหนาระอาใจ
เมื่อมองไปยังเป้าหมายกับความหวังที่จะมีช่องโหว่ไปนั่งบนเก้าอี้แห่งอำนาจ มันริบหรี่ยิ่งกว่าแสงไฟปลายอุโมงค์ แต่เป็นแสงหิ่งห้อยน้อยหลายตัวในถ่ำมากกว่า ไม่รู้จะเดินตามหิ่งห้อยตัวไหนดี
มันทำให้คิดว่ามวลชนในวันที่มากสุดยังทำอะไรไม่ได้ หรือกลับไม่ยอมทำอะไร ไฉนเลยขะหวังว่ามวลชนจะออกมามากเท่าเดิมตามคำพูดของนักวิชาการท่านหนึ่งว่า "ชั่วชีวิตผม คงไม่ได้เห็นมวลชนออกมามากขนาดนี้แล้ว" แน่นอน ถ้ามวลชนไม่ออกมามากเท่าเดิมหรือมากกว่าเก่าแล้ว ยังไงเสียก็โดนกระแสสังคมตราหน้าว่า "คนเขาไม่เอาด้วยแล้ว" หรือพวกเบื่อหมดแล้ว หาความชอบธรรม ตีกินกับคำว่า"มวลมหาประชาชน"ไม่ได้แล้ว
สุดท้าย... คงได้แต่วิงวอนอำนาจพิเศษเท่านั้น
ที่กำลังถูกเพ่งเล็งจากสังคมไทยและสังคมโลก ชนิดอยากจะบอกกับกำนันกลับว่า "กรูก็ยังเอาตัวไม่รอด"
...........ยื้อเพราะหมดปัญญา............