ศรีสะเกษ - ชาวนาดับอีก 1 เครียดไม่ได้เงินจำนำข้าว ผูกคอตายดับอนาถใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้าน นับเป็นชาวนาคนที่ 2 ของ จ.ศรีสะเกษที่ผูกคอตายเพราะสาเหตุเดียวกัน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (13 ก.พ.) นายวินัย จิบทอง ผู้ใหญ่บ้านโนนคำแก้ว ม.9 ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุคนผูกคอตายเสียชีวิตที่ใต้ต้นมะม่วง หน้าบ้านเลขที่ 20 ม.9 บ้านโนนคำแก้ว จึงได้รีบไปตรวจสอบและพบร่างของนายแพง สารวัน อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ใช้เชือกไนลอนสีแดงผูกคอตนเองกับต้นมะม่วงลิ้นจุกปาก จึงได้ร่วมกับชาวบ้านนำเอามีดไปตัดเชือกที่ผูกคอออกแล้วพากันนำร่างของผู้เสียชีวิตลงมา จากนั้นได้พยายามปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตของนายแพ แต่ว่าไม่สามารถที่จะช่วยชีวิตได้
จากการสอบถาม นายฉวี รัตนวัน อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 488 ม.9 บ้านโนนคำแก้ว ซึ่งพบศพเป็นคนแรก กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังเดินผ่านหน้าบ้านของนายแพง พบว่า นายแพงนั่งอยู่บนขอนไม้แดงใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้าน มีเชือกสีแดงผูกคออยู่และนายแพงอยู่ในสภาพลิ้นจุกปาก ตนจึงได้รีบร้องตะโกนบอกเพื่อนบ้านและแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้รีบมาช่วยกันนำเอาร่างของนายแพงลงมา แต่พบว่านายแพงได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งปกตินายแพงเป็นคนอัธยาศัยดี แต่ระยะหลังจะบ่นกับตนว่าไม่ได้เงินจำนำข้าวมาใช้จ่ายในครอบครัวและใช้หนี้ แต่ไม่คาดว่านายแพงจะคิดสั้นผูกคอตาย
นางรำไพ สอนจันทร์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่บ้านโนนคำแก้ว ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ตายและอยู่บ้านหลังเดียวกันที่ยังสร้างไม่เสร็จกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ช่วงเช้าของวันนี้ ลูกชายของตนคือ ด.ช.อรรถชัย สอนจันทร์ อายุ 14 ปี เรียนอยู่ที่ ร.ร.กันทรลักษ์วิทยา อ.กันทรลักษ์ และเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ได้เข้ามาบอกตนกับนายแพง ซึ่งเป็นตาว่าต้องซ้อมฟุตบอลที่โรงเรียนเลิกค่ำทุกวัน และไม่มีรถกลับบ้าน เนื่องจากว่ารถรับส่งนักเรียนจะออกมาจากโรงเรียนก่อน
ส่วนรถ จยย.ที่อยู่ในบ้านก็เก่ามากไม่สามารถที่จะขับขี่ไปไกลๆ ได้ นายแพงบอกว่า หากเงินประทวนข้าวจำนวน 80,000 บาทออกแล้วจะซื้อรถจักรยานยนต์ให้หลานใหม่ อีกทั้ง น.ส.บุษบาพร สอนจันทร์ อายุ 18 ปี ลูกสาวของตนอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหลานสาวของนายแพงที่นายแพงรักมาก กำลังเรียนพยาบาลอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี แจ้งให้นายแพงทราบว่าจะต้องจ่ายเงินค่าเทอมจำนวน 10,000 บาทเศษภายในวันที่ 28 ก.พ. 57 หากไม่เช่นนั้นอาจจะต้องถูกให้หยุดเรียน ซึ่งนายแพงต้องการให้หลานสาวคนนี้เรียนจบออกมาเป็นพยาบาล จึงได้ไปหาเงินมาส่งเสียอย่างเต็มที่ ส่วนหลานอีก 1 คนเรียนอยู่ชั้น ม.6 ร.ร.กันทรลักษ์วิทยา ซึ่งแต่ละวันต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 300 บาททุกวัน
