สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมครับ ยังไงก็ขอฝากไว้ด้วยนะครับ
ท้าวความเดิมหน่อยนะครับ คือ เมื่อเดือนที่แล้วผมได้มีโอกาสไปมาเลเซีย
ซึ่งปกติผมจะเดินทางไปเป็นประจำประมาณเดือเว้นเดือนอยู่แล้ว
แต่ครั้งนี้พิเศษหน่อยตรงที่เป็นการไปเที่ยวกับภรรยาครับ

รีวิวนี้ภรรยาผมเป็นคนทำไว้ใน Bloggang ครับ แล้วผมเห็นว่าไม่ค่อยมีคนรีวิวโรงแรมนี้
ผมเลยถือโอกาสขอรีวิวโรงแรมนี้หน่อยแล้วกันนะครับ

เราเดินทางกับทางเพื่อนผมที่มาเลเซีย (จริงๆรุ่นป๊ะป๊าผมด้วยซ้ำ)
ถือได้ว่าท่านนี้เค้าเป็นผู้ใหญ่ดีใจคนหนึ่งที่สนับสนุนผมมาตลอด
ครั้งนี้ก็สนับสนุนการเดินทางและที่พักครับ
มาดูกันว่าหน้าตาของผู้ใหญ่ใจดีของผมจะเป็นอย่างไร
Mr.Khoo และ ภรรยาของเค้าครับ




(ปล.ผมขอ Cocy มาจากภรรยานะครับ เพราะไม่ถนัดกับตัวหนังสือเยอะ และยกเครดิตถ่ายภาพทั้งหมดให้ภรรยาครับ)


โรงแรมที่ผมขอรีวิวคือ

" Genting Grand Hotel"

ตอนเรามา เราไม่รู้จริงๆว่า Mr.Khoo จะพาเราไปพักที่ไหน
รู้แค่ว่าพักบน Genting เท่านั้น ใจเราคิดว่าคงพักที่ First World
Mr.Khoo พาไปทานแกงกะหรี่หัวปลาก่อนทางขึ้น Genting รสชาดถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวคะ
แต่เราไม่ได้ืทานเยอะ เพราะกลัวจะเมารถจะออกหมดท้องซะก่อน เสียดายของที่ทานเข้าไป

Mr.Khoo ขับรถวนๆไปวนมา เราก็งงเพราะไม่รู้ทาง ตามที่มองคือขับขึ้นไปตามทางที่บอกว่าเข้าลานจอดรถ
พอจอดรถเราก็ไม่รู้ว่าต้องเดินไปทางไหน ได้แต่เดิมตามหลังผู้ใหญ่ตามสุภาษิตไทย อิอิ
แล้วเค้าก็จัดการ Check-In ให้เรียบร้อย พร้อมกับส่งเราขึ้นห้องพัก

ก่อนจะเดินถึงหน้าเคาเตอร์ Check-In รู้เลยว่าโรงแรมนี้ Security ค่อยข้างสูง
เพราะใครจะเดินเข้าก็จะขอดูการ์ดของโรงแรม ถ้าเป็นลูกค้าที่พักอยู่แล้วจะต้องแสดงการ์ดเข้าห้องให้เห็น
แต่ถ้ายังไม่ได้ Check-In เหมือนเรา จะต้องบอกจุดประสงค์ว่าเข้ามาเพื่ออะไรคะ

หน้าเคาเตอร์ Check-In เป็นแบบนี้คะ





เมื่อเรา Check-In แล้ว เราก็จะได้ การ์ดมา 2 ใบคะ เราพักกัน 2 คนคะ

ที่นี่เราก็จะต้องไปสำรวจห้องกันแล้ววววววววว

จะขึ้นโรงแรมนี้ไม่ง่ายนะคะ แต่ไม่ยากคะ
เมื่อเข้าลิฟท์แล้วแค่เอาการ์ดที่เค้าให้เรามาเสียบไปในช่องที่มี
แล้วก็กดเลขชั้นของห้องเราคะ
เสียบการ์ดเพื่อให้ลิฟท์ทำงานคะ ถ้าไม่เสียบ กดยังไงก็ไม่ติดนะคะ





