สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ เราขอยืมลอคอินของเพื่อน มาตั้งกระทู้นะคะ
เพราะอยากเเชร์เรื่องราวดีๆ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำความดีเพื่อคนอื่นค่ะ
เมื่อเดือนสองเดือนที่เเล้ว เพื่อนในคณะของ จขกท. เกิดเหตุการณ์ผมร่วงอย่างรุนเเรง (ขอไม่เปิดเผยสาเหตุนะคะ)
คือผมข้างบนจะร่วงหมดเลยเกือบทั้งหัว ทำให้เค้าไม่กล้าที่จะออกไปไหนเลยค่ะ หรือถ้าออกไปก็ต้องใส่หมวก
ครั้งเเรกเราพาเพื่อนไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (ตรงไอทีสแควร์)
คุณหมอแนะนำว่าช่วงนี้ให้หาเบบี้ออยล์มาสระผมก่อน อย่าเพิ่งใช้ยาสระผมแรงๆ
แต่ระหว่างที่รอให้ผมขึ้น เพื่อนเราก็ไม่ค่อยกล้าออกไปไหน แม้แต่จะไปมหาวิทยาลัย
ช่วงนั้นเราจึงต้องคอยเ็ก็บชีท อัดเสียงมาให้เพื่อนฟังเเทน จนเราทั้งหมด ได้รวมตังกันซื้อวิกผมปลอม
ที่ราคาไม่กี่บาท ประมาณ 400 กว่าบาท มาให้เพื่อนใส่ เค้าจะได้มั่นใจมากขึ้น
เค้าใส่ได้ประมาณ 3 วัน ก็แพ้วิกผมค่ะ อาการจะเป็นตุ่มแดงๆ ขึ้นตามไรผม (ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็น)
เเล้วเค้าจะคันหัวมาก เพราะวิกผมปลอม อย่างที่รู้ๆกัน ถ้าใส่ไปนานๆ เส้นผมมันจะหยิกและแข็งมาก
เราก็เป็นห่วงมาก กลัวว่าคันมากๆ แล้วผมจะร่วงหนักกว่าเก่าหรือเปล่า (ปกติเค้าใส่วิกผมแค่ตอนออกไปข้างนอกเท่านั้นค่ะ)
จนมาวันนึง เพื่อนเราได้มาบอกว่า ได้ไปคอมเม้นในอินสตาแกรมของพี่นัท (เราเรียกเค้าว่าพี่นะคะ ไม่อยากใช้คำว่าคุณ)
บอกว่าขอความช่วยเหลือ ช่วยประชาสัมพันธ์ขอรับบริจาควิกผมแท้ที่ไม่ใช้เเล้ว เผื่อคนที่ติดตามฟอลโล่พี่นัทอยู่จะได้เห็น
สิ่งที่พวกเราต้องการในตอนนั้น คือ วิกผมแท้มือสอง ค่ะ
เพื่อนมาบอกเราว่า หลังจากนั้นไม่นาน ประมาณสองสามนาที พี่นัทก็ขอเบอร์โทร และขอไลน์
และพี่นัทก็แอดไลน์เรามาค่ะ แอดมา ก็ถามเรื่องอาการก่อนเลย
ปล. บทสนทนา เราขอพิมพ์นะคะ เพราะเราเผลอลบบทสนทนาตอนแรกๆ ไปหมดเลย พลาด TT แต่ยังจำได้ลางๆค่ะ