นางรำไพกล่าวด้วยน้ำตาต่อไปว่า อีกทั้งยังมีปัญหาหนี้สินในครอบครัวด้วย โดยตนเป็นหนี้ ธ.ก.ส.จำนวน 300,000 บาท และนายแพงกู้เงินมาจากสหกรณ์การเกษตร อ.กันทรลักษ์ อีกจำนวน 70,000 บาท รวมหนี้สินในบ้านจำนวนทั้งสิ้น 370,000 บาท เพื่อนำเอามาใช้ในครอบครัวและสร้างบ้านรวมทั้งให้ลูกหลาน 4 คนเรียนหนังสือด้วย จากนั้นนายแพงได้เดินออกจากบ้านไปหาซื้อของกินภายในหมู่บ้านด้วยอาการที่ค่อนข้างเครียดจัด จากนั้นพบว่านายแพงได้ผูกคอตายหน้าบ้านของตนเองที่ยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งต่อไปตนจะต้องรับภาระในการส่งเสียลูกหลานเพียงคนเดียวซึ่งเป็นภาระที่หนักมากทีเดียว
นายวินัย จิบทอง ผู้ใหญ่บ้านโนนคำแก้ว ม.9 ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ช่วงเช้าของวันนี้เวลาประมาณ 08.10 น. ตนกำลังจะเดินทางเข้าไปติดต่องานที่ อ.กันทรลักษ์ นายแพงซึ่งเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ของตนคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหาตนที่บ้าน และได้ใช้เท้าเตะที่ก้นของตนเบาๆ 1 ครั้ง พร้อมทั้งถามว่า ผู้ใหญ่บ้านเมื่อไหร่จะได้เงินประทวนข้าว ตนก็ตอบไปว่าให้รอฟังข่าวเพราะว่ารัฐบาลกำลังหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาทั่วประเทศ
จากนั้นนายแพงได้เดินออกจากบ้านของตนไป และต่อมาไม่ถึง 1 ชม.ตนก็ได้รับทราบข่าวว่านายแพงผูกคอตายเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากเครียดที่ไม่ได้รับเงินจำนำข้าวที่ไปจำนำข้าวเอาไว้จำนวน 80,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายแพง สารวัน นับว่าเป็นชาวนา จ.ศรีสะเกษ คนที่สองที่ผูกคอตายเนื่องจากเครียดไม่ได้รับเงินจำนำข้าว โดยรายแรกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.21 ต.อาวอย อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งผูกคอตายเสียชีวิตเมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. 57 ที่ผ่านมา
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000017428
ชาวนาศรีสะเกษดับอีก 1 เครียดไม่ได้เงินจำนำข้าว
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (13 ก.พ.) นายวินัย จิบทอง ผู้ใหญ่บ้านโนนคำแก้ว ม.9 ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุคนผูกคอตายเสียชีวิตที่ใต้ต้นมะม่วง หน้าบ้านเลขที่ 20 ม.9 บ้านโนนคำแก้ว จึงได้รีบไปตรวจสอบและพบร่างของนายแพง สารวัน อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ใช้เชือกไนลอนสีแดงผูกคอตนเองกับต้นมะม่วงลิ้นจุกปาก จึงได้ร่วมกับชาวบ้านนำเอามีดไปตัดเชือกที่ผูกคอออกแล้วพากันนำร่างของผู้เสียชีวิตลงมา จากนั้นได้พยายามปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตของนายแพ แต่ว่าไม่สามารถที่จะช่วยชีวิตได้
จากการสอบถาม นายฉวี รัตนวัน อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 488 ม.9 บ้านโนนคำแก้ว ซึ่งพบศพเป็นคนแรก กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังเดินผ่านหน้าบ้านของนายแพง พบว่า นายแพงนั่งอยู่บนขอนไม้แดงใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้าน มีเชือกสีแดงผูกคออยู่และนายแพงอยู่ในสภาพลิ้นจุกปาก ตนจึงได้รีบร้องตะโกนบอกเพื่อนบ้านและแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้รีบมาช่วยกันนำเอาร่างของนายแพงลงมา แต่พบว่านายแพงได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งปกตินายแพงเป็นคนอัธยาศัยดี แต่ระยะหลังจะบ่นกับตนว่าไม่ได้เงินจำนำข้าวมาใช้จ่ายในครอบครัวและใช้หนี้ แต่ไม่คาดว่านายแพงจะคิดสั้นผูกคอตาย
