การแต่งตัว
มีคะแนนเต็ม 5 คะแนนนะคะ

ผู้หญิง : สุภาพเรียบร้อย สูท กระโปรงคู่กับเสื้อเรียบร้อยก็ดี จะเป็นเดรสก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องสูท หรือชุดนักศึกษาก็ได้
ทรงผม - จะรวบ จะทำทรงอะไรก็ได้ค่ะ ครีเอทได้ตามใจ
แต่งหน้า- ตามอัธยาศัยค่ะ จะติดขนตาปลอม หรืออะไรก็ได้ค่ะ รองพื้นเอาทนหน่อยนะคะ ติดลิปไปเติมด้วย แดงสดๆก็ได้ค่ะ ยกเว้น บิ๊กอายหลากสี
รองเท้า - คัชชูค่ะ เท่าที่เห็นวันนี้มี ขาว ดำ แดง

ผู้ชาย : กางเกงสแล็ค ,เสื้อเชิ้ต หรือจะสูทก็ได้ ให้ดูสุภาพเช่นเดียวกัน

การเตรียมตัวเพิ่มเติม
- สเบียงอาหารและน้ำดื่มค่ะ เพราะโรงอาหารอยู่ไกลและร้อนมาก โดยเฉพาะน้ำดื่มสำคัญจริง
-ผู้หญิงที่ใส่กระโปรงไปนำผ้าพันคอติดไปด้วยก็ดีค่ะ เอาไว้คลุมขา เพราะที่ไม่พออาจจะต้องนั่งกับพื้นตามหน้าห้อง
-พัด พัดลมมือถือ กรณีที่ต้องรอหน้าห้อง บอกเลยว่าร้อนมาก ก.ไก่ล้านตัว คือแบบเมคอัพละลายได้

มาที่ขั้นตอนการเริ่มต้นสมัคร
เริ่มต้นที่ 9 โมงเช้า ตรงเป๊ะ นำเอกสารทั้งหมดไปลงทะเบียนจากนั้นเราก็จะได้เลขคิวมาค่ะ พอได้เลขคิวก็นำเอกสารไปยื่นให้พนง.หลังห้องเพื่อรอให้เขาเรียกคิว เขาจะเรียงรันไปเรื่อยๆ เซทล่ะ 5 คนค่ะ

ด่านแรกคือการสัมภาษณ์(เป็นภาษาอังกฤษหมด)
ในห้องสัมภาษณ์ที่ 1 จะมีโต๊ะรับสัมภาษณ์ทั้งหมด 5 โต๊ะ คนที่จะสัมภาษณ์เราจะมีทั้งหมด 3 คน
สิ่งที่คุณจะต้องถูกถามแน่ๆคือ
- แนะนำตัวเอง เยอะๆก็ดี มีมุกก็ยิงไปค่ะ กรรมการเขาน่ารัก
- ทำไมถึงอยากทำงานที่นี้?
-ทำงานกะดึกได้ไหม?
-อ่านสคริปภาษาอังกฤษกับภาษาไทยค่ะ สคริปตัวนี้ท่านที่เดินทางบ่อยๆอาจจะชินกับเสียง ที่เรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องอะค่ะ
-แปลไทยสคริปหนึ่งย่อหน้าค่ะ เราจำได้แค่ว่าเป็นเวลาการเช็คอิน เปิด ปิดของเคาท์เตอร์ค่ะ

จากนั้นไปรอฟังผลที่ห้องที่ 2
พนง.จะเข้ามาโดยเรียกเลขคิวของคุณ ผู้ที่ถูกเรียกคือผู้ที่ได้ไปต่อค่ะ ใครไม่ได้ก็เก็บกระเป๋าออกจากบ้านAF(ไม่ใช่ล่ะ)

ผู้ที่ถูกเลือกให้ได้ไปต่อไปยังห้องที่ 3
ภายในห้องนี้ไม่มีอะไรค่ะ แค่ทำ แบบทดสอบ attitude 270 ข้อ ภายใน 40 นาที
ข้อสอบไม่มีอะไร ก็ตอบตามนิสัยเราไป เช่น ถ้าเพื่อนเหยียบเท้าคุณ คุณโกรธไหม? ก็ตอบไป