เราพักที่ชั้น 8 คะ เค้าจะบอกว่าแต่ละชั้นจะเป็นห้องอะไรคะ
เราได้ห้อง Premier คะ




ถึงแล้วค้า ชั้น 8 เปิดมาเจอทางแยกกับโถงโล่ง ที่นี้แหละ ห้องเราไปทางไหนอ่ะ เป็นทางแยกแบบนี้งงเลย





เลี้ยวขวาจ้า แล้วเดินจนสุด ก็เป็นห้องเราแล้ว
(นายแบบหน้าโหดไปนะ หึหึ)





เข้าห้องกันเลยดีกว่าจ้า

เสียบการ์ดและระบบไฟฟ้าก็มาเหมือนโรงแรมอื่นๆทั่วไปนั่นแหละ
และบรรยากาศก็เป็นแบบนี้เลยคะ




บรรยากาศภายในห้องนอนคะ








ข้างเตียงมีโซฟาเล็กๆ 1 ตัวด้วย แต่บอกตรงๆว่านอนที่นี่ 2 คืนไม่ได้นั่งเลย ใช้วางของและเสื้อผ้าตลอด อิอิ




ภายในห้องมีโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง และโทรทัศน์บิ้วอิน ใหญ่สะใจเลยทีเดียว






และมีมุมกาแฟ ชา และเครื่องดื่มต่างๆอีก ของที่อยู่นอกตู้เย็นทานได้หมดนะคะ
แต่ในตู้เย็นมีค่าธรรมเนียมเหมือนโรงแรมอื่นๆตามปกติคะ





ชาและกาแฟที่นี่ไม่ธรรมดานะคะ เพราะกาแฟมีเครื่องทำกาแฟแบบเมพมากไว้ให้ใช้
ส่วนชาก็เป็นชาจาก Twinings มีหลากหลายรสและกลิ่นให้เลือกตามใจชอบเลยคะ

ส่วนการใช้เจ้าเครื่องชงกาแฟแบบนี้ต้องขอคุณป้าพิม Beauty Blogger คนสวยมากคะ
ที่เคยทำรีวิวเครื่องชงกาแฟที่เป็นลักษณะแบบนี้มาหนนึง ถึงเครื่องจะไม่เหมือนกัน
แต่ลักษณะการใช้งา่นคล้ายกันคะ

กาแฟที่ได้จากเครื่องชงตัวนี้หอมมาก และรสชาดดีมากด้วย
คุณผู้ชายถึงกับเอ่ยปากบอกว่า ทีเมืองไทยมีขายมั้ย กลับไปซื้อไว้ที่บ้านกันนะ
ซึ่งปกติเราทั้งคู่จะไม่ทานกาแฟคะ ทานโก้โก้กันเป็นหลัก

กลับมาถึงเมืองไทยไปดูที่ Central โลด ปรากฎว่ามีคะ
เหมือนที่โน่นเปี๊ยบ ราคาอยู่ที่หนึ่งหมื่นกว่าบาท โอ้วววแม่เจ้า
รอไปก่อนนะ บ้านเสร็จ เงินเหลือค่อยซื้อแ้ล้วกัน




เรามาดูห้องน้ำกันดีกว่า เราไม่ใช่คนแรกที่เดินเข้าห้องน้ำนะคะ
แต่เป็น Mr.Khoo เค้าบอกว่า ไหนๆๆขอดูห้องน้ำหน่อย
เค้าก็เดินเข้าไปดู ทันไดนั้นก็มีเสียงดังมาจากห้องน้ำ
โอ้วววว มันทำให้เรารีบเดินไปดูทันที

เมื่อเราเปิดประตูเข้าไป ไหงมันไม่มีห้องน้ำหว่า????
กลับเจอสิ่งนี้เข้าไป แหมๆๆๆ อยากยกไปไว้ที่บ้านเสียจริงๆ

โต๊ะเครื่องแป้งที่พร้อมไปทั้งกระจกแต่งหน้า และตู้เสื้อผ้าที่แหมๆๆ ขอเถอะนะ





เครื่องเครื่องแป้งที่มีทั้งปลั๊กและไดฟ์เป่าผมในลิ้นชักพร้อมใช้งาน
มาในถุงอย่างเรียบร้อยจริงๆ






