จดหมายเปิดผนึกถึงท่านชัชชาติ .. ขออย่าเปลี่ยนแปลงระบบรถไฟไทยเลย

เรียน ท่านรัฐมนตรีชัชชาติ สิทธิพันธุ์

เนื่องด้วยท่านเป็นรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีและผู้คนทั่วไปเข้าถึงได้ ผมขอให้ท่านอย่าได้เปลี่ยนแปลงระบบรถไฟไทยเลย ด้วยเหตุใดผมจะกล่าวให้ฟัง

เนื่องจากผมมีความประทับใจรถไฟไทยตั้งแต่เกิด ผมเคยใช้บริการมาตั้งแต่เป็นเด็กที่จำความไม่ได้  จนกระทั่งโตจนได้ออกเรือนไปกับหญิงสาวคนหนึ่ง ตั้งแต่เด็กผมมีความผูกพันธ์กับรถไฟไทยมาก ผมได้ข่าวว่าท่านจริงจังมากกับการจะเปลี่ยนระบบการคมนาคมรวมถึงระบบรถไฟไทย

ผมขอเกริ่นนำก่อนว่าผมเป็นเด็กบ้านนอกอยู่แถวๆแหลมมลายู ที่เคยเป็นอาณาจักรตามพรลิงค์อันรุ่งโรจน์ในอดีต เมืองที่ผมอยู่มีสถานีรถไฟขนาดใหญ่ ที่เค้าเรียกๆกันว่า ชุมทาง เมืองที่ผมอยู่ปัจจุบันบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นอำเภอ ดันไปเรียกว่าเป็นจังหวัด แต่เอาเหอะเมืองมันใหญ่ใครๆเค้าก็เข้าใจผิดกัน

สมัยก่อนครอบครัวผมก็ยังไม่ได้มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย จะเดินทางเข้าเมืองหลวงก็ต้องนั่งรถไฟเข้าไป จะบินก็ไม่มีเงินมากพอ ก็สมัยก่อนเครื่องบินแพงจะตาย จะขับรถเข้าเมืองหลวงสมัยก่อนก็ยังเป็นถนนสองเลนไม่ปลอดภัย แถมมีคนขู่อีกว่าโจรเยอะ และสมัยเด็กๆ คุณครูเคยสอนว่า การเดินทางด้วยรถไฟปลอดภัยที่สุด

พูดถึงในเรื่องความปลอดภัย เด็กๆผมไม่ค่อยได้ยินข่าวรถไฟตกราง ปัจจุบันแม้จะมีข่าวตกรางอยู่บ้าง(ปีที่แล้วร้อยกว่าครั้งเอง) แต่ผมเชื่อว่าการโดยสารด้วยรถไฟไทยก็ยังปลอดภัยที่สุดดูสิตกรางแต่ละครั้ง คนนั่งเป็นอะไรที่ไหน ส่วนใหญ่ปลอดภัยเจ็บบ้างเล็กๆน้อยๆ จะมีเจ็บบ้างก็พวกที่ขับรถวิ่งฝ่าข้ามทางกั้นที่ ไม่ดูรถไฟ รู้ก็รู้ว่ามีรถไฟวิ่งบนรางยังขับรถมาให้รถไฟชนอีก หากจะโทษว่าเรื่องไฟสัญญาณ หรือที่กั้นรถไฟเสีย ได้โปรดอย่ามาบ่น  นี่เป็นความตั้งใจของ รฟท.​ที่จะฝึกให้คนขับรถมีสติ และได้ฝึกทักษะการมองและการฟัง ซ้ำยังได้ลุ้นในแต่ละครั้งที่ต้องขับรถบนถนนที่มีรางรถไฟพาดผ่าน  ดูสิขับข้ามทางรถไฟแต่ละครั้งได้ลุ้นจะตาย ไม่อย่างนั้นวันๆไม่ค่อยได้ลุ้นนอกจากตอนหวยออกกะตอนเมียมาเช็คมือถือ นอกจากนี้จะเป็นการลงโทษพวกแว๊นกับพวกเมาแล้วขับโดยไม่ต้องเปลืองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เค้าเหนื่อยด้วย

ในเรื่องของรางรถไฟ ทาง รฟท. ก็มีการปรับปรุงซ่อมแซมอยู่เป็นระยะเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ยกตัวอย่างที่ผ่านมาไม่นานช่วงที่มีการชุมนุมของม็อบในเมืองหลวงที่จะปิดเมืองหลวงวันที่ 13 มค. ที่ผ่านมา ก็เห็นว่า ทาง รฟท. ก็หยุดทำการซ่อมแซมสะพานเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารสายใต้วันที่ 11-14 มค. เห็นมะบอกแล้วว่าเค้าเห็นความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ

