ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆนะคะ
จักรวาลเราใหญ่มาก แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถหาจุดสิ้นสุดได้ มีดาวฤกษ์บนจักรวาลหลายร้อยดวง และมีดาวเคราะห์ที่คล้ายกับโลกเราอีกนับไม่ถ้วน ด้วยเหตุว่าเรา ไม่คิดว่าโลกเราจะเป็นศูนย์กลาง หรือต้นกำเนิดใดๆของ จักรวาลได้ เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความสามัคคี ความสงบ ความเจริญปัญญา ในมนุษย์ยังมีสิ่งที่เป็นบาปอยู่มาก จากการศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ที่เคยกล่าวถึงจักรวาลว่ากว้างใหญ่ และยังมีสิ่งมีชีวิตนอกโลกอีก ตอนท่านนั่งสมาธิ
ถ้าให้พูดถึงโลก เราคิดว่า เราเพิ่งผ่านแค่เศษเสี่ยวของการกำเนิดมาแค่ไม่กี่ล้านล้านปีเท่านั้น กว่าเราจะค้นพบดาวดวงอื่นก็เพิ่งไม่กี่ร้อยปี พันปีเอง ในความคิดของเรา เราคิดว่า ดาวนอกโลกเค้าเกิดมานานหลายล้านล้านล้านล้านปีแสงแล้ว และมีความเจริญในทุกทาง มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายและเดินทางมาก (แบบที่พระพุทธเจ้าที่เดินทางในจิตได้) ถ้าในสายตาของมนุษย์ต่างดาว เค้าอาจเห็นเราเป็นสิ่งมีชีวิต(สัตว์เลี้ยง)ในดาวดวงนึง เหมือนที่เราเห็นสัตว์ในโลกเราเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆ ในสายตาสัตว์อาจคิดว่าเราเป็นมนุษย์(ต่างดาว)ที่เลี้ยงพวกเค้าก็ได้นะ 5555 คือสัตว์พวกนี้อาจยังไม่ได้กลายพันธุ์ที่ใช้เวลาหลายพันพันปี มามีความฉลาดแบบมนุษย์ก็ได้ และอดีตเมื่อหลายล้านปีเราอาจจะเกิดที่ดาวของเค้า แต่เราเป็นแค่(สัตว์)สิ่งมีชีวิตในดาวเค้าที่ยังไม่ฉลาดพอ และด้วยความเจริญเติบต่อของเค้า ทำให้เนื้อที่ในดาวเค้าไม่พอจะเก็บเราไว้ได้มาก เลยมาปล่อยเกราะ(โลกเรา) และเกิดเป็นลิง เป็นมนุษย์ยุคหิน ดึกดำบรรพ์ต่างๆ ก็ได้
จากความคิดเห็นส่วนตัวอีกเช่นกันนะคะ ที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า ข้าพเจ้าจะเกิดในโลกนี้เป็นครั้งสุดท้าย และข้าพเจ้าจะไม่กลับมาเกิดอีก นั้นคือนิพพาน เราคิดว่านิพพานนี้ หมายถึง มีความคิดความอ่านที่หลุดพ้นจากทุกสิ่งบนโลกนี้แล้ว และจะได้เลื่อนไปเกิดในดาวที่ห่างออกไป ที่ๆมีความคิดที่เจริญสติปัญญาชั้นสูงแบบท่าน ในที่แห่งนั้นอาจจะเต็มไปด้วยผู้ที่นิพพานไปแล้ว และการจะไปจุดนั้นก็ยากมาก และไม่สามารถ กลับมาบอกมนุษย์อย่างเราๆได้อีกด้วย หรืออาจคุยได้แต่กับผู้เจริญปัญญาที่พร้อมจะนิพพานเท่านั้นก็เป็นได้