พี่นัท :: สวัสดีครับ นี่พี่นัทเองนะครับ พี่แอดมาจากที่น้อง_____ บอกไลน์พี่เอาไว้
เรา :: พี่นัทไหนคะ เพื่อนพี่อั้มเหรอคะ
พี่นัท :: ใช่ครับ เพื่อนน้องอาการเป็นยังไงบ้าง ไปหาหมอหรือยัง
เรา :: ไปหาหมอที่โรงพยาบาลจุฬามาเเล้วค่ะ หมอบอกให้ใช้แชมพูเด็กสระผมไปก่อน รอให้ผมขึ้น
พี่นัท :: โล่งไป ถ้างั้นก็ไม่ใช่โรคร้ายเเรง
หลังจากนั้น พี่นัทก็ถามเกี่ยวกับเรื่องวิกผมค่ะ ว่าจะซื้อยังไง แบบไหน คือเราก็ตกใจเหมือนกัน
เพราะสิ่งที่พวกเราต้องการคือ วิกผมมือสอง ที่จะขอรับบริจาค จากคนที่เค้าไม่ใช้เเล้ว พี่นัทถามว่าเหลือเงินอีกเท่าไหร่ถึงจะซื้อวิกได้
ก่อนหน้านี้เราไปเซอร์เวย์ตามสำเพ็งมาเเล้วค่ะ พยายามหาข้อมูลร้านวิกผมที่ถูกที่สุด จนไปเจอร้านนึงเข้า
เราเลยส่งรูปให้พี่นัทดู และพี่นัทก็ถามเราว่าต้องการเงินเท่านี้ใช่มั้ย พี่จะได้โอนเงินไปให้
คือเราไม่คิดว่าพี่นัทจะโอนเงินมาให้นะคะ เราคิดว่าพี่นัทอาจจะไปพูดกับคนรู้จักที่มีวิกผม อะไรอย่างนี้
เราบอกเค้าไปว่า ตอนนี้แค่พวกหนูทำงานเก็บเงินเอาไว้ลงทะเบียนก็แย่เเล้ว พี่นัทก็บอกมาว่า พี่เข้าใจ ช่วยได้ก็จะช่วย
พี่นัทบอกว่าให้เราส่งรูปเพื่อนเราไปให้ดู เราก็ส่งไปให้พี่นัทดูค่ะ เป็นรูปที่ถ่ายกับหนังสือพิมพ์ฉบับของวันนั้น
(เพื่อจะได้โปร่งใส สบายใจว่าเพื่อนเราป่วยจริงๆ)
หลังจากนั้น พี่นัทก็ขอเลขบัญชีธนาคารของเราไป เเล้วบอกจะโอนเงินมาให้ ณ เวลานั้นเรารู้สึกอึ้งมากๆ
คือมันไม่ง่ายเลยนะคะ ที่จะเจออะไรแบบนี้ พี่นัทไม่ใช่คนทั่วไป ที่เราจะไปขอความช่วยเหลืออะไรเค้าก็ได้
เค้าเป็นเพื่อนกับพี่อั้ม พัชราภา ถ้าใครติดตามพี่อั้ม ก็จะเห็นรูปพี่นัทบ่อยๆค่ะ
เค้ามีธุรกิจหลายอย่างมากมาย มันเหนือความคาดหมายที่เค้าจะมาใส่ใจ เพื่อนเราจริงๆค่ะ จุดนี้พวกเราอึ้งกันมากๆ
จนอีกวันนึง ประมาณบ่ายสองโมง พี่นัทก็โอนเงินเข้าบัญชีมาให้เราค่ะ
จำนวนเงินที่พี่นัทโอนมา มันเกินจำนวนที่เราได้บอกพี่เค้าไว้ เราตกใจมากที่พี่เค้าโอนเงินเกินมา
เราเลยทักไปถามเค้า พี่เค้าตอบมาว่าอะไรรู้มั้ยคะ....
