ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวก่อนเลยว่ากระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาหลบหลู่ศาสนาความเชื่อแต่อย่างใด และไม่ได้ระบุศาสนาใดๆชัดเจนด้วย เพราะทุกศาสนาล้วนมีการอฐิษฐาน ขอพร (ถ้าเข้าใจผิดขออภัยด้วยครับ) แค่เกิดประเด็นนี้ขึ้นมาในหัวและครุ่นคิดอยู่หลายวัน เลยอยากเอามาแชร์ความคิดเห็น หรือถ้าได้ข้อเท็จจริงจากผู้รู้จริงก็จะเป็นวิทยาทานอันดีต่อไป

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เมื่อมีโอกาสไปทำบุญตามวัดต่างๆ ก็ไม่วายจะขอพรในสิ่งที่ปรารถนาอยู่เสมอ แต่โดยส่วนใหญ่จะไม่ได้ขออะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จะเป็นการขอให้ช่วยอวยพรมากกว่า เกือบทุกครั้งที่มีโอกาสไปกราบไหว้สิ่งศักสิทธิ์ต่างๆ จะในวัดก็ดี หรือสถานที่มงคลอื่นก็ดี ผมจะกล่าวกับองค์ท่านในใจ ด้วยใจความว่า ลูกรู้ว่ามีคนมาขอพรจากองค์ท่านมากมายเป็นแสนเป็นล้านคน ลูกคงไม่อาจริขอสิ่งใดๆได้ ได้เพียงแต่ให้ท่านช่วย "อวยพร" ให้พอเป็นมงคลแก่ชีวิต หรือแก่สิ่งที่มุ่งหวังก็คงเพียงพอแล้ว ...อะไรประมาณนี้ จะไม่ค่อยขอเป็นวัตถุ หรือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อะไรนัก เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำมาด้วยตนเอง

ทีนี้ก็เกิดข้อสงสัยขึ้นว่าเมื่อเราเริ่มต้นอฐิษฐานขอบางอย่างจากสิ่งศักสิทธิ์นั้นๆ คำขอเราจะมีวันหมดอายุไหม หรือระยะตัดใจยาวนานแค่ไหน แบบบางคนไม่อยากขอหลายที่ ขอที่นี่ไปแล้ว เขาบอกศักสิทธิ์มากเลยไม่ขอที่ไหนอีก กลัวซ้ำซ้อนแล้วคำขอจะไม่ขลัง จะต้องรอนานเท่าไหร่ให้ยอมรับได้ว่า เออ ไม่สมหวังหวะ

ยิ่งเราบนไว้ด้วย เพราะเราอยากได้มาก แต่แบบ สมมติ เราบนขอลูก แต่อีก 7 ปีต่อมาเมียเพิ่งท้อง เราจะถือว่านี่เป็นผลจากการบนไว้เมื่อ 7 ปีก่อนไหม จะกลับไปแก้บนหรือเปล่า หรือเกิดลืมไปแล้วว่าบนไว้ จะเกิดอาเพศอะไรไหม

เสริมขึ้นมาอีก หากบนไว้หลายที่ 7 ปีที่ผ่านมาบนบานขอลูกไว้หลายวัด หลายสำนัก จะวัดอย่างไรว่าเป็นเพราะองค์ไหน วัดจากที่บนบานไว้ล่าสุด หรือจะต้องย้อนไปแก้บนให้ครบตั้งแต่ 7 ปีก่อน

เชิญร่วมอภิปราย