How to Powerful Makeup มาเปลี่ยนลุกค์ด้วยเมคอัพกันค่ะ

สวัสดีวันวาเลนไทน์ค่าาา ทุกคน

ไม่ได้เจอกันนานเลย วันนี้เป็นโอกาสดีได้เอา How to มาลงพันทิปบ้างนะคะ
ฝากเนื้อฝากตัวสำหรับผู้ที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกด้วยค่ะ
เจ้าของกระทู้ชื่อ"จูน"ค่ะ
แวะเวียนมาเล่น Pantip นานๆครั้ง แต่มาด้วยความตั้งใจทำตลอดนะคะ อิอิ


ครั้งนี้มาพบกันแบบจัดเต็มมาก มีทั้งแต่งหน้า ทำผม
ใครที่กลางวันต้องแต่งหน้าเรียบร้อย แต่ตอนเย็นมีปาร์ตี้ต่อ
รับรองว่ากระทู้นี้เอาอยู่แน่นอนค่ะ  ไปชมกันเลยยย ยิ้ม



สำหรับการแต่งหน้าครั้งนี้จูนจะมาเห่อ Naked 3 กันซะหน่อย คิดว่าสาวๆหลายคนน่าจะมีกันแล้ว
ใครมีก็นำมาแต่งตามได้เลย แต่ถ้าใครไม่มี ก็ลองหาสีที่ใกล้เคียงกันดูน๊า ^_^

ลงภาพทำร้ายตัวเองกันก่อน T^T



เครื่องสำอางที่ใช้ในครั้งนี้

1. Benefit the porefessional primer
2. รองพื้นและคอนซีลเลอร์ Make up for ever
3.ที่เขียนคิ้ว Etude , illamasqua peek eyebrow cake
4. อายชาโดว์ Urban Decay Naked 3 Palette , Kate shiny jelly eyes  GD-1
5. Eyeliner Cosluxe สีน้ำตาลเข้ม ,L.A. Girl glide gel liner – GP358 metallic copper
6. ZA – Perfect action mascara
7. ไฮไลท์  Urban Decay Naked illuminated
8. บอร์นเซอร์ The body shop brush on bronze
9. Benefit posie tint
10. Wet n wild 902C Bare it all , 970 Purty persimmon
11. Lime crime velvetines red velvet
13. Heavy rotation enamel gloss 03
14. คอนแทกเลนส์ 1-Day Acuvue Define Contact Lens (Vivid style)

มาเริ่มกันเลยจ้า

_________________________

เริ่มจากทากันแดด และลงเบสหรือไพรเมอร์เพื่อปรับสภาพผิว จากนั้นเราจะใช้เทคนิคการลงรองพื้นหลายเฉดสี
เพื่อสร้างแสงเงากัน ช่วงนี้ฝรั่งฮิตเทคนิคนี้มากๆ แต่จะบอกว่าแต่งหน้าเจ้าสาวของไทย ก็ใช้เทคนิคนี้กันมามานานแล้ว
เอาล่ะ ด้วยสภาพเบ้าหน้าที่แบนมากๆของเรา เทคนิคนี้ก็ถือว่าเหมาะมาก
เพราะเวลาแต่งเสร็จแล้ว หน้าจะดูมีมิติ ดั่งโด่งหน้าเรียวได้ดั่งใจเลย เค้าล้อเล่น

วิธีการลงรองพื้น สำหรับสร้างมิติให้ใบหน้า เหมาะสำหรับแต่งหน้าไปงาน หรือวันสำคัญ
ถ้าวันธรรมดา เปลี่ยนเป็นการลงรองพื้นแบบธรรมดาแทนนะคะ จะได้ไม่หนักผิวจนเกินไปค่ะ


ให้ลงสีที่อ่อนกว่าผิวประมาณ 2 เบอร์ ลงที่ส่วนกลางหน้า บริเวณที่อยากให้ดูโดดเด้ง เช่นหน้าแก้ม สันจมูก หน้าผาก คาง
จากนั้นลงสีรองพื้นเบอร์เดียวผิวข้างๆสีแรกและตามด้วยสีเข้มกว่าผิว 2 เบอร์ที่กรอบหน้า กราม ปีกจมูก
จากนั้นก็เบลนด้วยฟองน้ำชุปน้ำหมาดๆ การใช้ 3 สีจะช่วยให้เราเบลนได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่เวลาลงรองพื้น ให้ลงที่ละส่วนของใบหน้านะคะ

ในรูปสาธิตให้ดูเฉยๆนะ ถ้าลงทั้งหน้าแบบนี้ เกลี่ยลำบาก เกลี่ยไม่ทัน รองพื้นแห้งขึ้นเป็นเส้นรอยขีดๆ  งานพังเลยหน่ะจ๊ะ



