คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ผมบอกประสบการณ์ของผมละกันนะครับ..
ก่อนอื่นต้องถาม จขกท. ก่อนสัญญาเป็นอย่างไรครับ มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ของผมจะระบุไว้ชัดเจนต้องจ่ายภายในวันที่ XX ถ้าจ่ายเกินปรับวันละ 50 บาท ผมเคยเจอผู้เช่ารายหนึ่งมาเช่าครับช่วงแรกๆก็เหมือนกันครับ จ่ายตรงเวลาแต่พอเวลาแต่พอมาเจอม๊อบเค้าก็ค้างค่าเช่าผมตลอด บอกผมว่าติดม๊อบ (ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย) ก็เป็นข้ออ้างขอเค้าครับ จริงๆการที่เค้าไม่จ่ายตามที่วันที่ผมระบุ XX ถือว่าสัญญาจะสิ้นสุดทันทีครับ แต่ผมก็ยังไม่อยากทำแบบนั้นครับ จนเค้าค่าเช่ามากกว่า 2 เดือนรวมกับค่าปรับซึ่งเป็นจำนวนเริ่มเยอะแล้วครับ (มันเกินเงินประกันแล้ว) ผมเลยตัดสินใจเด็ดขาดเลยครับ กำหนดเส้นตายให้กับผู้เช่า
- ให้ผู้เช่ามาจ่ายก่อน 50% ภายใน 3 วันและชำระให้หมดภายใน 10 วัน ถ้าไม่จ่ายจะปิดตัดระบบไฟ น้ำ ซึ่งผู้เช่าก็ยังไม่จ่ายครับผมเลยทำการตัดระบบน้ำ-ไฟทั้งหมด
- พอติดต่อคุยกับเข้าได้ลักษณะคล้ายๆกันครับ โทรติดต่อยากมากแต่ผมก็ติดต่อทั้งวัน จนที่สุดเค้าก็บอกเลิกสัญญาทั้งหมด ผมก็หยวนๆครับไม่อยากทำอะไรมาก
- ก็เลยกำหนดให้เค้ามาย้ายของออกภายใน 3 วัน แต่ในช่วง 3 วันนี้ผมจะไม่เข้าไปยุ่งกับทรัพย์สินเค้าเด็ดขาดครับ เพราะว่าถ้ามีชิ้นหายขึ้นมาเดี๋ยวจะมีปัญหาตามมา ก็เลยให้เค้ามาย้ายออกไปครับ (ภายในวันเดียวเค้าก็ขนออกหมดเกลี้ยงครับ) แต่กุญแจไม่ยอมคืนครับ โทรติดต่อตั้งหลายครั้งกว่าจะเอามาคืนครับ แต่พอปรากฏเข้าไปดูที่ห้อง ตัวห้องได้รับความเสียประมาณหนึ่งครับจึงทำให้ไม่สามารถหักเงินประกันอะไรเข้าได้เลยครับ
เลยเป็นบทเรียนให้ผมเลยครับ อย่าใจอ่อนเด็ดขาด ถ้าเงินค่าเช่าทั้งหมดค้างรวมกันใกล้จะเกินเงินประกันให้ยกเลิกสัญญาทันทีเลยครับ ก่อนจะคืนเงินประกันให้เค้า ตรวจห้องให้เรียบร้อยครับ ตรงไหนได้รับค่าเสียหายก็หักตามความเป็นจริงครับ
บทเรียนที่ 2 ต้องปรับจริงครับ เกินแม้แต่วันเดียวก็ต้องปรับครับเพื่อเป็นการบอกเค้าว่าอย่าทำอีก ถ้าทำอีกก็ต้องปรับอีก แต่ผมจะยกเว้นให้กรณีลูกค้าที่โทรมาแจ้งบอกล่วงหน้าครับ อย่างเช่นมีปัญหาเรื่องการเงิน หรือ ไปทำธุระแล้วไม่สามารถชำระได้ ตรงส่วนนี้ก็จะยืดหยุ่นให้ครับ
ปัญหาของเจ้ากระทู้ลองเช็คข้อกฏหมายดูครับ ผมไม่แน่ใจว่าเราสามารถล็อคห้องได้หรือเปล่าครับ หรือว่ามีเบรกเกอร์อยู่จุดอื่นที่จะสามารถตัดน้ำ-ไฟเค้าได้หรือเปล่า