จุดๆนี้ ทำเพื่อนเราร้องไห้ไปครึ่งชั่วโมงเลยค่ะ เพื่อนเราโชคไม่ดี ที่ผมต้องมาร่วงเกือบหมดหัว
แต่ยังมีความโชคดี ที่ได้เจอคนใจดี แบบพี่นัท ช่วยเหลือแม้จะไม่รู้จักกัน ไม่เคยคุยกันมาก่อน
เป็นเพียงแฟนคลับที่ตามไลค์รูปในไอจีก็เท่านั้น แถมยังมีใจที่คิดต่อไปอีกว่า คงจะมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่น
ถึงได้โอนเงิน เกินจำนวนมาให้
วันรุ่งขึ้น เรากับเพื่อนรีบเดินทางไปร้านขายวิกผมเลยค่ะ (เราเปลี่ยนเป้าหมายว่าจะไปซื้อที่วังหลังแทน)
เราไปที่ร้าน ต่ายวิกผม ที่อยู่วังหลังกันค่ะ ถึงเเม้ว่าระยะทางจะไกลมาก ต้องนั่งเรือไป ปวดหัวแทบจะอ้วก
เเต่พวกเราก็นึกถึงพี่นัท คนใจบุญที่หยิบยื่นโอกาสที่จะให้เพื่อนเราได้ออกไปเดินข้างนอกบ้าง
เพื่อนเรามีความสุขในการเลือกวิกผมมาก แววตาดูมีความสุข มีความหวัง ว่าเดินไปไหนจะไม่อายใคร
แถมวิกผมก็นุ่มมากๆ เพราะเป็นผมแท้ เราเลือกวิกผมให้เพื่อนอย่างดีที่สุด ข้างในมีกัน ระคายเคือง
ราคาวิกผมที่เราซื้อมา ราคา 5,000 ค่ะ
หลังจากกลับมาที่หอ เราส่งรูปวิกที่เราซื้อมาไปให้พี่นัทดู พี่เค้าคงชื่นใจว่าสิ่งที่พี่เค้าช่วยเหลือ ตอนนี้เพื่อนเราได้รับน้ำใจนั้นเเล้ว
ตอนนี้เพื่อนเรามีความสุขมากค่ะ ออกไปไหนก็มั่นใจ ไม่หลบไม่ซ่อน ไม่มีท่าทีเขินอาย ก่อนหน้านี้เพื่อนเราจะออกไปข้างนอก
ต้องใส่หมวกแก้ปออกไป แล้วมันตลกมาก เพราะข้างหน้าตรงหน้าผาก เค้าไม่มีผมเลย คือดูยังไงก็เป็นคนหัวล้าน
บางคนก็บอกว่าไม่เห็นต้องอาย เอาผ้าโพกหัวไปเรียนสิ แต่เราว่าบางทีความมั่นใจก็เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตนะคะ
ทุกวันนี้ ในกลุ่มเรา ยังพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่เลย มีบางคนที่คณะไม่รู้ว่าเพื่อนเราผมร่วง บางคนก็สงสัยเเต่ไม่ได้ถาม
เดินไปไหนก็มีแต่คนมองแบบแปลกๆ หันไปกระซิบกัน นี่เป็นเรื่องจริงที่เพื่อนเราเจอค่ะ
-- ถ้าใครตามอินสตาแกรมพี่อั้ม ก็จะเห็นนะคะ ว่าพี่อั้มลงรูปพี่นัทบ่อยๆ เราจะรับรู้ได้เลยว่าพี่นัทใจบุญมากๆ
ชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ เพื่อนเราบอกว่าตอนหารูปพี่นัท เจอข่าวว่าพี่นัทได้รับรางวัลทำความดี บ่อยมากเลยค่ะ
"ขอขอบคุณพี่นัทมากๆ ครอบครัวพี่นัท เลี้ยงพี่นัทให้เติบโตมาเป็นคนดีจริงๆค่ะ มีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น
มีจิตใจที่เป็นสาธารณะ หายากนะคะ ที่จะมาเจออะไรแบบนี้ ทุกวันนี้เพื่อนเรามีความสุข เราก็มีความสุข