เบลนรองพื้นเสร็จแล้ว ตามด้วยบลัชครีมเพื่อให้สีติดทนทานทั้งวัน
แล้วเซ็ตด้วยแป้งฝุ่นให้ทั่วใบหน้าเลยจ้า



การเขียนคิ้ว

1. ใช้ดินสอเขียนคิ้วร่างเส้นคิ้วช่วงใต้ท้องคิ้วไปจนถึงหางคิ้ว
2. นำพู่กันหัวตัดระบายสีคิ้วด้วยอายชาโดว์หรือที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นสีน้ำตาลเข้มระบายเป็นเส้นทับรอยดินสอให้เส้นคมมากยิ่งขึ้น
3-4. ใช้แปรงอันเดิมไม่ต้องเติมสี ค่อยๆระบายให้ทั่วคิ้ว หากรู้สึกว่าสีไม่เข้มพอ ค่อยๆเติมทีละนิดนะคะ
5. นำดินสอเขียนคิ้วแบบเมจิก วาดเส้นคิ้วที่ขาดหายไป ให้ดูเป็นเส้นคล้ายขนคิ้วจริง
6. นำมาสคาร่าคิ้ว หรือมาสคาร่าธรรมดามาปัดขนคิ้วให้เรียงเส้นปัดขึ้นเล็กน้อยให้ดูขนคิ้วฟูๆ
7. เก็บรายละเอียดที่ใต้ท้องคิ้วด้วยคอนซีลเลอร์ให้ใต้คิ้วคม
เสร็จแล้วจ้า!

เคล็ดลับ*
- ช่วงนี้นิยมคิ้วค่อนข้างตรง หักโค้งที่กลางคิ้วนิดๆ ทรงคิ้วเป็นทรงธรรมชาติ-หนา
- การเขียนแบบนี้ให้ระวังอย่าใช้สีเข้มและอย่าหนักมือเกินไป จะทำให้คิ้วหนาเกิน ดูเป็นชินจังได้นะคะ
- ถ้าใช้มาสคาร่าธรรมดามาปัดคิ้ว ให้ซับด้วยทิชชู่ก่อนปัด ขนคิ้วจะได้เรียงเส้นไม่ติดกันเป็นก้อน ไม่เลอะผิว
- ท้องคิ้วคม ส่วนขอบบนฟุ้ง จะได้คิ้วที่เนี๊ยบแต่ก็ยังเป็นธรรมชาติ
- หัวคิ้วต้องหนากว่าหางคิ้วเสมอ ไม่งั้นโครงหน้าจะดูผิดสัดส่วน
- หางคิ้วต้องเข้มกว่าหัวคิ้วเสมอ ไม่งั้นจะดูตลกและไม่เป็นธรรมชาติ





ต่อไปเป็นการแต่งตาค่ะ

การแต่งตาในครั้งนี้ไม่เน้นสีเข้มเพราะจูนทำรีวิวขนตาไว้ด้วยจ้ะ ทาเข้มมากไปเดี๋ยวมองไม่เห็นขนตานะตัวเอง 5555
1. ลงไพรเมอร์ที่เปลือกตา จากนั้นลงสีขาว(Strange) ที่ใต้คิ้ว ตามด้วยสี Trick ที่เปลือกตา เกลี่ยให้ฟุ้ง
2. ใช้สี Nooner ลงช่วงหางตา เบลนสีให้กลมกลืนกับสีแรก
3. ใช้แปรงหัวพุ่มหัวเล็กเกลี่ยสี Nooner ที่หางตาเป็นรูป > ให้ฟุ้งนวลๆ
4. เขียนขอบตาบนและล่างด้วยอายไลเนอร์แบบดินสอ เกลี่ยด้วยคอตตอลบัดให้เนียนเป็นธรรมชาติ
5. เขียนหัวตาด้วย L.A. Girl glide gel liner – GP358
6.ปัดมาสคาร่าทั้งบนและล่าง จากนั้นติดขนตาปลอมตามชอบค่ะ



จูนไม่ได้เติมสีบลัชออนแบบฝุ่นนะคะ เพราะอยากได้ลุกค์ที่ผิวออกบ่มแดดนิดๆ
เหมือนมีเลือดฝากออกมาจากข้างในผิวมากกว่าสีที่ชัดเจน จึงใช้บอร์นเซอน์ปัดแทนบลัชไปเลยค่ะ
จากนั้นปัดไฮไลท์ที่โหนกแก้มเบาๆ



ทาลิปสติกแบบปากแวววาวน่าจุ๊บ
ลง Wet n wild 902C Bare it all จากนั้นตามด้วยกรอส Heavy rotation enamel gloss 03ให้ทั่วริมฝีปาก



เสร็จแล้วววว



ในรูปนี้ยังไม่ได้ติดขนตานะคะ



สีตาซอล์ฟๆ และมีชิมเมอร์ให้ตาดูสดใส
ติดขนตาปลอมเข้าไปอีกนิด ช่วยให้เมพอัพดูเต็มขึ้นได้ โดยไม่ต้องแต่งตาเข้ม
ขนตา CHOICE รุ่น NS23 เบอร์ SED17