จากนั้นเขาก็จะนัดให้กลับมาอีกทีตอนบ่ายโมง  ซึ่งที่เราเจอมาไม่บ่ายโมงค่ะ เกือบจะบ่ายสอง เพราะเขารับคนเกินอัตรา ทำให้ล่าช้าตรงด่านที่1 คือต้องรอกัน จริงๆควรจะปิดรับตั้งแต่เที่ยงและกำหนดโควต้าไปเลยว่ารับเท่านั้นเท่านี้ แต่TAAใจดีค่ะ ขยายโอกาสให้สุดๆ ผ่านด่านแรกกันเป็นร้อยๆ
อ่าต่อๆ หลังจากบ่ายโมงที่ทั้งนั่ง นอน กิน และ ก็นั่งแล้ว ก็มายืนรอที่หน้าห้องที่ 3

ห้องที่3
ห้องนี้ทำอะไรล่ะ? ทุกคนยังคงสงสัย ก็รอเรียกตามคิวตามเดิม (เฉพาะผู้ที่ผ่านด่าน1นะ) ห้องนี้เป็นระดับPDมาสัมภาษณ์
มีสองคนค่ะ คุณผู้หญิงหนึ่งคนและคุณผู้ชายหนึ่งคน ด้วยความเป็นระดับสูงจะมีรอยยิ้มที่ทำให้คุณต้องสั่นทันที
เราไม่รู้จุดประสงค์ห้องนี้เลยค่ะ เพราะคำถามเดิมกับด่านแรกทุกประการ
ทำไมถึงอยากทำงานกับเรา? ใส่ไปเยอะๆเลย ชอบณเดช กับข้าวอร่อย แอร์สวย ของน่าซื้อ บลาๆ
ที่เพิ่มมาก็แค่รู้อะไรเกี่ยวกับแอร์เอเชีย? เริ่มงานได้เมื่อไหร่? แค่นั้นเอง งงๆแล้วก็ออกมา ไม่รู้ว่าวัดสกิลอะไร

จากนั้นกลับบ้านค่ะ เราใช้เวลาอยู่นั้นราวๆ10ชั่วโมง รอเข้าห้องเชือดที่3นานมาก
รอผลอาทิตย์ถัดไป โดยเขาจะโทรแจ้งทุกคนได้ไม่ได้ก็โทรแจ้ง


ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- อย่าได้คิดแม้แต่จะพูดภาษาไทยในห้องที่ 3
-ในห้องที่3 กรรมการแย่งกันพูด ให้เขาเคลียร์กันก่อนแล้วเราค่อยตอบ 5555(สงสัยวัดสกิลตรงนี้)
-นัด9โมงก็จริงแต่ควรไปไวๆเพื่อได้คิวต้นๆ ไม่คุณจะหยั่งรากลึกฝังตัวในตึกเลย เราไปถึง8โมงครึ่งได้คิวปาไปสี่สิบกว่านู่น
-สำหรับผู้ที่ติดสมาทร์โฟนเอาที่ชาร์ตแบตไปได้ มีปลั๊กทุกมุม
-ปากกาอย่าลืมนะ
-สติ


มีอะไรถามมาได้อีกนะคะ ผลยังไม่ออก กรรมการจะมาสืบหาเรามั้ยเนี้ย ฮ่าๆๆๆ
เพื่อนที่เจอกันในนั้นบอกว่าสายบางกอกฯสะดวกสบายทันใจกว่านี้เยอะเลย ไว้ค่อยไปลองรอบหน้า

**เพิ่มเติม**
สายการบินอื่นๆจะเข้มงวดกว่านี้นะคะ ลองศึกษาดูดีๆ
เช่น Bangkok จะต้องชุดสูท ผมเกล้าค่ะ
ส่วน BFS ของสุวรรณภูมิจะต้องเป็นสูทสีดำ เสื้อเชิ๊ตขาว เท่านั้น


*อยากtag ห้องแป้งด้วยจังเลยเห็นสาวๆสนใจอาชีพนี้ก็เยอะ
แล้วtag ห้องไหนดีล่ะ ><