เราเล่าเรื่องนี้ให้แม่เราฟัง แม่เราชื่นชมพี่นัทมากๆ บอกว่าครอบครัวนี้เลี้ยงลูกดี เห็นได้รางวัลเรื่องทำความดีบ่อยมากๆ
ทุกวันนี้ พวกเราเป็นแฟนคลับพี่นัทเเล้วค่ะ เพื่อนเราบอกว่าพี่นัทเป็นผู้มีพระคุณอีกคนนึงเลยจริงๆ
ตอนนี้เพื่อนเราสามารถออกไปเรียน ออกไปทำงานพิเศษ ได้ตามที่ใจอยากทำ โดยไม่อายสายตาใครเเล้วค่ะ"
ขอให้ความดีครั้งนี้ ช่วยคุ้มครองพี่นัท ครอบครัวพี่นัท รวมทั้งคนที่พี่นัทรักทุกคนนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ
การงานเจริญก้าวหน้า ถึงเราจะไม่รู้จักกัน แต่พี่นัทก็ทำให้เพื่อนหนูซึ้งกับความมีน้ำใจของพี่
ช่วยเหลือโดยไม่ต้องการอะไรตอบเเทน ช่วยเหลือแม้จะไม่รู้จักหน้าค่าตากัน ขอบคุณมากๆค่ะ
กระทู้นี้ ขอแชร์เรื่องราวดีๆ กับความมีน้ำใจของพี่นัท - ณัฐพล จุฬางกูร (เพื่อนพี่อั้ม พัชราภา)
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ เราขอยืมลอคอินของเพื่อน มาตั้งกระทู้นะคะ
เพราะอยากเเชร์เรื่องราวดีๆ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำความดีเพื่อคนอื่นค่ะ
เมื่อเดือนสองเดือนที่เเล้ว เพื่อนในคณะของ จขกท. เกิดเหตุการณ์ผมร่วงอย่างรุนเเรง (ขอไม่เปิดเผยสาเหตุนะคะ)
คือผมข้างบนจะร่วงหมดเลยเกือบทั้งหัว ทำให้เค้าไม่กล้าที่จะออกไปไหนเลยค่ะ หรือถ้าออกไปก็ต้องใส่หมวก
ครั้งเเรกเราพาเพื่อนไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (ตรงไอทีสแควร์)
คุณหมอแนะนำว่าช่วงนี้ให้หาเบบี้ออยล์มาสระผมก่อน อย่าเพิ่งใช้ยาสระผมแรงๆ
แต่ระหว่างที่รอให้ผมขึ้น เพื่อนเราก็ไม่ค่อยกล้าออกไปไหน แม้แต่จะไปมหาวิทยาลัย
ช่วงนั้นเราจึงต้องคอยเ็ก็บชีท อัดเสียงมาให้เพื่อนฟังเเทน จนเราทั้งหมด ได้รวมตังกันซื้อวิกผมปลอม
ที่ราคาไม่กี่บาท ประมาณ 400 กว่าบาท มาให้เพื่อนใส่ เค้าจะได้มั่นใจมากขึ้น
เค้าใส่ได้ประมาณ 3 วัน ก็แพ้วิกผมค่ะ อาการจะเป็นตุ่มแดงๆ ขึ้นตามไรผม (ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็น)
เเล้วเค้าจะคันหัวมาก เพราะวิกผมปลอม อย่างที่รู้ๆกัน ถ้าใส่ไปนานๆ เส้นผมมันจะหยิกและแข็งมาก
เราก็เป็นห่วงมาก กลัวว่าคันมากๆ แล้วผมจะร่วงหนักกว่าเก่าหรือเปล่า (ปกติเค้าใส่วิกผมแค่ตอนออกไปข้างนอกเท่านั้นค่ะ)
จนมาวันนึง เพื่อนเราได้มาบอกว่า ได้ไปคอมเม้นในอินสตาแกรมของพี่นัท (เราเรียกเค้าว่าพี่นะคะ ไม่อยากใช้คำว่าคุณ)