ในเรื่องของความหรูสุขสบายและความสะอาดในห้องโดยสารไม่ต้องพูดถึง เด็กๆผมจำได้ว่านั่งรถนอนที่เป็นพัดลม พอทางบ้านมีเงินมากขึ้นก็ได้นอนรถนอนปรับอากาศ นั่งก็สบายดีแอร์เย็น ระหว่างนั่งไปก็สังเกตุได้เลยว่า รฟท. เค้าดูแลสุขภาพผู้โดยสารไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลงให้ปนเปื้อนถึงผู้โดยสาร ดูสิมีแมลงสาบแมลงโน่นนี่นั้นมาวิ่งให้ดูเป็นระยะ … ขอร้องคุณอย่าบ่น มันก็เหมือนกินผักนั้นแหละถ้าเห็นหนอนแสดงว่าไม่มียาฆ่าแมลง นี่เค้าดูแลสุขภาพผู้โดยสารน่ะครับ เจอการ QC โดยแมลงอยู่เป็นระยะๆทั้งตู้พัดลมตู้แอร์ … นอกจากนี้จำได้ครั้งหนึ่งนั่งไปเมืองหลวง ไม่ได้ไปรถนอนเพราะมันเต็ม ก็นั่งเป็นรถเอนแอร์ (นั่งแบบรถทัวร์) รอบนั้นรถไฟเค้าก็ใจดีแถมน้ำหยดบนหัวมาตลอดทาง คงกลัวเราผมแห้ง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่คิดตังค์เพิ่มค่าน้ำที่มาเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับเส้นผมอีก .. ส่วนในเรื่องห้องน้ำทุกคนคงรู้ ว่าประทับใจแค่ไหนกับประสบการณ์การได้ขับถ่ายบนความเร็วเหนือพื้นดินพร้อมทิวทัศน์สองข้างทางบนสุขภัณฑ์โลหะเลอค่าที่ไม่สามารถหาใช้ได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำในไทย อีกอย่างได้ลุ้นด้วย ต้องขี้ให้เสร็จก่อนถึงสถานีไม่นั้นอาจโดยนายสถานีด่าได้

นอกจากนี้ทีเด็ดของ รถไฟไทยคือเรื่องของเวลา ผมจำได้ว่าตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยมีรอบไหนที่ รฟท. จะไม่เคยแถมเวลาให้ผมเลย จะมากบ้างน้อยบ้างก็ขึ้นกับความใจดีของคนขับรอบนั้นๆ ผมอาจจะโชคดีกว่าคนทั่วไปเนื่องจากผมต้องนั่งรถไฟค่อนข้างนาน ตามเวลาส่วนใหญ่ที่ขึ้นรถ ตารางรถมักออกหกโมงเย็น ถึงเมืองหลวงประมาณ 10.30 น. ของอีกวัน ใช้เวลารวมประมาณ 16 ชม. คงเหมือนว่าซื้อตั๋วเก็บไมค์นั่งไกลๆ เจ้าหน้าที่เค้าก็แถมเวลาให้ตลอด บางทีแถมให้ชั่วโมงนึง บางทีเคยแถมให้หกชั่วโมง เคยเล่าให้เพื่อนชาวต่างชาติฟัง เค้าบอกว่า amazing Thailand มากบอกว่า “ยูโชคดีมาก ไอนั่งเครื่องมาจากอเมริการ สิบแปดชั่วโมง ไอจ่ายไปเกือบ หกหมื่นบาท ที่นั่งก็แคบๆนอนไม่ได้ ยูได้นั่งรถ เกือบ 20 ชั่วโมง ราคาแค่พันเดียวเอง เราอิจฉายูจริงๆ ได้ดูวิวสวยๆตลอดทาง” ก็ขอขอบคุณ รฟท.ที่มีน้ำใจให้เสมอมา

นอกจากด้านการบริการด้านการโดยสารของผู้คน รฟท. ยังให้บริการขนส่งสินค้า ได้อย่างน่าประทับใจ เหตุการณ์เพิ่งเกิดมาไม่นานมานี้ เนื่องด้วยพี่สะใภ้ผมได้ส่งของจากหัวหินที่เป็นถิ่นมีหอยมาทางรถไฟตอนเย็นๆ ผมไปรอรับของตามเวลาตอนเช้าอีกวันตามเวลา สรุปว่าไม่มีของมาที่รับของ เนื่องจากทางรถไฟไทยได้หวังดีพาพัสดุของพี่สะใภ้ผมไปเที่ยวขอบชายแดนมาเลเซียก่อนแล้วค่อยตีรถกลับมาส่งอีกรอบในเวลากลางคืน โดยให้ผมไปรอรับจากรถไฟที่ตีวนกลับมาอีกรอบ (แน่นอนขากลับมาก็แถมเวลา late ไปอีก 4 ชม. จากตารางที่จะมาถึง) นอกจากจะแถมเวลาให้ผู้โดยสารบ่อยๆแล้วยังใจดีพาพัสดุไปเที่ยวนอกเหนือเส้นทางด้วย ไม่มีที่ไหนในโลกจะใจดีเท่า รฟท.​อีกแล้ว

อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ เจ้าหน้าที่ที่สถานีรถไฟที่ยังคงรักษาความเป็นไทยได้อย่างดี ด้วยมาตรฐานการทำงานของข้าราชการแบบ”ไทยๆ”

นอกจากนี้ในเรื่องของผู้โดยสารทาง รฟท. ได้ทำการกำจัดผู้โดยสารกลุ่มที่มีรายได้มากให้ออกไปจากการใช้บริการ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า รฟท. ทำยังไงให้กลุ่มคนพวกนี้หันไปใช้เครื่องบินกันหมด คนบางคนรายได้ไม่มากแต่เรื่องมากหน่อย ก็ไปนั่งรถทัวร์ VIP กันหมด ซึ่งผมเห็นด้วยกับนโยบายการสกรีนกลุ่มผู้โดยสารนี้ออกไป เนื่องจากกลุ่มคนที่มีรายได้มาก มักขี้บ่น นอนตื่นสาย เข้าห้องน้ำทีก็นาน แปรงฟันขัดฟัน ใส่คอนแทคเลนส์ นวดหน้า โกนหนวด ใช้อ่างน้ำหน้าห้องน้ำอย่างกับห้องน้ำหรูในโรงแรมห้าดาว ซึ่งปัจจุบันคนกลุ่มนี้ได้น้อยลงทำให้การใช้รถไฟของผู้โดยสารที่เหลือมีความสุขมากขึ้น ปัจจุบันพวกมีเงินมากๆก็เหลือแค่ผู้โดยสารต่างชาติที่ยังไม่เคยลิ้มลองประสบการณ์อันหฤหรรษ์บนรถไฟไทย เคยมีชางต่างชาตินั่งรถไฟมาบอกว่าประสบการณ์นั่งรถไฟไทยไอได้นั่งครั้งเดียวก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้ว เลยอยากเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ลิ้มลองบ้างไม่อยากเก็บความสุขไว้คนเดียว ก็เลยทิ้งตั๋วรถไฟขากลับที่ซื้อไว้แล้ว ไปซื้อตั๋วเครื่องบินขากลับแทน เพื่อการเสียสละความสุขให้คนอื่นบ้าง ระบบการศึกษาเมืองนอกเค้าสอนให้คนมีน้ำใจจริงๆ

จากที่กล่าวมาทั้งหมดคือความประทับใจของระบบรถไฟไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สรุปว่า ด้วยระบบที่ถูกวางมาตั้งแต่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2439 ได้หล่อหลอมองค์กรนี้ให้มีประสิทธิภาพทั้งใน ด้านระบบการจัดการ  เทคโนโลยีและบุคลากรอันทรงคุณค่า โดยสามารถรักษามาตรฐานการทำงาน ได้อย่างดีเยี่ยมเน้นการแจกแถมระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง และการบริการที่ทุกคนไม่มีวันลืมเลือนมาอย่างสม่ำเสมอยาวนาน ผมจึงอยากให้ท่านชัชชาติได้คงไว้ซึ่งคุณภาพการบริการให้ได้อย่างนี้ตลอดไป หากมีการเปลี่ยนแปลงระบบรถไฟไทย ผมเชื่อว่าข้อดีทุกอย่างที่ผมประทับใจจะต้องหายไปอย่างแน่นอน

ผมได้ยินคนหลายคนบ่นถึงการบริการของรถไฟไทยอย่างนู้นอย่างนี้ ผมอยากจะบอกว่าคนพวกนี้เป็นพวกมองโลกในแง่ร้าย ไม่มีความอดทน วัตถุนิยม อำมาตย์ ไพร่ ชายชุดดำ สลิ่ม ควายแดง ความเหลือง หรือไม่ก็เป็นพวกผู้โดยสารปลอม  ท่านก็รู้ว่าในสังคมแห่งการแก่งแย่ง ทำให้นิสัยคนมีแต่การจับผิด เด็กรุ่นใหม่ก็มีความอดทนต่ำ ขอให้ท่านอย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาเหล่านี้ พวกนี้มันเสียงส่วนน้อย

ผมขอจบจดหมายไว้แต่เพียงเท่านี้เนื่องจากรถไฟที่จะนำผมไปเมืองหลวงมาแล้ว หลังจากผมนั่งพิมพ์ที่สถานีรอรถที่มา late หลังตารางเวลาสองชั่วโมง

ด้วยความเคารพอย่างสูง
นายแดง ของดำ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ๊ใหญ่บริษัท AAV จำกัด มหาชน


ปล.เพื่อนๆที่ได้อ่านจดหมายเปิดผนึกนี้กรุณาให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริการที่น่าประทับใจของรถไฟไทยเพิ่มเติม และช่วยแชร์จดหมายฉบับนี้ให้ถึงท่านรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีด้วยเถิด เผื่อท่านเห็นแล้วจะได้หยุดความคิดที่จะมาทำลายเสน่ห์และการบริการอันดีเยี่ยมของรถไฟไทยในปัจจุบัน

----- แก้คำผิด -----
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่