บ้านเราอยู่กรุงเทพฯ เราซื้อหมาปอมเพศผู้จากฟาร์ม แข็งแรงมาก หน้าตาน่ารักเหมือนลูกสิงโต ขนฟูนุ่ม ฉลาดมากๆๆอายุได้ 3 เดือนก็สวัสดียืน 2 ขา เป็น เวลาต้องการอะไรก็สวัสดีไม่หยุด เช้าจะเป็นเหมือนนาฬิกาปลุก จะส่งเสียงบ่นเล็กๆ ตอน 6 โมงเช้า อุ้มลงมาชั้นล่าง ก็จะวิ่งไปฉี่ในห้องน้ำ แล้วมาอึที่ถาดทุกเช้า แล้วจะไปดีดเท้า (เช็ดเท้า)ที่พรมหน้าบันได เวลาอาบน้ำก็อยากจะเข้าห้องน้ำด้วย เวลาบิดขี้เกียจก็จะเหยียดเท้าไปข้างหน้า เสร็จแล้วก็จะยืนขึ้นยกเท้าหลังขึ้นทีละข้าง (กลางคืนให้นอนกรงเล็ก) เวลายกโต๊ะรีดผ้าก็จะวิ่งมาส่งเสียงคำรามในคอแล้วจะช่วยคาบที่ขาโต๊ะ เวลาไดร์ทผมก็จะมานั่งเฝ้า เราก็จะแกล้งหันไดร์ทใส่เวลาเผลอแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ เวลาหยิบกุญแจก็จะคอยดูถ้าเป็นกุญแจบ้านก็จะเฉยๆ แต่ถ้าเห็นเป็นกุญแจรถยนต์จะวิ่งไปดักรอที่หน้าประตูเหล็กดัดมุ้งลวดของบ้านทันที กลัวถูกทิ้งเฝ้าบ้าน ถ้าออกประตูไปเพื่อขยับรถ ก็จะกระโดดตัวลอยที่ประตูกระโดดสูงมาก ประมาณ 60 ซม. เหมือนเท้าติดสปริง เมื่อเลิกงานกลับมา ก็จะเอาลูกหมาออกจากกรง ลูกหมาก็จะวิ่งไปอึที่ถาดทันที แล้วก็วิ่งมาหาเราฉี่ปริ๊ด แล้วค่อยวิ่งไปที่ฉี่ที่ถาดอีกครั้ง มันชอบโชว์ให้เห็นความฉลาดและน่ารัก อารมณ์ดีตลอด ขี้เล่น ไม่ว่าเราจะกลับดึกแค่ไหนก็จะไม่ยอมอึในกรง เว้นแต่ ท้องเสียเท่านั้น เราพาลูกหมาไปเที่ยวทุกที่ที่ไม่มีข้อห้ามของสถานที่นั้นๆ โดยใช้กระเป๋าใส่แล้วสะพายเหมือนเป็นกระเป๋าตุ๊กตาหมา ไปไหนก็ไม่เห่าจะเรียบร้อยเงียบมาก ชอบสวัสดีเด็กปั๊ม ลูกหมาน้ำหนัก 2.3 กก. น่ารักเหมือนตุ๊กตาหมา ตัวเล็กๆ เวลาเกาคาง เกาพุง ก็จะชอบมากเคลิ้มจะหลับทุกครั้ง เราให้ลูกหมากินวิตามินบำรุงร่างกาย บำรุงขนให้สวยนุ่ม ลูกหมาจะแข็งแรงมากๆ ไม่เคยป่วย เวลาดิ้นไม่ให้อุ้ม 2 คนช่วยกันจับยังจับไม่อยู่ เราระมัดระวังในการดูแลลูกหมาตลอดลูกหมาอยู่กับเราจนอายุจะครบ 11 เดือน ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557