บอกว่าขอความช่วยเหลือ ช่วยประชาสัมพันธ์ขอรับบริจาควิกผมแท้ที่ไม่ใช้เเล้ว เผื่อคนที่ติดตามฟอลโล่พี่นัทอยู่จะได้เห็น
สิ่งที่พวกเราต้องการในตอนนั้น คือ วิกผมแท้มือสอง ค่ะ
เพื่อนมาบอกเราว่า หลังจากนั้นไม่นาน ประมาณสองสามนาที พี่นัทก็ขอเบอร์โทร และขอไลน์
และพี่นัทก็แอดไลน์เรามาค่ะ แอดมา ก็ถามเรื่องอาการก่อนเลย
ปล. บทสนทนา เราขอพิมพ์นะคะ เพราะเราเผลอลบบทสนทนาตอนแรกๆ ไปหมดเลย พลาด TT แต่ยังจำได้ลางๆค่ะ
พี่นัท :: สวัสดีครับ นี่พี่นัทเองนะครับ พี่แอดมาจากที่น้อง_____ บอกไลน์พี่เอาไว้
เรา :: พี่นัทไหนคะ เพื่อนพี่อั้มเหรอคะ
พี่นัท :: ใช่ครับ เพื่อนน้องอาการเป็นยังไงบ้าง ไปหาหมอหรือยัง
เรา :: ไปหาหมอที่โรงพยาบาลจุฬามาเเล้วค่ะ หมอบอกให้ใช้แชมพูเด็กสระผมไปก่อน รอให้ผมขึ้น
พี่นัท :: โล่งไป ถ้างั้นก็ไม่ใช่โรคร้ายเเรง
หลังจากนั้น พี่นัทก็ถามเกี่ยวกับเรื่องวิกผมค่ะ ว่าจะซื้อยังไง แบบไหน คือเราก็ตกใจเหมือนกัน
เพราะสิ่งที่พวกเราต้องการคือ วิกผมมือสอง ที่จะขอรับบริจาค จากคนที่เค้าไม่ใช้เเล้ว พี่นัทถามว่าเหลือเงินอีกเท่าไหร่ถึงจะซื้อวิกได้
ก่อนหน้านี้เราไปเซอร์เวย์ตามสำเพ็งมาเเล้วค่ะ พยายามหาข้อมูลร้านวิกผมที่ถูกที่สุด จนไปเจอร้านนึงเข้า
เราเลยส่งรูปให้พี่นัทดู และพี่นัทก็ถามเราว่าต้องการเงินเท่านี้ใช่มั้ย พี่จะได้โอนเงินไปให้
คือเราไม่คิดว่าพี่นัทจะโอนเงินมาให้นะคะ เราคิดว่าพี่นัทอาจจะไปพูดกับคนรู้จักที่มีวิกผม อะไรอย่างนี้
เราบอกเค้าไปว่า ตอนนี้แค่พวกหนูทำงานเก็บเงินเอาไว้ลงทะเบียนก็แย่เเล้ว พี่นัทก็บอกมาว่า พี่เข้าใจ ช่วยได้ก็จะช่วย
พี่นัทบอกว่าให้เราส่งรูปเพื่อนเราไปให้ดู เราก็ส่งไปให้พี่นัทดูค่ะ เป็นรูปที่ถ่ายกับหนังสือพิมพ์ฉบับของวันนั้น
(เพื่อจะได้โปร่งใส สบายใจว่าเพื่อนเราป่วยจริงๆ)
หลังจากนั้น พี่นัทก็ขอเลขบัญชีธนาคารของเราไป เเล้วบอกจะโอนเงินมาให้ ณ เวลานั้นเรารู้สึกอึ้งมากๆ
คือมันไม่ง่ายเลยนะคะ ที่จะเจออะไรแบบนี้ พี่นัทไม่ใช่คนทั่วไป ที่เราจะไปขอความช่วยเหลืออะไรเค้าก็ได้
เค้าเป็นเพื่อนกับพี่อั้ม พัชราภา ถ้าใครติดตามพี่อั้ม ก็จะเห็นรูปพี่นัทบ่อยๆค่ะ
เค้ามีธุรกิจหลายอย่างมากมาย มันเหนือความคาดหมายที่เค้าจะมาใส่ใจ เพื่อนเราจริงๆค่ะ จุดนี้พวกเราอึ้งกันมากๆ
จนอีกวันนึง ประมาณบ่ายสองโมง พี่นัทก็โอนเงินเข้าบัญชีมาให้เราค่ะ
จำนวนเงินที่พี่นัทโอนมา มันเกินจำนวนที่เราได้บอกพี่เค้าไว้ เราตกใจมากที่พี่เค้าโอนเงินเกินมา
เราเลยทักไปถามเค้า พี่เค้าตอบมาว่าอะไรรู้มั้ยคะ....