ก่อนอื่นต้องถาม จขกท. ก่อนสัญญาเป็นอย่างไรครับ มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ของผมจะระบุไว้ชัดเจนต้องจ่ายภายในวันที่ XX ถ้าจ่ายเกินปรับวันละ 50 บาท ผมเคยเจอผู้เช่ารายหนึ่งมาเช่าครับช่วงแรกๆก็เหมือนกันครับ จ่ายตรงเวลาแต่พอเวลาแต่พอมาเจอม๊อบเค้าก็ค้างค่าเช่าผมตลอด บอกผมว่าติดม๊อบ (ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย) ก็เป็นข้ออ้างขอเค้าครับ จริงๆการที่เค้าไม่จ่ายตามที่วันที่ผมระบุ XX ถือว่าสัญญาจะสิ้นสุดทันทีครับ แต่ผมก็ยังไม่อยากทำแบบนั้นครับ จนเค้าค่าเช่ามากกว่า 2 เดือนรวมกับค่าปรับซึ่งเป็นจำนวนเริ่มเยอะแล้วครับ (มันเกินเงินประกันแล้ว) ผมเลยตัดสินใจเด็ดขาดเลยครับ กำหนดเส้นตายให้กับผู้เช่า
- ให้ผู้เช่ามาจ่ายก่อน 50% ภายใน 3 วันและชำระให้หมดภายใน 10 วัน ถ้าไม่จ่ายจะปิดตัดระบบไฟ น้ำ ซึ่งผู้เช่าก็ยังไม่จ่ายครับผมเลยทำการตัดระบบน้ำ-ไฟทั้งหมด
- พอติดต่อคุยกับเข้าได้ลักษณะคล้ายๆกันครับ โทรติดต่อยากมากแต่ผมก็ติดต่อทั้งวัน จนที่สุดเค้าก็บอกเลิกสัญญาทั้งหมด ผมก็หยวนๆครับไม่อยากทำอะไรมาก
- ก็เลยกำหนดให้เค้ามาย้ายของออกภายใน 3 วัน แต่ในช่วง 3 วันนี้ผมจะไม่เข้าไปยุ่งกับทรัพย์สินเค้าเด็ดขาดครับ เพราะว่าถ้ามีชิ้นหายขึ้นมาเดี๋ยวจะมีปัญหาตามมา ก็เลยให้เค้ามาย้ายออกไปครับ (ภายในวันเดียวเค้าก็ขนออกหมดเกลี้ยงครับ) แต่กุญแจไม่ยอมคืนครับ โทรติดต่อตั้งหลายครั้งกว่าจะเอามาคืนครับ แต่พอปรากฏเข้าไปดูที่ห้อง ตัวห้องได้รับความเสียประมาณหนึ่งครับจึงทำให้ไม่สามารถหักเงินประกันอะไรเข้าได้เลยครับ
เลยเป็นบทเรียนให้ผมเลยครับ อย่าใจอ่อนเด็ดขาด ถ้าเงินค่าเช่าทั้งหมดค้างรวมกันใกล้จะเกินเงินประกันให้ยกเลิกสัญญาทันทีเลยครับ ก่อนจะคืนเงินประกันให้เค้า ตรวจห้องให้เรียบร้อยครับ ตรงไหนได้รับค่าเสียหายก็หักตามความเป็นจริงครับ
บทเรียนที่ 2 ต้องปรับจริงครับ เกินแม้แต่วันเดียวก็ต้องปรับครับเพื่อเป็นการบอกเค้าว่าอย่าทำอีก ถ้าทำอีกก็ต้องปรับอีก แต่ผมจะยกเว้นให้กรณีลูกค้าที่โทรมาแจ้งบอกล่วงหน้าครับ อย่างเช่นมีปัญหาเรื่องการเงิน หรือ ไปทำธุระแล้วไม่สามารถชำระได้ ตรงส่วนนี้ก็จะยืดหยุ่นให้ครับ
ปัญหาของเจ้ากระทู้ลองเช็คข้อกฏหมายดูครับ ผมไม่แน่ใจว่าเราสามารถล็อคห้องได้หรือเปล่าครับ หรือว่ามีเบรกเกอร์อยู่จุดอื่นที่จะสามารถตัดน้ำ-ไฟเค้าได้หรือเปล่า
แสดงความคิดเห็น
ขอความช่วยเหลือค่ะ คนเช่าคอนโดไม่ยอมจ่ายค่าห้อง!!
