ก่อนแจก ก็ต้อง...ตามธรรมเนียมขุนโจรป่าฯ
เมื่อครั้งขุนโจรป่าฯยังเป็นเด็ก...
คุณครูสาวนุ่งกระโปรงสั้นเต่อลายสก๊อตเข้าไปสอนนักเรียนชั้นมัธยม ระหว่างที่เธอกำลังยืดตัวจับชอล์คเขียนบนกระดานดำเธอก็ได้ยินเสียง
นักเรียนหัวเราะ เธอหันมาถาม “ขำอะไรรึ นนท์นที”
“กระโปรงครูเปิดครับ” นนท์นทีตอบ
“ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้ฉันพักการเรียนเธอ 3 วัน” ครูสาวสั่ง
ครูสาวหันไปเขียนกระดานดำต่อ มีเสียงหัวเราะอีก
เธอจึงหันมาถาม “ขำอะไรเหรอสมเฉ่ง”
“ผมเห็นขาอ่อนครูด้วยครับ” สมเฉ่งตอบ
“ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้ฉันพักการเรียนเธอ 3 สัปดาห์” ครูสาวสั่ง พร้อมหันไปเขียนกระดานดำต่อ
คราวนี้เธอทำแปลงลบกระดานตกจึงก้มตัวลงเก็บ
มีเสียงเฮดังลั่นจากนักเรียนทั้งชั้น เธอจึงหันมาถาม
“นี่พวกเธอเห็นอะไรกันอีกล่ะ” เด็กชายแหลม ค่อยๆลุกขึ้นยืนตอบ
“ที่พวกผมเห็นนี่ สงสัยคงต้องปิดโรงเรียนเลยล่ะครับ”
เมื่อตอนสายวันนี้ขุนโจรออกสำรวจป่าในละแวกใกล้เคียง
เหตุเพราะตอนเช้ามืดได้กลิ่นดอกไม้ชนิดหนึ่งหอมอบอวลมาไกลๆ
ดีใจมากที่เซ็นเซอร์รับกลิ่นกลับมาทำงานได้ตามปกติแล้ว
หลังจากจัดการกับต้นไม้ในป่าที่เป็นของขุนโจรเองเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาตามหาต้นกำเนิดกลิ่นอันแสนเย้ายวนให้หลงใหล
เดินตามหาอยู่พักใหญ่ เนื่องจากกลิ่นเริ่มจางลงเพราะแสงอาทิตย์เริ่มแรงขึ้น
จนได้มาเจอ...โอ...แม่เจ้าประคุณเอ๋ย ดอกดก มลังเมลือง เต็มต้นเลยเชียวนั่น
ยืนชมดมกลิ่นใต้ต้นเพลินใจอยู่...พลันสายตาเหลือบไปเห็นอะไรสักอย่าง
เขียวๆ แดงๆ ดำๆ เล่นล้อหลบใบที่พลิกไปมาตามสายลม เลยเกิดความสงสัย
มีลูกติดยังออกดอกอีกเชียวรึแม่คุณเอ๋ย...
ไล่สายตาดูก็ทำให้รู้ว่าเธอมีคู่แฝดยืนอยู่ห่างกันไม่ถึงวา
หลังจากเขย่ง...โน้มกิ่ง...ยื้อยุดฉุดอยู่พักใหญ่ๆก็ได้เหล่าลูกๆของเธอมาพอประมาณ
เธอคือสายหยุดนั่นเอง
"
สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้งเมื่อยามสาย
อีกนามกลายสาวหยุดสะดุดหา
ทั้งกล้วยเครือเสลาเพชรเม็ดงามตา
อีกนำพาเครือเขาแกลบแอบตะวัน
ถึงสายหยุดหยุดฟุ้งจรุงจิต
แต่งามพิศติดอยู่ในดวงใจฉัน
เฝ้าคิดถึงเจ้างอนงามทุกยามวัน
กลิ่นแก้มอันหอมสุดไม่หยุดคลาย...."
