ปีนี่เที่ยวกระจายจริงๆ กลับจากเชียงใหม่ปุ๊บวันรุ่งขึ้น (30 ธันวาคม 2556) ขับรถไปเที่ยว Jim Thompson Farm ต่อเลย(เกรงว่าถ้าเลื่อนไปเลื่อนมาจะไม่มีเวลาไป) ซื้อบัตรจากงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 29 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในราคา 100 บาท จากราคาหน้างาน 140 บาท ฟาร์มเปิดตั้งแต่เวลา 9.00 - 17.00 น. ปีนี้เปิดระหว่างวันที่14 ธันวาคม 2556 ถึง 12มกราคม 2557





เริ่มต้นเดินทางออกจากบ้าน 9.00 น. แวะทานข้าวเช้าที่แมคโดนัลด์แถวนวนคร ขับไปแบบเรื่อยๆ ไม่รีบ อากาศแถวสระบุรี/นครราชสีมาวันนั้นมีลมเย็น
แต่แดดแรงมาก) การจราจรไม่หนาแน่นรถเยอะแต่ไหลไปได้เรื่อยๆ ค่ะ แวะเข้าปั๊มประมาณ 3-4 ครั้งได้ (ทั้งซื้อกาแฟและปัสสาวะ) ห้องน้ำไฮโซเก็บค่าเข้าคนละ 20 แนะ เดินเข้าไปแล้วจะถอยกลับก็กระไรอยู่





โดนไป 40 บาท แงๆ



พอเข้ามา อุ๊ย!! อั๊ยยะ! มีมุมหนังอ่านหนังสือด้วย (แต่ใครจะเข้ามาอ่านบ้างหว่า ? )



ภายในห้องน้ำหญิง สะอาดใช้ได้ โอเคเลย



คุณแฟนถ่ายห้องน้ำชายมาให้





Jim Thompson Farm ตั้งอยู่ที่ ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เส้นทางไป Jim Thompson Farm ตามแผนที่เลยค่ะถ้ารู้ทางไปง่ายมาก



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  http://www.jimthompsonfarm.com/JIMTHOMPSON_FARM/HOME.html



จากปากทางถนนมิตรภาพ ต้องขับต่อไปอีก 30กว่าโลค่ะ เริ่มชนบทแหละ มีภูเขา ดงหญ้า ถนนเป็นหลุมบางช่วง (กลางคืนถนนไม่มีไฟชัวร์) มีบ้านคนบางประปราย กว่าจะไปถึงฟาร์มก็จะ 14.00 แล้ว (ขับไปได้สามชั่วโมงครึ่ง) T ^ T ไม่คิดว่ามันจะไกลขนาดนี้ดีนะที่มีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ ตลอด (ต้องสังเกตป้ายหน่อยนะค่ะเพราะไม่ใหญ่มาก)



ในที่สุดก็ถึงซะที สิ่งแรกที่เห็นคือ.....คนเยอะมาก.แห่กันมาจากไหนเนี่ย แย่งกันเที่ยว แย่งกันเข้าแย่งกันถ่ายรูปเจี๊ยวจ้าวยังกะทัวร์จีน ไอ้เรารึมาถึงก็ช้า เห็นคนเยอะก็รีบทำเวลากะเขาบ้างเพราะกลัวกลับเย็น (รู้งี้ตื่นตั้งแต่หกโมงก็ดี)



นำผ้าขาวม้ามาตกแต่งเก๋ไปอีกแบบ



จุดท่องเที่ยวต่างๆ ภายในฟาร์มมี 5จุดด้วยกันนะค่ะ คือ

จุดที่ 1 ทุ่งคอสมอสและแปลงเก็บผักปลอดสารพิษ

จุดที่ 2 ลานฟักทองและทุ่งไม้ดอก

จุดที่ 3 หมู่บ้านอีสาน

จุดที่ 4 หมู่บ้านจิม

จุดที่ 5 ตลาดจิม

ในปีนี้มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวทุกคนร่วมสนุก ด้วยการประทับตราให้ครบทั้ง 5 จุด และนำไปแลกของที่ระลึกค่ะ