แฟนเรามีคอนโดที่ห้วยขวาง ไม่เคยปล่อยเช่า (อยู่เองค่ะ ไปๆมาๆกับคอนโดที่อยู่ฝั่งธนฯ ซึ่งใกล้ที่ทำงานมากกว่า)
ปีที่แล้ว แม่แฟนโทรฯมาบอกว่ามีคนรู้จักแม่ (ไม่ใช่เพื่อนแม่นะคะ แค่รู้จักตอนไปฟังสัมมนาอะไรซักอย่างแค่ครั้งเดียว) มาขอเช่าห้อง...
ปกติเค้าอยู่ต่างจังหวัด (จังหวัดเดียวกับแม่แฟน) ทำงานเป็นผู้จัดการ ในบริษัทขายประกันแห่งนึง
เท่าที่ทราบจากแม่แฟน ผู้หญิงคนนี้เค้าค่อนข้างมีฐานะ มีตึกแถวราคาเป็นสิบๆล้านนะ
อยากมาเช่าห้อง เผื่อมาสำนักงานใหญ่ที่ห้วยขวางช่วงเสาร์-อาทิตย์ จะได้มาพักผ่อนกับลูกสาวที่เรียนโรงเรียนประจำใน กทม.
และถ้าชอบ ก็จะซื้อต่อเลย
...เนื่องจากแฟนต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าน้ำไฟของที่พักสองที่อยู่แล้ว
เลยตัดสินใจปล่อยเช่าที่ 12,000 บาท ก็ตกลงทำสัญญากัน 6 เดือน + ค่าประกันของเสียหาย 12,000 บาท
(ปกติราคาค่าเช่าคอนโดที่แฟนอยู่ ห้องอื่นปล่อยเช่าในราคาประมาณ 15,000-20,000บาท แต่เพราะเห็นรู้จักกับแม่ เลยคิดเท่านี้)
เดือนเเรกผ่านไปด้วยดี จ่ายค่าห้องตรงเวลา...
...พอเดือนที่สองเริ่มออกลายค่ะ เลยกำหนดมา 1 อาทิตย์เงียบหาย ไม่โอนไม่ติดต่อใดๆมาทั้งสิ้น
แฟนเราก็ยังไม่กล้าทวงนะคะ ยังเกรงใจ ปล่อยเวลาล่วงเลยมาเกือบ 2 อาทิตย์
จึงได้ส่ง line ไปถามถึงคุณน้าคนนั้น เค้าก็อ่านนะคะ แต่ไม่ตอบ
ผ่านไปเกือบเดือน (จะทบเดือนใหม่อยู่แล้ว) เลยโทรฯไปหลายครั้งค่ะ แต่เค้าก็ไม่รับสาย
จนรุ่งขึ้นของอีกวันเค้าก็ส่ง Line กลับมาขอโทษค่ะ บอกว่า โทษที น้าไปปฏิบัติธรรมที่วัด (เป็นเดือนเนี่ยนะ!!! เชื่อก็เชื่อวะ)
เดี๋ยวรอให้ถึงสิ้นเดือนของเดือนที่ 3 จะโอนให้ทีเดียว 24,000 บาท ก็โอนมาจริงๆค่ะ
แต่กว่าจะโอนนี่ก็ต้องทวง ต้องเป็นฝ่ายติดต่อไปอยู่ฝ่ายเดียว เหนื่อยค่ะ
...พอครั้งที่สาม - สี -ห้า เหมือนเดิมเลยค่ะ จ่ายไม่ตรงเวลา ช้าไปเป็นเดือนตลอด
แต่ครั้งนี้โทรฯไปตื๊ดเดียว ก็โดนกดตัดสายตลอดค่ะ น่าเกลียดมาก