วันที่ 1 ก.พ.57 เราก็เอาลูกหมาปอมไปอาบน้ำที่รพ.สัตว์ แห่งหนึ่งในจังหวัดใกล้เคียง เป็นร้านประจำ เราชอบที่ช่างที่เรียนจบมาจากสถาบันที่มีชื่อเสียงและใส่ใจในการอาบน้ำตัดขนมากๆ แต่วันนั้นช่างไม่อยู่ลา 2 วัน ที่รพ.สัตว์ บอกว่ามีพนักงานคนอื่นทำได้โดยจะอาบน้ำและตัดขนที่ก้นและท้องให้ เราก็เลยส่งลูกหมาให้อาบน้ำ เข้าไปดู 3 รอบ ก็ยังไม่ถึงคิว จนกระทั่งเวลา 16.00 น. ก็ได้คิวแระ เลยออกมานั่งรอนอกรพ. พอ 16.20 น.เพื่อนเราเข้าไปเพื่อรอรับลูกหมา เรารอในรถเพื่อจะขับรถไปรับที่หน้าร้าน เพื่อนก็โทรมาบอกว่าลูกหมาช็อค เราเข่าอ่อนทันทีวิ่งเข้าไปในรพ.เห็นลูกหมานอนในมือพนักงานคนหนึ่ง ตาเหลือกค้างทั้ง2 ข้างจนเห็นตาขาว ปกติลูกหมาจะตาสีดำเหมือนเม็ดลำไย กำลังให้ดมออกซิเจน เราถามหมอ หมอบอกว่าช็อคหยุดหายใจไปและปั้มขึ้นมา ยังไม่ค่อยรู้สึกตัว ดูสัก 2 ชั่วโมงอาการก็เริ่มดีขึ้น มีอาการตอบสนอง มีฉี่ออกมาเป็นระยะๆ จนกระทั่งทุ่มครึ่งลูกหมาก็หมดสติหยุดหายใจอีก หมอปั้มหัวใจ ให้ยาช่วย ให้น้ำเกลือ ออกซิเจน จนอาการก็ดีหายใจดี แล้ว 22.30 น. ก็เริ่มมีเลือดออกจากปากลูกหมา จนเที่ยงคืนก็มีอาการหยุดหายใจเป็นครั้งที่ 3 หมอปั้มหัวใจอีกครั้ง เลือดยังไหลออกจากปากตลอด และร่างกายเริ่มไม่มีอาการตอบสนอง จนกระทั่งเวลา 02.30 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ลูกหมาก็สิ้นใจตายที่รพ. เราร้องไห้ใจจะขาด นึกไม่ถึงว่าการที่เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ในการอาบน้ำ จะทำให้ลูกหมาตายได้ เราเอาลูกหมามาทำพิธีที่วัดไก่เตี้ย กรุงเทพฯ แล้วเอามาฝังที่บ้าน วันที่ 8 ก.พ.57 เราไปทำบุญ 7 วัน ถวายผ้าไตร เลี้ยงพระเพล ให้พระสวดบังสกุลให้กับลูกหมา โดยเจ้าของรพ.สัตว์ แสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมาร่วมในการทำบุญนี้ด้วย เราได้อโหสิกรรมให้เพื่อเป็นบุญให้กับลูกหมาเพื่อให้ได้ไปในภพภูมิที่ดีต่อไป เราจึงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ให้เจ้าของหมาได้ระวังในเรื่องการอาบน้ำ เพื่อที่จะได้ไม่สูญเสียเหมือนอย่างเรา เพราะความผิดพลาดของพนักงานเพียงครั้งเดียวไม่มีโอกาสให้แก้ไขอีกเลย (เราถามเจ้าของรพ.สัตว์ บอกว่าลูกหมาดิ้นสบัดหลุดจากเชือกที่คล้องตัวหลุดจากโต๊ะที่ติดอ่างอาบน้ำ แล้วหล่นไปในอ่าง พอเอาขึ้นมาได้ก็ใช้ไดร์ทเป่าไม่ถึง 2 นาที ก็ช็อค)
อุทาหรณ์มือใหม่หัดเลี้ยงหมา