เมื่อติดขนตาหนาขึ้น ก็ให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป



ขนตาหลายแบบทำให้รูปตาดูแตกต่างกัน
ในรูปเป็นขนตายี่ห้อ Choice นะคะ พอดีเพิ่งได้ยี่ห้อนี้มาเล่น ก็เลยลองติดให้ดูหลายๆแบบค่ะ




_________________________________________



มีสาวๆหลายคน ที่บางวันต้องไปงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ศรีสยามต่อ
เราจะมาเพิ่มการอัพลุกค์ด้วยการคัดเบ้าที่เข้มขึ้น และฟาดสีแดงลงไปที่ปากเลยค่ะ

1.ใช้แปรงทรงพุ่มแตะสี Blackheart แล้วลงที่หางตา เบลนให้สีฟุ้งออกด้านข้างและเนียนไปกับสีเดิม
2.  ใช้แปรงพุ่มหัวเล็กแตะสีเดิม แล้วนำมาเบลนที่ขอบตาช่วงหางตามากลางตา ให้ตาดูคมเข้มขึ้น
3. แตะชิมเมอร์ Kate shiny jelly eyes  GD-1 ลงไปที่กลางเปลือกตาเยอะๆ ตาจะได้โดดเด่นเมื่อต้องแสงไฟ
รูปนี้จูนใช้ขนตา CHOICE รุ่น NS25

บลิ้งค์ๆๆๆ >,<



จากนั้นทาปากด้วยสีแดงเป็นพื้นก่อน แล้วแตะสีส้มสดทับเบาๆที่กลางริมฝีปากอีกครั้ง เม้มปากเพื่อให้สีกลมกลืนกัน
จูนใช้คอตตอนบัด เกลี่ยนบริเวณขอบปาก ไม่ให้ขอบปากดูคมมากเกินไป จะได้ริมฝีปากแดงที่ดูสวยแบบไม่เนี๊ยบ ไม่เป็นทางการเกินไป

การทาปากแบบเต็มขอบปาก ได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 50



ดวงตาโดนเด่น ริมฝีปากแดง ผมเก็บเข้าทรงได้กลิ่นอายแฟชั่นสไตล์แกสบี้



สวยแน่น สวยนาน สวยลืมมมม

(ลืมไปเลยความสวย ถ้าล้างหน้าออกนะ ฮาๆๆๆ)



ทาลิปสีแดงไม่ได้ทำให้ดูแรง ถ้าคุณมีรอยยิ้มบนใบหน้าอยู่เสมอ



_____________________________________

สุดท้ายแล้วสำหรับเรื่องทรงผม

ครั้งนี้เป็นการเก็บผมยาว ให้ดูคล้ายผมบ๊อบสั้นๆ ช่วยให้คอดูยาวขึ้น ทำอะไรก็สะดวกด้วย อยู่ในปาร์ตี้ไม่ต้องกลัวผมเสียทรง
ก่อนทำให้ม้วนผมด้วยแกนม้วนไฟฟ้าแบบม้วนเข้าหาตัวนะคะ จะช่วยให้อยู่ทรงมากขึ้นจ้า
1-2.แบ่งผมเป็น 2 ช่อ
3. ถักเปีย 3 แล้วมัดด้วยหนังยางเส้นเล็ก



4-6.ค่อยๆดึงผมจากช่อออกมา ให้มีลอนเปียขนาดใหญ่ขึ้น



ค่อยๆใช้มือขมวดช่อเปียม้วนเป็นวงกลม โดยม้วนเข้าด้านใน จากนั้นใช้กิ๊บดำเหน็บเก็บช่อผมให้แน่น
และพยายามซ่อนกิ๊บดำให้ได้มากที่สุด จะดูเนียนมากยิ่งขึ้นค่ะ



ทำอีกด้านด้วยวิธีการเดียวกัน



เช็คความเรียบร้อยด้านหลัง โดยการใช้หวีช่วยหวีให้ผมเรียบ และดึงปอยผมออกให้ผมด้านหลังหลวมเล็กน้อย
จะช่วยให้ปิดรอยแสกของช่อผมที่เราแบ่งไว้ตอนแรกได้ค่ะ



เสร็จแล้ว จากผมยาวเป็นผมสั้น ไม่ต้องตัดผม ^_^



เป็นไงกันบ้างคะ ถูกใจกันไม๊เอ่ย
หวังว่าเพื่อนๆจะได้รับประโยชน์จากกระทู้นี้กันน๊า
ขอบคุณที่ติดตามชมมาถึงบรรทัดนี้ค่ะ (>__<)

แล้วเจอกันใหม่จ้า

Jelly Fat Fish


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่