แต่ก่อนเที่ยว ขอแวะเข้าห้องน้ำก่อนละกัน ห้องน้ำก็ทำแบบลูกทุ่งดีค่ะ



ชอบที่ล็อคประตูจัง



เราสามารถสามารถเดินชมฟาร์มหรือจะนั่งรถรางวนไปตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ได้ (แต่มาสายแล้วขอแค่แวะลงไปถ่ายภาพแชะๆ จนหน่ำใจ แล้วค่อยนั่ง
รถรางวนไปตามจุดต่างๆ และกัน เดี๋ยวเวลาจะไม่ทัน  



วิวระหว่างรอขึ้นรอรางค่ะ เข้าใจนำขอเหลือใช้มาประยุกต์ ดีจัง



เรานั่งรถผ่านทุ่งคอสมอสไปก่อน



ขอแค่แชะๆ ก็พอแล้ว



รถรางมาจอดที่จุดที่ 2 ลานฟักทองและทุ่งไม้ดอก



ใครอยากร่วมกิจกรรมตามป้ายนี้ก็เข้าร่วมได้นะค่ะ



ฟักทองของจริง ใหญ่มาก น่าขนกลับบ้านจัง







เดินไปดูทุ่งดอกไม้กันบ้างดีกว่า





ทำไมตานี้ถ่ายรูปเราไม่สวยเลยอ่า





คุณแฟนนี่เหมือนชาวไร่จริงๆ



ซูมไปได้จังหวะพอดี กับที่ผึ้งน้อยมาดูดน้ำหวาน โชคดีจัง



ถ่ายท่ามกลางดอกไม้ แมลงต่างๆ



รูปนี้จะเล็งเต่าทอง จ้องนานมาก ได้รูปมาแค่เนี่ย





นี้คือรถรางที่เรานั่งวนรอบฟาร์มค่ะ







ดอกอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าเดินจนเมื่อยขาก็ยังไม่ทั่วฟาร์มซะที





เริ่มร้อนละค่ะ







ไปชมหมู่บ้านอีสานบ้างดีกว่า



























ตัวอย่างบ้านของชาวอีสานค่ะ



มีนาข้าวของจริงด้วย







ขอถ่ายแบบย้อนแสงกิ๊บเก๋อีกสักมุม



หอไตรกลางน้ำ









มีกิจกรรมให้เก็บผักกลับบ้านด้วยนะค่ะ







ใครอยากเก็บผักเข้าไปเก็บได้ตามใจชอบที่แปลงได้เลย สด จากต้น





ชอบต้นฝักทองอะ น่ารักเชียว





สรุปว่าประทับตราครบทุกจุด เราได้โปสการ์ดมา 2 ใบ T^T คุณแฟนบ่นใหญ่เลยนึกว่าจะได้อะไรที่ดีกว่านี้เพราะเดินหาแต่ตราประทับ ไหนจะห่วงถ่ายรูปอีกต่างหาก ใช้เวลาอยู่ในฟาร์มประมาณ 2-3 ชั่วโมง(ความจริงอยากเดินให้ทั่วมากกว่านี้ เพราะตลาดจิมก็แวะลงดูคราวๆ คุณแฟนก็เร่งเพราะกลัวขากลับออกไปไฟถนนไม่มี เดี๋ยวจะหลงทางข้าวกลางวันก็ยังไม่ได้ทานกันเลยหิวมาก (ในฟาร์มมีของขายเยอะนะค่ะแต่เพราะเรากลัวเสียเวลาเลยไม่ยอมทานไรกัน ได้เวลาออกจากฟาร์ม 17.00 น. ตรงเป๊ะ รีบขับรถกลับกรุงเทพฯ ใหญ่เลยกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพตอนเวลา 20.30 น. (เหนื่อยมาก หิวจนลืมหิว แต่สนุกค่ะ) เย็นกลับมาโซ้ยโจ๊กแถวบ้านจนอิ่มละ

สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้

เติมน้ำมันไป – กลับ 1,500

ค่าอาหารเช้าประมาณ 200 บาท

ค่ากาแฟอเมซอน 2 แก้ว 101 บาท

ค่าเข้าห้องน้ำไฮโซ คนละ 20 บาท = 40 บาท

รวม 1,841 บาท จ้า ตีไว้ประมาณ 2,000 บาทได้เลย