บทนำจากลิลิตตะเลงพ่าย ตอน พระมหาอุปราชารำพัน พระราชนิพนธ์เรื่อง 'เงาะป่า' ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
เมื่อขุนโจรป่าฯ หายป่วย....ก็ต้องแจก
ก่อนแจก ก็ต้อง...ตามธรรมเนียมขุนโจรป่าฯ
เมื่อครั้งขุนโจรป่าฯยังเป็นเด็ก...
คุณครูสาวนุ่งกระโปรงสั้นเต่อลายสก๊อตเข้าไปสอนนักเรียนชั้นมัธยม ระหว่างที่เธอกำลังยืดตัวจับชอล์คเขียนบนกระดานดำเธอก็ได้ยินเสียง
นักเรียนหัวเราะ เธอหันมาถาม “ขำอะไรรึ นนท์นที”
“กระโปรงครูเปิดครับ” นนท์นทีตอบ
“ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้ฉันพักการเรียนเธอ 3 วัน” ครูสาวสั่ง
ครูสาวหันไปเขียนกระดานดำต่อ มีเสียงหัวเราะอีก
เธอจึงหันมาถาม “ขำอะไรเหรอสมเฉ่ง”
“ผมเห็นขาอ่อนครูด้วยครับ” สมเฉ่งตอบ
“ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้ฉันพักการเรียนเธอ 3 สัปดาห์” ครูสาวสั่ง พร้อมหันไปเขียนกระดานดำต่อ
คราวนี้เธอทำแปลงลบกระดานตกจึงก้มตัวลงเก็บ
มีเสียงเฮดังลั่นจากนักเรียนทั้งชั้น เธอจึงหันมาถาม
“นี่พวกเธอเห็นอะไรกันอีกล่ะ” เด็กชายแหลม ค่อยๆลุกขึ้นยืนตอบ
“ที่พวกผมเห็นนี่ สงสัยคงต้องปิดโรงเรียนเลยล่ะครับ”
เหตุเพราะตอนเช้ามืดได้กลิ่นดอกไม้ชนิดหนึ่งหอมอบอวลมาไกลๆ
ดีใจมากที่เซ็นเซอร์รับกลิ่นกลับมาทำงานได้ตามปกติแล้ว
หลังจากจัดการกับต้นไม้ในป่าที่เป็นของขุนโจรเองเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาตามหาต้นกำเนิดกลิ่นอันแสนเย้ายวนให้หลงใหล
เดินตามหาอยู่พักใหญ่ เนื่องจากกลิ่นเริ่มจางลงเพราะแสงอาทิตย์เริ่มแรงขึ้น
จนได้มาเจอ...โอ...แม่เจ้าประคุณเอ๋ย ดอกดก มลังเมลือง เต็มต้นเลยเชียวนั่น
ยืนชมดมกลิ่นใต้ต้นเพลินใจอยู่...พลันสายตาเหลือบไปเห็นอะไรสักอย่าง
เขียวๆ แดงๆ ดำๆ เล่นล้อหลบใบที่พลิกไปมาตามสายลม เลยเกิดความสงสัย
มีลูกติดยังออกดอกอีกเชียวรึแม่คุณเอ๋ย...
ไล่สายตาดูก็ทำให้รู้ว่าเธอมีคู่แฝดยืนอยู่ห่างกันไม่ถึงวา
หลังจากเขย่ง...โน้มกิ่ง...ยื้อยุดฉุดอยู่พักใหญ่ๆก็ได้เหล่าลูกๆของเธอมาพอประมาณ
เธอคือสายหยุดนั่นเอง
"สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้งเมื่อยามสาย
อีกนามกลายสาวหยุดสะดุดหา
ทั้งกล้วยเครือเสลาเพชรเม็ดงามตา
อีกนำพาเครือเขาแกลบแอบตะวัน
ถึงสายหยุดหยุดฟุ้งจรุงจิต
แต่งามพิศติดอยู่ในดวงใจฉัน
เฝ้าคิดถึงเจ้างอนงามทุกยามวัน
กลิ่นแก้มอันหอมสุดไม่หยุดคลาย...."
บทนำจากลิลิตตะเลงพ่าย ตอน พระมหาอุปราชารำพัน พระราชนิพนธ์เรื่อง 'เงาะป่า' ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5