นางรำไพ สอนจันทร์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่บ้านโนนคำแก้ว ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ตายและอยู่บ้านหลังเดียวกันที่ยังสร้างไม่เสร็จกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ช่วงเช้าของวันนี้ ลูกชายของตนคือ ด.ช.อรรถชัย สอนจันทร์ อายุ 14 ปี เรียนอยู่ที่ ร.ร.กันทรลักษ์วิทยา อ.กันทรลักษ์ และเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ได้เข้ามาบอกตนกับนายแพง ซึ่งเป็นตาว่าต้องซ้อมฟุตบอลที่โรงเรียนเลิกค่ำทุกวัน และไม่มีรถกลับบ้าน เนื่องจากว่ารถรับส่งนักเรียนจะออกมาจากโรงเรียนก่อน
ส่วนรถ จยย.ที่อยู่ในบ้านก็เก่ามากไม่สามารถที่จะขับขี่ไปไกลๆ ได้ นายแพงบอกว่า หากเงินประทวนข้าวจำนวน 80,000 บาทออกแล้วจะซื้อรถจักรยานยนต์ให้หลานใหม่ อีกทั้ง น.ส.บุษบาพร สอนจันทร์ อายุ 18 ปี ลูกสาวของตนอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหลานสาวของนายแพงที่นายแพงรักมาก กำลังเรียนพยาบาลอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี แจ้งให้นายแพงทราบว่าจะต้องจ่ายเงินค่าเทอมจำนวน 10,000 บาทเศษภายในวันที่ 28 ก.พ. 57 หากไม่เช่นนั้นอาจจะต้องถูกให้หยุดเรียน ซึ่งนายแพงต้องการให้หลานสาวคนนี้เรียนจบออกมาเป็นพยาบาล จึงได้ไปหาเงินมาส่งเสียอย่างเต็มที่ ส่วนหลานอีก 1 คนเรียนอยู่ชั้น ม.6 ร.ร.กันทรลักษ์วิทยา ซึ่งแต่ละวันต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 300 บาททุกวัน
นางรำไพกล่าวด้วยน้ำตาต่อไปว่า อีกทั้งยังมีปัญหาหนี้สินในครอบครัวด้วย โดยตนเป็นหนี้ ธ.ก.ส.จำนวน 300,000 บาท และนายแพงกู้เงินมาจากสหกรณ์การเกษตร อ.กันทรลักษ์ อีกจำนวน 70,000 บาท รวมหนี้สินในบ้านจำนวนทั้งสิ้น 370,000 บาท เพื่อนำเอามาใช้ในครอบครัวและสร้างบ้านรวมทั้งให้ลูกหลาน 4 คนเรียนหนังสือด้วย จากนั้นนายแพงได้เดินออกจากบ้านไปหาซื้อของกินภายในหมู่บ้านด้วยอาการที่ค่อนข้างเครียดจัด จากนั้นพบว่านายแพงได้ผูกคอตายหน้าบ้านของตนเองที่ยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งต่อไปตนจะต้องรับภาระในการส่งเสียลูกหลานเพียงคนเดียวซึ่งเป็นภาระที่หนักมากทีเดียว
นายวินัย จิบทอง ผู้ใหญ่บ้านโนนคำแก้ว ม.9 ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ช่วงเช้าของวันนี้เวลาประมาณ 08.10 น. ตนกำลังจะเดินทางเข้าไปติดต่องานที่ อ.กันทรลักษ์ นายแพงซึ่งเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ของตนคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหาตนที่บ้าน และได้ใช้เท้าเตะที่ก้นของตนเบาๆ 1 ครั้ง พร้อมทั้งถามว่า ผู้ใหญ่บ้านเมื่อไหร่จะได้เงินประทวนข้าว ตนก็ตอบไปว่าให้รอฟังข่าวเพราะว่ารัฐบาลกำลังหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาทั่วประเทศ
จากนั้นนายแพงได้เดินออกจากบ้านของตนไป และต่อมาไม่ถึง 1 ชม.ตนก็ได้รับทราบข่าวว่านายแพงผูกคอตายเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากเครียดที่ไม่ได้รับเงินจำนำข้าวที่ไปจำนำข้าวเอาไว้จำนวน 80,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายแพง สารวัน นับว่าเป็นชาวนา จ.ศรีสะเกษ คนที่สองที่ผูกคอตายเนื่องจากเครียดไม่ได้รับเงินจำนำข้าว โดยรายแรกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.21 ต.อาวอย อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งผูกคอตายเสียชีวิตเมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. 57 ที่ผ่านมา
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000017428