สวรรค์ นรก ก็เหมือนกัน เราคิดว่ามันอาจหมายถึงดาวที่ห่างออกไป ที่เป็นที่อยู่ของคนทำดีที่ได้ขึ้นไปเกิดบนสวรรค์หาความสุข แต่ไม่ใช่นิพพาน และนรก ที่เป็นที่รับผลแห่งกรรมของตนเอง และโลกที่เป็นที่ปรับปรุงแก้ไข ชดใช้กรรม และโอกาส ในการเลือกทางเดินของตนก็เป็นได้ ถ้ายังไม่นิพพาน ก็ต้องวนเวียนใน 3 โลกนี้จนกว่าจะนิพพานไปนั้นเอง อีกกี่ชาติหละเนี้ย
กลับมาเรื่องมนุษย์ต่างดาว ที่เราไม่อาจหาหลักฐานของมนุษย์ต่างดาว หรืออาจมีแต่แทบไม่น่าเชื่อก็อาจเพราะ ความสามารถเค้ากะเราที่แตกต่างกัน สติ ปัญญา ที่ต่างกัน และเราอาจจะยังเป็นแค่สิ่งมีชีวิต ที่ยังไม่เจริญพอก็เป็นได้ และความจริงแล้วมนุษย์ต่างดาวอาจอยู่ร่วมกับเราและคอยสำรวจพฤติกรรมและสิ่งแปลกปลอม ไม่แน่คนที่ต่อต้านเรื่องมนุษย์ต่างดาวก็อาจจะเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ปลอมตัวมาเอง 55555 เพื่อเบี่ยงแบนให้เราไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ก็ได้
เพราะว่า เราคิดว่า มนุษย์ต่างดาวอาจเห็นว่าเรายังไม่พร้อมสำหรับความเหลือเชื่อต่างๆนาๆ และยังบูชาสิ่งแปลกประหลาด มนุษย์ต่างดาวเลยต้องปกปิดไว้กันความแตกตื่นก็เป็นได้ ความจริงแล้วอาจเพราะมันเป็นอันตรายต่อ ตัวเค้าถ้าเผยตัว เพราะอาจถูกนำไปทดลอง ฆ่า และอีกมากมาย การมาเยือนของ มนุษย์ต่างดาว เลยต้องถูกปกปิดไว้ และผู้ที่สามารถพบเห็น ยานต่างๆ ก็อาจมีความเจริญทางปัญญาในระดับนึง ที่ถ้าพัฒนาต่อไปอาจนิพพานได้ ก็ได้นะ
และดูๆแล้ว นอกโลกนี้ มีสิ่งนึงที่เราคิดว่าต่างจากโลกเราแน่ๆคือ เราคิดว่า เค้าหยุดสงครามในดาวเค้าแล้ว หยุดแตกแยกกันเองในดาวแล้ว และมีการจัดระเบียบในดวงดาวแล้วเช่นกัน เค้าจึงออกไปท่องเที่ยวนอกดาว และมีความสามารถพิเศษอีกมากมาย อย่างพวก แปลงร่าง หยุดเวลา เคลื่อนที่ด้วยพลังจิต
ฯลฯ
และมีดีก็ต้องมีเลว มนุษย์ต่างดาวที่ไม่ดีก็อาจมีนะ ที่เราคิด คือพวกที่มาจากนรก หรืออยู่ในขุมนรกต่างๆ หรือเป็นสัตว์ประหลาด อะไรพวกนี้ แต่เราว่าถ้ามี โลกเราคงวินาศแน่แล้วหละ ....
