สวัสดี ทุกท่านครับ ผมได้สนใจ City ตัวใหม่ เลยลากเพื่อน ที่มีความรู้ ด้านรถมาทดลองขับกับผมให้เจ้าเพื่อนอธิบายข้อดีข้อเสียต่างๆ(ออกตัวล้อฟรีก่อนว่า ไม่มีความรู้ด้านรถเลยจริงๆ ครับขับได้อย่างเดียว T^T) เพื่อน จึงได้เขียนรีวิว และฝากกระผม ลงพันทิป เพื่อเป็นข้อมูลการตัดสินใจ ผิดพลาดประการใด ขออภัย แทนเพื่อนผมด้วยนะครับ
"เอาหละคับ เราจะมาเริ่มรีวิว Test drive 2014 Honda City กันซะทีนะครับ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคุณเพื่อน(ผมเบิร์ด จขกท+แฟน) ที่มาปรึกษาเรื่องจะซื้อรถ เลยได้ไปทดสอบและทดลองขับมาเมื่อวานนี้ และที่สำคัญขอขอบคุณเซลล์ ใหม่ เพื่อนเซลล์ของไอ้ 2 คนข้างบนที่กล่าวถึงไป ดูแลเพื่อนอย่างดีบริการอย่างดี สนใจซื้อ/ทดลองขับ/จอง ติดต่อได้ที่โชว์รูมฮอนด้าบางกอกน้อยติดต่เซลล์ใหม่ได้เลยนะครับ บอกไปเลยว่า เพื่อนเติ้งกับเพื่อนเบิร์ดแนะนำมา
เอาหละครับมาเริ่มกันเลย รถที่ที่ลองขับคือรุ่น SV นะครับ แต่ที่จะซื้อคือ SV+
1.รูปทรงมิติภายนอก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใหญ่ขึ้นกว่า Gen.3 นิดนึง แต่ทำออกมาได้กระทัดรัดสวยงาม ดูมีมิติมากขึ้นกว่าตัวเดิมชัดเจน เส้นสายด้านข้างชัดเจนขึ้นกว่าตัวก่อน สวยกว่าเดิมเยอะครับ
แต่มีข้อติ ซึ่งตอนนี้รถทุกยี่ห้อเหมือนกันหมดคือ คิ้วกันกระแทกด้านข้างหนะครับ เอากลับมาเถอะ เอาออกทำไม ประโยชน์มันมีครับเอากลับมาเถอะนะเชื่อผม อีกอันนึงคือกระจกมองข้างครับ มันเล็กไปนะ ผมว่าใหญ่กว่านี้อีกนิดก็ได้ ไฟหน้าอาจจะดูด้อยไปนิดถ้าเทียบกับคู่แข่งเพราะยังเป็น multi-reflector ซึ่งในคู่แข่งเค้าก็ใช้ projector ไปแล้ว
แต่ว่ากันจริงๆ ความสว่างก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอกครับส่วนด้านท้ายลงตัวกว่าตัวก่อนเยอะครับสวยใช้ได้ จริงๆเรื่องรูปทรงภายนอกนี่ว่ากันตามตรงเลยคือนานาจิตตังครับ บางคนบอกว่าสวยบางคนบอกไม่สวย ก็แล้วแต่นะครับ ส่วนตัวผมผมว่าสวยใช้ได้อยู่นะ ขอจบเรื่องมิติภายนอกเท่านี้แล้วกันนะครับอาจจะไม่ละเอียดเท่าไหร่ แต่มันเป็นเพราะความนานจิตตังนะ
2.การขับขี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ต้องขอออกตัวก่อนตรงนี้เลยว่า ส่วนตัวผมไม่ได้ชอบใจอะไรกับเกียร์ CVT เลยนะเพราะเคยสัมผัสมาใน Jazz ตัวแรก และ Almera ของพี่สาว ไม่เคยประทับใจเลยในการขับขี่ แต่ต้องมาเปลี่ยนทัศนคติใหม่กับ CVT ตัวนี้ที่วางใน HONDA City ใหม่ ถามว่าทำไมเดี๋ยวจะมาอธิบายให้ฟังนะครับ
เครื่องยนต์ใช้เป็นตัวเดิม รหัส L15A i-VTEC เช่นเดียวกับตัวที่แล้ว แรงม้า 117 แรงม้า หายไป 3 ตัวจากรุ่นที่แล้ว แต่ที่พิเศษกว่าก็คือ แรงบิดเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม และยังสามารถเติม Gasohol E85 ได้ด้วย แรงม้าที่หายไป 3 ตัวนี่ก็คือการปรับเซ็ตเครื่องยนต์ที่ให้คบหากับ E85 ได้นะครับ จริงๆแล้วรถระดับนี้มีม้าเกิน 110 ตัวนี่ก็โอเคสุดๆแล้วนะครับ กำลังของเครื่องยนต์ทั้งแรงม้าและแรงบิดนี่ถือว่าดีที่สุดในกลุ่ม B Segment แล้วครับ