พยายามติดต่อยังไงก็ไม่ได้ ส่ง line ไป ก็อ่านอย่างเดียว
กว่าจะโอนได้อ้างนั่นอ้างนี่ตลอด
(จริงๆถ้าไม่มีจ่ายก็น่าจะคุยกันได้ ผลัดผ่อนได้ค่ะ หนีหายแบบนี้แฟนเครียดค่ะ)
....พอถึงช่วงใกล้เดือนสุดท้ายเค้าก็โอนค่าเช่ามาค่อนข้างตรงเวลาค่ะ
แฟนเราก็พยายามโทรไป พยายามติดต่อทุกวัน อยากคุยว่าจะเช่าต่อหรือไม่ยังไง
(ใจแฟนเราไม่อยากให้เค้าเช่าต่อแล้วค่ะ อยากหาคนเช่าใหม่ที่ดีๆกว่านี้)
แต่เหมือนเดิมค่ะ เลยวันครบกำหนดสัญญาเช่ามาแล้วก็ไม่รับสายค่ะ เงียบหาย
....สองอาทิตย์ที่แล้ว (เลยกำหนดสัญญามา 1 เกือบเดือนแล้วค่ะ) แฟนเรามีธุระต้องไปทำแถวนั้น
เลยชวนเราแวะไปคอนโด (ไปเอาจดหมายเรื่องภาษี)
ปรากฏเปิดตู้จดหมายมา เจอพวกหนังสือเตือนจากการไฟฟ้า เนื่องจากค้างค่าไฟ
พอหยิบดูพวกใบเสร็จค่าไฟฟ้าเดือนก่อนๆ ก็อึ้งเล็กน้อย ไหนบอกมาอยู่แค่เสาอาทิตย์ ทำไมค่าไฟตั้งสี่พันตลอดเลย
ช่วงที่อยู่เองทุกวัน เปิดแอร์ทั้งวัน ค่าไฟอย่างมากตกเดือนละสองพันกว่าเอง จึงค่อนข้างแน่ใจว่ามาอยู่บ่อยกว่านั้นแน่นอน.....
.....เลยพากันไปเคาะห้องค่ะ ปรากฏมีผู้ชายคนนึงเปิดประตูออกมา บอกว่าเป็นสามีคุณน้าคนนั้น
ก็เชิญพวกเราเข้าไปในห้อง สภาพห้องที่เราเห็นเปลี่ยนไปเยอะพอสมควร ห้องค่อนข้างรก
มีการเอาวัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างเข้ามาวางเพิ่ม เหมือนมาอยู่กันบ่อยมาก ซึ่งอันนั้นไม่ว่ากันอยู่แล้ว
แต่ที่รับไม่ได้ คือมีเจาะกำแพงผ่านผนังบริเวณที่มี wallpaper ราคาแพง เพื่อติดตั้งเครื่องกรองน้ำ โดยไม่ถามกันเลย!!
....เราก็แนะนำตัวว่าเป็นเจ้าของห้อง มาขอพบน้าคนนั้น เพื่อคุยเรื่องเลยสัญญาเช่ามาเดือนนึงแล้วนะ
เค้าก็ไม่รู้ไม่เห็นอย่างเดียว ให้ไปคุยกับน้าคนนั้นเอง
เราก็เลยบอกไปว่าติดต่อไม่ได้ และขอให้สามีเค้าช่วยเอาโทรศัพท์ของเค้าโทรฯหาน้าคนนั้นหน่อย
เค้าก็อึกอักเล็กน้อยแต่ก็โทรให้ ปรากฏน้าคนนั้นเค้ารับสายค่ะ
แล้วก็ได้คุยกัน เค้าบอกว่า อีก 2 วันเค้าจะติดต่อไปเอง เพื่อนัดสถานที่คุย ให้กลับไปก่อน..