55555 เพ้อเจ้อมาซะยาว แต่เราไม่ได้เอามาจากหนังหรือนวนิยายไรนะ แค่ศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าแล้วเกิดความสงสัย เลยมโนเอง 5555
แต่ไงเราก็เชื่อเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลกนะ เพราะเชื่อว่าโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลอันใหญ่โพ้นนี้แน่ๆ และก็ไม่มีใครเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ก็มีแค่ดาว ดาว ดาว และดาว และสิ่งที่อยู่ในดาว.... ฟิ้วววววว ไปละ
Lommii
ความคิดเห็นนอกโลก มนุษย์ต่างดาวมีจริงรึไม่
จักรวาลเราใหญ่มาก แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถหาจุดสิ้นสุดได้ มีดาวฤกษ์บนจักรวาลหลายร้อยดวง และมีดาวเคราะห์ที่คล้ายกับโลกเราอีกนับไม่ถ้วน ด้วยเหตุว่าเรา ไม่คิดว่าโลกเราจะเป็นศูนย์กลาง หรือต้นกำเนิดใดๆของ จักรวาลได้ เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความสามัคคี ความสงบ ความเจริญปัญญา ในมนุษย์ยังมีสิ่งที่เป็นบาปอยู่มาก จากการศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ที่เคยกล่าวถึงจักรวาลว่ากว้างใหญ่ และยังมีสิ่งมีชีวิตนอกโลกอีก ตอนท่านนั่งสมาธิ
ถ้าให้พูดถึงโลก เราคิดว่า เราเพิ่งผ่านแค่เศษเสี่ยวของการกำเนิดมาแค่ไม่กี่ล้านล้านปีเท่านั้น กว่าเราจะค้นพบดาวดวงอื่นก็เพิ่งไม่กี่ร้อยปี พันปีเอง ในความคิดของเรา เราคิดว่า ดาวนอกโลกเค้าเกิดมานานหลายล้านล้านล้านล้านปีแสงแล้ว และมีความเจริญในทุกทาง มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายและเดินทางมาก (แบบที่พระพุทธเจ้าที่เดินทางในจิตได้) ถ้าในสายตาของมนุษย์ต่างดาว เค้าอาจเห็นเราเป็นสิ่งมีชีวิต(สัตว์เลี้ยง)ในดาวดวงนึง เหมือนที่เราเห็นสัตว์ในโลกเราเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆ ในสายตาสัตว์อาจคิดว่าเราเป็นมนุษย์(ต่างดาว)ที่เลี้ยงพวกเค้าก็ได้นะ 5555 คือสัตว์พวกนี้อาจยังไม่ได้กลายพันธุ์ที่ใช้เวลาหลายพันพันปี มามีความฉลาดแบบมนุษย์ก็ได้ และอดีตเมื่อหลายล้านปีเราอาจจะเกิดที่ดาวของเค้า แต่เราเป็นแค่(สัตว์)สิ่งมีชีวิตในดาวเค้าที่ยังไม่ฉลาดพอ และด้วยความเจริญเติบต่อของเค้า ทำให้เนื้อที่ในดาวเค้าไม่พอจะเก็บเราไว้ได้มาก เลยมาปล่อยเกราะ(โลกเรา) และเกิดเป็นลิง เป็นมนุษย์ยุคหิน ดึกดำบรรพ์ต่างๆ ก็ได้
จากความคิดเห็นส่วนตัวอีกเช่นกันนะคะ ที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า ข้าพเจ้าจะเกิดในโลกนี้เป็นครั้งสุดท้าย และข้าพเจ้าจะไม่กลับมาเกิดอีก นั้นคือนิพพาน เราคิดว่านิพพานนี้ หมายถึง มีความคิดความอ่านที่หลุดพ้นจากทุกสิ่งบนโลกนี้แล้ว และจะได้เลื่อนไปเกิดในดาวที่ห่างออกไป ที่ๆมีความคิดที่เจริญสติปัญญาชั้นสูงแบบท่าน ในที่แห่งนั้นอาจจะเต็มไปด้วยผู้ที่นิพพานไปแล้ว และการจะไปจุดนั้นก็ยากมาก และไม่สามารถ กลับมาบอกมนุษย์อย่างเราๆได้อีกด้วย หรืออาจคุยได้แต่กับผู้เจริญปัญญาที่พร้อมจะนิพพานเท่านั้นก็เป็นได้