วันที่ 1 ก.พ.57 เราก็เอาลูกหมาปอมไปอาบน้ำที่รพ.สัตว์ แห่งหนึ่งในจังหวัดใกล้เคียง เป็นร้านประจำ เราชอบที่ช่างที่เรียนจบมาจากสถาบันที่มีชื่อเสียงและใส่ใจในการอาบน้ำตัดขนมากๆ แต่วันนั้นช่างไม่อยู่ลา 2 วัน ที่รพ.สัตว์ บอกว่ามีพนักงานคนอื่นทำได้โดยจะอาบน้ำและตัดขนที่ก้นและท้องให้ เราก็เลยส่งลูกหมาให้อาบน้ำ เข้าไปดู 3 รอบ ก็ยังไม่ถึงคิว จนกระทั่งเวลา 16.00 น. ก็ได้คิวแระ เลยออกมานั่งรอนอกรพ. พอ 16.20 น.เพื่อนเราเข้าไปเพื่อรอรับลูกหมา เรารอในรถเพื่อจะขับรถไปรับที่หน้าร้าน เพื่อนก็โทรมาบอกว่าลูกหมาช็อค เราเข่าอ่อนทันทีวิ่งเข้าไปในรพ.เห็นลูกหมานอนในมือพนักงานคนหนึ่ง ตาเหลือกค้างทั้ง2 ข้างจนเห็นตาขาว ปกติลูกหมาจะตาสีดำเหมือนเม็ดลำไย กำลังให้ดมออกซิเจน เราถามหมอ หมอบอกว่าช็อคหยุดหายใจไปและปั้มขึ้นมา ยังไม่ค่อยรู้สึกตัว ดูสัก 2 ชั่วโมงอาการก็เริ่มดีขึ้น มีอาการตอบสนอง มีฉี่ออกมาเป็นระยะๆ จนกระทั่งทุ่มครึ่งลูกหมาก็หมดสติหยุดหายใจอีก หมอปั้มหัวใจ ให้ยาช่วย ให้น้ำเกลือ ออกซิเจน จนอาการก็ดีหายใจดี แล้ว 22.30 น. ก็เริ่มมีเลือดออกจากปากลูกหมา จนเที่ยงคืนก็มีอาการหยุดหายใจเป็นครั้งที่ 3 หมอปั้มหัวใจอีกครั้ง เลือดยังไหลออกจากปากตลอด และร่างกายเริ่มไม่มีอาการตอบสนอง จนกระทั่งเวลา 02.30 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ลูกหมาก็สิ้นใจตายที่รพ. เราร้องไห้ใจจะขาด นึกไม่ถึงว่าการที่เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ในการอาบน้ำ จะทำให้ลูกหมาตายได้ เราเอาลูกหมามาทำพิธีที่วัดไก่เตี้ย กรุงเทพฯ แล้วเอามาฝังที่บ้าน วันที่ 8 ก.พ.57 เราไปทำบุญ 7 วัน ถวายผ้าไตร เลี้ยงพระเพล ให้พระสวดบังสกุลให้กับลูกหมา โดยเจ้าของรพ.สัตว์ แสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมาร่วมในการทำบุญนี้ด้วย เราได้อโหสิกรรมให้เพื่อเป็นบุญให้กับลูกหมาเพื่อให้ได้ไปในภพภูมิที่ดีต่อไป เราจึงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ให้เจ้าของหมาได้ระวังในเรื่องการอาบน้ำ เพื่อที่จะได้ไม่สูญเสียเหมือนอย่างเรา เพราะความผิดพลาดของพนักงานเพียงครั้งเดียวไม่มีโอกาสให้แก้ไขอีกเลย (เราถามเจ้าของรพ.สัตว์ บอกว่าลูกหมาดิ้นสบัดหลุดจากเชือกที่คล้องตัวหลุดจากโต๊ะที่ติดอ่างอาบน้ำ แล้วหล่นไปในอ่าง พอเอาขึ้นมาได้ก็ใช้ไดร์ทเป่าไม่ถึง 2 นาที ก็ช็อค)