และมุมตู้เสื้อผ้าก็จะเจอสิ่งเหล่านี้คะ





ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าด้านล่างซ้ายจะเจอกับสิ่งเหล่านี้คะ





ส่วนด้านล่างขวาจะเจอเครื่องชั่งน้ำหนักคะ
(นายแบบเราขึ้นชั่งเลย ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ช้านจะถ้ายรูปปปปปปป)
ปล.อย่าให้บอกน้ำหนักนะคะ พ่อหมูดีๆนี่เอง หรือเรียกอีกอย่างได้ว่า "อ้วนเตี้ย"





ต่อไปก็ถึงห้องน้ำจริงๆกันแล้วสินะ

ประกอบไปด้วยอ่างล้างหน้า 2 อ่าง อ่างอาบน้ำ และส่วน Shower




นี่คืออุปกรณ์ที่เค้าให้มาข้างอ่างล้างหน้าคะ

ให้แบบไม่กักเลยจริงๆ มีดโดนหนวดกับครีมโกนหนวดยังให้เลย
แปรงสีฟัน 2 อันพร้อมยาสีฟัน หวี หมวกคลุมผม ถุงใส่ผ้าอนามัย
ที่ปั่นหู ตะไบ และโลชั่นทาตัวเล็บคะ

ทางโรงแรมจะให้เรา 1 ชุดแบบนี้ทุกๆวันคะ ไม่หวงของเลย อะไรหมดเติมให้ตลอดคะ




มาชมบรรยากาศรอบๆห้องน้ำกัน
(มีที่ไหนชวนคนอื่นชมห้องน้ำ หึหึ)








อันนี้คุณผู้ชายถ่ายคะ เค้าถามหาว่าไม่มีฝักบัวล้างหรอ
เราก็บอกว่าทำไมไม่หมุนปุ่มเงินๆด้านซ้าตรงนั้น พอหมุนเท่าันั้นแหละคะ
มีท่อเล็กๆยื่นออกมาพร้อมน้ำเย็นๆ เป็นอันจบข่าวเรื่องที่ล้างก้นกันไป




ข้างๆมีหนังสือให้ก่อนด้วย เป็นหนังสือที่บอกสถานที่ท่องเที่ยว และการเดินทาง รวมถึงตารางเดินรถ Shutter Bus บนนี้คะ






เรามาดูโรงแรมนี้ระยะไกลบ้างว่าเป็นอย่างไร





Maxxis Hotel อยู่ติดกับโรงแรมที่เราพักคะ ชั้น Lobby จะมี Starbuck ด้วยคะ





ตกเย็นๆค่ำๆ เราก็ออกมาเดินเล่นให้ทั่วทั้ง 5 โรงแรม

อากาศเย็นมาก ประมาณ 5 โมงเย็น ก็มีหมอกแล้วคะ

กลางวันอุณหภูมิไม่เกิน 20 องศาคะ

เราเดินเล่นไปเรื่อยๆจนถึง First World เราก็ยืนมองเรทราคาโรงแรมของที่นี่

ด้วยความอยากรู้ว่าที่เราพักคืนละเท่าไหร่

เพราะที่เราพักครั้งนี้ Mr.Khoo สมนาคุณให้ฟรี ด้วยการเอาแต้ม Genting Point ไปแลกที่พักให้ฟรี 2 คืน

พอเราเห็นราคาเท่านั้นแหละ โอ้ววววววววววว ถ้าให้มาเองคงไม่พักที่นี่แน่

ที่ไม่พักประการแรกคือ เราไม่ได้ Member ระดับ Gold หรือ Platinum

เราเป็นแ่ค่ Member ระดับ Classic

ประการที่สองคือเรื่องราคา

มาดูกันว่าที่เราเจอคือราคาเท่าไหร่คะ






ขอปิดท้ายด้วยวิวริมหน้าต่างจากในห้องนะคะ
อันนี้ถ่ายตอนสายๆคะ ประมาณ 10 โมงคะ






ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ มีอะไรติชมได้นะครับ