สวรรค์ นรก ก็เหมือนกัน เราคิดว่ามันอาจหมายถึงดาวที่ห่างออกไป ที่เป็นที่อยู่ของคนทำดีที่ได้ขึ้นไปเกิดบนสวรรค์หาความสุข แต่ไม่ใช่นิพพาน และนรก ที่เป็นที่รับผลแห่งกรรมของตนเอง และโลกที่เป็นที่ปรับปรุงแก้ไข ชดใช้กรรม และโอกาส ในการเลือกทางเดินของตนก็เป็นได้ ถ้ายังไม่นิพพาน ก็ต้องวนเวียนใน 3 โลกนี้จนกว่าจะนิพพานไปนั้นเอง อีกกี่ชาติหละเนี้ย
กลับมาเรื่องมนุษย์ต่างดาว ที่เราไม่อาจหาหลักฐานของมนุษย์ต่างดาว หรืออาจมีแต่แทบไม่น่าเชื่อก็อาจเพราะ ความสามารถเค้ากะเราที่แตกต่างกัน สติ ปัญญา ที่ต่างกัน และเราอาจจะยังเป็นแค่สิ่งมีชีวิต ที่ยังไม่เจริญพอก็เป็นได้ และความจริงแล้วมนุษย์ต่างดาวอาจอยู่ร่วมกับเราและคอยสำรวจพฤติกรรมและสิ่งแปลกปลอม ไม่แน่คนที่ต่อต้านเรื่องมนุษย์ต่างดาวก็อาจจะเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ปลอมตัวมาเอง 55555 เพื่อเบี่ยงแบนให้เราไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ก็ได้
เพราะว่า เราคิดว่า มนุษย์ต่างดาวอาจเห็นว่าเรายังไม่พร้อมสำหรับความเหลือเชื่อต่างๆนาๆ และยังบูชาสิ่งแปลกประหลาด มนุษย์ต่างดาวเลยต้องปกปิดไว้กันความแตกตื่นก็เป็นได้ ความจริงแล้วอาจเพราะมันเป็นอันตรายต่อ ตัวเค้าถ้าเผยตัว เพราะอาจถูกนำไปทดลอง ฆ่า และอีกมากมาย การมาเยือนของ มนุษย์ต่างดาว เลยต้องถูกปกปิดไว้ และผู้ที่สามารถพบเห็น ยานต่างๆ ก็อาจมีความเจริญทางปัญญาในระดับนึง ที่ถ้าพัฒนาต่อไปอาจนิพพานได้ ก็ได้นะ
และดูๆแล้ว นอกโลกนี้ มีสิ่งนึงที่เราคิดว่าต่างจากโลกเราแน่ๆคือ เราคิดว่า เค้าหยุดสงครามในดาวเค้าแล้ว หยุดแตกแยกกันเองในดาวแล้ว และมีการจัดระเบียบในดวงดาวแล้วเช่นกัน เค้าจึงออกไปท่องเที่ยวนอกดาว และมีความสามารถพิเศษอีกมากมาย อย่างพวก แปลงร่าง หยุดเวลา เคลื่อนที่ด้วยพลังจิต
ฯลฯ
และมีดีก็ต้องมีเลว มนุษย์ต่างดาวที่ไม่ดีก็อาจมีนะ ที่เราคิด คือพวกที่มาจากนรก หรืออยู่ในขุมนรกต่างๆ หรือเป็นสัตว์ประหลาด อะไรพวกนี้ แต่เราว่าถ้ามี โลกเราคงวินาศแน่แล้วหละ ....
55555 เพ้อเจ้อมาซะยาว แต่เราไม่ได้เอามาจากหนังหรือนวนิยายไรนะ แค่ศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าแล้วเกิดความสงสัย เลยมโนเอง 5555
แต่ไงเราก็เชื่อเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลกนะ เพราะเชื่อว่าโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลอันใหญ่โพ้นนี้แน่ๆ และก็ไม่มีใครเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ก็มีแค่ดาว ดาว ดาว และดาว และสิ่งที่อยู่ในดาว.... ฟิ้วววววว ไปละ
Lommii