เราก็กลับไปค่ะ พอครบกำหนดก็เงียบหาย แฟนเราก็กระหน่ำโทรค่ะ เค้าก็ไม่รับ
เลยตัดสินใจโทรไปเบอร์ลูกสาวเค้า ขอสายคุณแม่เค้า
(ลูกเค้าคงไม่รู้เรื่อง ก็บอกคุณแม่นั่งอยู่ข้างๆนะคะ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้คุยกัน)
ก็เลยนัดคุยกันที่เซนทรัลลาดพร้าว ในวันที่ 9 กพ ที่ผ่านมา....................
....พอถึงวันนัด เรากะแฟนไปรอห้างตามนัด แต่ติดต่อไม่ได้ โทรเหมือนปิดเครื่องอยู่ตลอดเวลา
แฟนเราเลยลองเอาโทรศัพท์เราโทรไป ปรากฏว่าโทรติด แต่เค้าไม่รับนะคะ
เลยทราบค่ะ ว่าเค้าบล๊อกเบอร์แฟนเรา...
แฟนเราก็ไม่พอใจมากที่บล๊อกเบอร์ค่ะ ขับรถตรงไปที่คอนโดทันที ไปเคาะห้องอีกครั้ง
คราวนี้ลูกสาวเค้าอยู่ น้องเค้าบอกแม่ไม่อยู่ เราเลยขอให้น้องโทรหาคุณแม่ให้หน่อย
คราวนี้น้องเค้าก็บอกโทรศัพท์เสีย (คุณแม่คงเตี๊ยมให้ตอบแบบนั้น)
เราก็ขอความเห็นใจน้องเค้า ว่าพวกพี่เหนื่อยจริงๆนะ ไปรอที่ห้างมาตั้งนาน
...คราวนี้ถ้าไม่ได้คุยพี่คงต้องยืนรอเจอหน้าห้องเนี่ยแหละ
น้องเค้าเลยเดินไปเอาโทรศัพท์มาโทรให้ คุยกันได้ความว่าเค้าจะขออยู่ถึง 6 มีนาคมนี้ แล้วจะไม่เช่าต่อ
(เท่ากับว่าอยู่เลยกำหนดไปสองเดือน) แฟนเราก็คิดค่าเช่าเพิ่ม 2เดือน คือ 24,000 บาท
เค้าก็บอกว่า จะโอนให้ 24,000 ภายในคืนนี้เลย (9 ก.พ.)
จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ก็เข้าอีหรอบเดิมเลยค่ะ ไม่ติดต่อมา บล๊อกเบอร์โทร
ทางแฟนเราเองก้ใช่ว่าจะขับรถไปหาไกลๆได้ทุกวัน
สงสารแฟน แฟนปวดหัวมาก เราก็พลอยเครียดไม่ด้วย
ไม่รู้เป็นเพราะเค้าเห็นเราเป็นเด็ก เลยไม่สนใจใยดีรึเปล่า เราคิดว่าเงินเค้าน่ะมี แต่เค้าเอาไปใช้อย่างอื่นมากกว่า
หรือเป็นเพราะทางแฟนเราเกรงใจ คุยดีกับเค้าเกินไปเค้าเลยไม่ค่อยเกรงใจเรา??????
ไม่รู้จะทำไงดีค่ะ แฟนเคยโทรไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง
แม่เค้าก็ค่อนข้างพูดเข้าข้างฝ่ายนั้น ประมาณว่าเค้าคงมีความจำเป็น อย่าไปว่าเค้าเลย ให้รอและหาวิธีจัดการเอาเอง
ส่วนพ่อแฟนเข้าข้างแฟนเต็มที่ ทำให้คุณพ่อคุณแม่แฟนทะเลาะกันเรื่องนี้มาแล้ว
แฟนเราเลยไม่อยากโทรไปรบกวนท่านอีก......เฮ้อออ!!!
ขอถามคนที่มีประสบการณ์หรือคนที่มีความรู้เรื่องกฏหมาย หรือใครก็ได้ค่ะ ตอนนี้เครียดกันมาก เจอคนแบบนี้...