แม่สามีของฉัน... ผู้หญิงใจร้าย หรือแค่คนแก่ที่ต้องการความสำคัญ อยู่ที่เราจะมอง

วันนี้ขอแชร์เรื่องแม่สามีหน่อยค่ะ ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน เราเคยเขียนระบายถึงความอัดอั้นตันใจกับพฤติกรรมของแม่สามี เคยรู้สึกถึงขั้นกล้าพูดได้ว่า เกลียดแม่สามีมาก แต่พอเวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้มานั่งนึกย้อนกลับไป ผู้หญิงใจร้ายคนนั้น อาจจะเป็นแค่คนแก่ที่ต้องการให้ลูกหลานเห็นความสำคัญของตัวเองรึเปล่า

ก่อนอื่นขอพูดถึงนิสัยใจคอของแม่สามีก่อนนะค่ะ แกเป็นคนที่ปากร้ายถึงร้ายมากๆ แต่แกก็เป็นคนใจดีไม่น้อยเหมือนกันค่ะ แกขี้บ่นโดยเฉพาะเรื่องความสะอาด เรื่องกิน จะเยอะเป็นพิเศษ และเป็นคนที่ค่อนข้างจะเข้มงวดกับเรื่องเงินทอง โดยเฉพาะเงินเดือนที่ลูกชายให้ประจำ สิ้นเดือนปุ๊ป ทวงปั๊ป ลูกสะใภ้เข้าไปอยู่ก็ต้องจ่ายค่ากับข้าว ค่าน้ำค่าไฟนะค่ะ นิสัยส่วนตัวอีกอย่างของแกก็คือ แกค่อนข้างเข้าใจว่าควมคิดของแกทุกอย่างถูกและดี เรื่องดีของแกก็มีค่ะ แกชอบทำกับข้าว ไม่หวงของกิน แกขยันทำงาน คือไม่ใช่คนแบบรอแบมือขอลูกนะค่ะ แกทำงานของแกเองด้วย ส่วนที่ลูกต้องจ่าย สิ้นเดือนก็ต้องจ่ายแกนะ 55 มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะบอกว่า ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถึงจะปากร้ายแต่ใจดี แต่ลองจินตนาการดูนะค่ะ ว่าถ้าต้องใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ด่าเรื่องโน้น ติเรื่องนี้ได้ทุกวี่ทุกเวลา มันจะเป็นยังไง

เริ่มจาก ตอนที่ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเดียวกันกับแม่สามี แรกๆ ก็มีข่มๆ ลูกสะใภ้ยู่ในที อย่างเช่นลูกชายชั้นเค้าต้องนอนแบบนี้นะ ห้องต้องสะอาดอย่างงั้นอย่างงี้ กับข้าวต้องทำแบบนี้แบบนั้น ลูกชายชั้นชอบกินแบบนี้นะ แบบที่เธอทำนะลูกชั้นกินไม่ได้หรอก บ่นได้ทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรนิดนึงก็พูดอยู่ 3 วัน 10 วันก็ไม่จบ ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็แอบเคืองแและไม่ชอบใจมากๆ ที่ทำอะไรก็เหมือนจะไม่ได้เรื่องสักอย่าง (ทั้งๆ สามีไม่เคยว่าอะไรเลย) แต่พอมาวันนี้คิดว่าเข้าใจว่าแม่สามีคงกลัวสูญเสียความสำคัญ เพราะจากที่เคยเป็นคนเดียวที่ดูแลและทำกับข้าวให้ลูกกิน ลูกก็ชมว่าอร่อย กลายเป็นมีผู้หญิงอีกคนมาดูแลลูกตัวเองและทำกับข้าวให้ลูกตัวเองกินด้วย แล้วลูกตัวเองก็ดันชมว่าอร่อยด้วย เลยต้องแสดงออกด้วยวิธีต่างๆ โดนรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ให้ลูกชายตัวเองเห็นว่าตัวเองยังคงความสำคัญอยู่

ต่อมาเมื่อเราท้อง ก็แม่สามีนี่แหละ จากที่เคยบ่นๆ ว่าๆ ได้ทุกเรื่อง ตอนนี้เปลี่ยนโหมดมาเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกินให้เรา อยากกินอะไร ก็จะไปหาซื้อมาให้ ทำให้ แม้แต่เมนูที่แกไม่เคยทำ ทำไม่เป็น อย่างจอผักกาด (แม่สามีเป็นคนใต้ค่ะ เลยไม่รู้จักเมนูนี้) แกเห็นเราซื้อมากินด้วยความชอบ รุ่งเช้าขึ้นมาแกไปซื้อผักซื้อหมูมา ทำตามวิธีของแก ซึ่งแกคิดว่ามันน่าจะทำแบบนี้ คือแกเอาผักกาดไปดอง แล้วมาต้มกับซี่โครงหมู (เพราะรสชาติมันออกเปรี้ยว) ซึ่งจริงๆ เค้าใช้ผักกาดสดมาต้ม แล้วใส่น้ำมะขามเปียก แต่ท้ายที่สุดแกก็ปรุงรสออกมาคล้ายๆ กับจอผักกาดอยู่นะ ทำให้กินอยู่หลายหม้อเลยทีเดียว หรือจะเป็นครั้งที่เราแพ้ท้องมากๆ กินอะไรแทบจะไม่ได้ แกเห็นเราไปเก็บลูกทับทิมข้างบ้านมากิน แล้วมันอร่อย รุ่งเช้าขึ้นมา แกไปหอบทับทิมมาจากตลาดสัก 2-3 กิโล แล้วขนไปให้เราถึงที่ทำงานเลย

ตอนท้องเนี่ยก็ไม่ค่อยมีไรกระทบกระทั่งกันเท่าไหร่ นิดหน่อยตอนก่อนคลอด แม่สามีชอบพูดใส่หูว่า แม่นะไม่ได้ไปเฝ้านะที่ รพ. นะ แล้วก็พร่ำถามอยู่ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ว่าแม่เราจะได้มาเฝ้าวันไหน คือ แกบอกว่าแกต้องทำงานไม่ว่าง หลานนะเกิดมาแล้วก็ไม่มีเวลาเลี้ยงให้นะ ต้องหาคนเลี้ยงนะ คือแบบว่าเรากะสามีคุยกันแล้ว ก็ไม่ได้จะให้แม่สามีเลี้ยงหรอก ส่วนตอนคลอดแม่เราก็บอกแล้วว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนอยู่แล้วละ แต่พอแกถามหลายๆ ครั้งเข้า ไม่รู้ว่าด้วยอารมณ์คนท้องด้วยรึเปล่า มันน้อยใจไง มันอารมณ์แบบว่า ไม่อยากเฝ้าก็ไม่ต้องเฝ้า ลูกก็ไม่ได้อยากให้เลี้ยงให้อยู่แล้วแหละ

-- เดี๋ยวมาต่อค่ะ --
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่