จุดๆนี้ ทำเพื่อนเราร้องไห้ไปครึ่งชั่วโมงเลยค่ะ เพื่อนเราโชคไม่ดี ที่ผมต้องมาร่วงเกือบหมดหัว
แต่ยังมีความโชคดี ที่ได้เจอคนใจดี แบบพี่นัท ช่วยเหลือแม้จะไม่รู้จักกัน ไม่เคยคุยกันมาก่อน
เป็นเพียงแฟนคลับที่ตามไลค์รูปในไอจีก็เท่านั้น แถมยังมีใจที่คิดต่อไปอีกว่า คงจะมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่น
ถึงได้โอนเงิน เกินจำนวนมาให้
วันรุ่งขึ้น เรากับเพื่อนรีบเดินทางไปร้านขายวิกผมเลยค่ะ (เราเปลี่ยนเป้าหมายว่าจะไปซื้อที่วังหลังแทน)
เราไปที่ร้าน ต่ายวิกผม ที่อยู่วังหลังกันค่ะ ถึงเเม้ว่าระยะทางจะไกลมาก ต้องนั่งเรือไป ปวดหัวแทบจะอ้วก
เเต่พวกเราก็นึกถึงพี่นัท คนใจบุญที่หยิบยื่นโอกาสที่จะให้เพื่อนเราได้ออกไปเดินข้างนอกบ้าง
เพื่อนเรามีความสุขในการเลือกวิกผมมาก แววตาดูมีความสุข มีความหวัง ว่าเดินไปไหนจะไม่อายใคร
แถมวิกผมก็นุ่มมากๆ เพราะเป็นผมแท้ เราเลือกวิกผมให้เพื่อนอย่างดีที่สุด ข้างในมีกัน ระคายเคือง
ราคาวิกผมที่เราซื้อมา ราคา 5,000 ค่ะ
หลังจากกลับมาที่หอ เราส่งรูปวิกที่เราซื้อมาไปให้พี่นัทดู พี่เค้าคงชื่นใจว่าสิ่งที่พี่เค้าช่วยเหลือ ตอนนี้เพื่อนเราได้รับน้ำใจนั้นเเล้ว
ตอนนี้เพื่อนเรามีความสุขมากค่ะ ออกไปไหนก็มั่นใจ ไม่หลบไม่ซ่อน ไม่มีท่าทีเขินอาย ก่อนหน้านี้เพื่อนเราจะออกไปข้างนอก
ต้องใส่หมวกแก้ปออกไป แล้วมันตลกมาก เพราะข้างหน้าตรงหน้าผาก เค้าไม่มีผมเลย คือดูยังไงก็เป็นคนหัวล้าน
บางคนก็บอกว่าไม่เห็นต้องอาย เอาผ้าโพกหัวไปเรียนสิ แต่เราว่าบางทีความมั่นใจก็เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตนะคะ
ทุกวันนี้ ในกลุ่มเรา ยังพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่เลย มีบางคนที่คณะไม่รู้ว่าเพื่อนเราผมร่วง บางคนก็สงสัยเเต่ไม่ได้ถาม
เดินไปไหนก็มีแต่คนมองแบบแปลกๆ หันไปกระซิบกัน นี่เป็นเรื่องจริงที่เพื่อนเราเจอค่ะ
-- ถ้าใครตามอินสตาแกรมพี่อั้ม ก็จะเห็นนะคะ ว่าพี่อั้มลงรูปพี่นัทบ่อยๆ เราจะรับรู้ได้เลยว่าพี่นัทใจบุญมากๆ
ชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ เพื่อนเราบอกว่าตอนหารูปพี่นัท เจอข่าวว่าพี่นัทได้รับรางวัลทำความดี บ่อยมากเลยค่ะ
"ขอขอบคุณพี่นัทมากๆ ครอบครัวพี่นัท เลี้ยงพี่นัทให้เติบโตมาเป็นคนดีจริงๆค่ะ มีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น
มีจิตใจที่เป็นสาธารณะ หายากนะคะ ที่จะมาเจออะไรแบบนี้ ทุกวันนี้เพื่อนเรามีความสุข เราก็มีความสุข
เราเล่าเรื่องนี้ให้แม่เราฟัง แม่เราชื่นชมพี่นัทมากๆ บอกว่าครอบครัวนี้เลี้ยงลูกดี เห็นได้รางวัลเรื่องทำความดีบ่อยมากๆ
ทุกวันนี้ พวกเราเป็นแฟนคลับพี่นัทเเล้วค่ะ เพื่อนเราบอกว่าพี่นัทเป็นผู้มีพระคุณอีกคนนึงเลยจริงๆ
ตอนนี้เพื่อนเราสามารถออกไปเรียน ออกไปทำงานพิเศษ ได้ตามที่ใจอยากทำ โดยไม่อายสายตาใครเเล้วค่ะ"
ขอให้ความดีครั้งนี้ ช่วยคุ้มครองพี่นัท ครอบครัวพี่นัท รวมทั้งคนที่พี่นัทรักทุกคนนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ
การงานเจริญก้าวหน้า ถึงเราจะไม่รู้จักกัน แต่พี่นัทก็ทำให้เพื่อนหนูซึ้งกับความมีน้ำใจของพี่
ช่วยเหลือโดยไม่ต้องการอะไรตอบเเทน ช่วยเหลือแม้จะไม่รู้จักหน้าค่าตากัน ขอบคุณมากๆค่ะ