อัตราเร่งค่อนข้างดีถึงดีมาก (ไม่กล้าบอกว่าดีที่สุดในกลุ่มเดี๋ยวจะหาว่าเราเข้าข้าง HONDA) การขับขี่ค่อนข้างทันอกทันใจเนื่องจากได้ CVT มาเป็นตัวส่งกำลัง อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าจริงๆแล้วสวนตัว ผมไม่ค่อยชอบ CVT เท่าไหร่ แต่พอมาเจอเกียร์ CVT ตัวใหม่ลูกนี้ของ HONDA ขอบอกเลยว่า เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงครับ อัตราเร่งดีมาก การถ่ายทอดกำลังนุ่มนวลมากๆ เวลาเบรคก็มี Engine Brake มาเยอะกว่า CVT ตัวก่อน(แต่ยังไม่เยอะเท่าเกียร์ออโต้แบบธรรมดา) เกียร์สามารถถ่ายทอดกำลังมาได้อย่างต่อเนื่อง
แต่ขอตินิดนึงตรงช่วง Kick Down เกียร์กระตุกแรงไปนิดนึง แต่พอรับได้ครับไม่ได้น่าเกลียดอะไรมาก แค่สัมผัสได้ถึงความไม่นุ่มนวลเล็กน้อย(ส่วนตัวผมคิดว่าถือว่าทำได้ดีแล้วกับรถระดับนี้) การออกตัวจังหวะแซงจากหยุดนิ่ง กำลังของเครื่องและการทำงานของเกียร์ทำให้มีความรู้สึกว่าสบายใจ ในการแซงเปลี่ยนช่องทางมากๆ ขับในเมืองที่รถติดๆมีการเปลี่ยนเลนบ่อยๆได้ไม่ต้องเครียดเพราะแค่กดคันเร่งไปเบาๆรถก็พร้อมที่จะพุ่งออกไปได้เลยในทันที
อ่อ เกือบลืมเลยว่ารถคันนี้ใช้คันเร่งไฟฟ้าด้วย ทำไมถึงเกือบลืม? เพราะอาการของรถเวลากดคันเร่งนั้นไม่เหมือนกับคันเร่งไฟฟ้าเลย ให้ความรู้สึกเหมือนกับคันเร่งแบบสายเคเบิ้ลเลย ไม่มีอาการรอแบบว่ากดคันเร่งไปแล้ว อีก1 วินาทีรถค่อยพุ่งออกไป อาการแบบคิดดูก่อนแบบนี้ไม่มีให้เห็นใน City ใหม่เลยครับ อัตราเร่งค่อนข้างดี จากที่ลองกดเต็มตีนดูจาก 0-100 นี่น่าจะได้ซักประมาณ 10-11 วินาทีครับ อันนี้ตัวเลขไม่แน่นอนเพราะไม่ได้ทำการวัดจริงจัง แล้วต้องขอบอกว่าตัวเลขค่าประมาณนี้ ในรถนั่งกัน 4 คนนะครับ ตัวผมก็เฉียดๆ 90 กก. เพื่อนผมคนนึงเกือบ 100 กก. อีกคนก็น่าจะ 65 กก. เซลล์อีก 1 คน ผมว่าอัตราเร่งได้เท่านี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยครับ
ลืมบอกไปว่า CVT ที่วางใน City ใหม่นี้ เซลล์บอกมาว่า HONDA พัฒนาร่วมกับค่ายรถยุโรปค่ายหนึ่งด้วย ไม่ขอเอ่ยชื่อนะครับ ความทนทานก็มากขึ้นกว่า CVT ตัวก่อน แต่โดยส่วนตัว ผมก็ยังคิดว่า CVT มันก็ยังบอบบางอยู่ดี เพราะฉะนั้น ถ้าซื้อมาใช้ก็ดูแลเกียร์เป้นพิเศษหน่อยนะครับ เพราะ CVT ต้องการการเอาใจใส่มากกว่าเกียร์ออโต้แบบธรรมดาซักนิดนึง ในตัวรุ่น SV ที่ทดสอบนี้ เกียร์จะมีโหมด 7 Speed ด้วยนะครับ มาพร้อมกับ Paddle Shitf ที่พวงมาลัยด้วย ลักษณะการทำงานคือ ถ้าอยู่ในตำแหน่ง D เกียร์ก็จะทำงานตามปกติไปเรื่อยๆ เมื่อใดก็ตามที่เลื่อนมาที่ตำแหน่ง S รอบเครื่องยนต์จะตวัดสูงขึ้น รองรับการขับขี่ในแบบสปอร์ต ถ้ายังไม่มีการใช้ paddle shift ที่พวงมาลัยก็จะยังไม่เข้าสู่โหมด 7 Speed แต่เมื่อใดก็ตามที่กด + หรือ - ก็จะเข้าสู่โหมด 7 Speed ทันที แต่ถ้าลากรอบยัน Red line ในโหมดนี้ เกียร์ก็จะปรับตำแหน่งให้สูงขึ้นโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการเสียหายของชุดเกียร์ด้วย
3.ห้องโดยสาร - อุปกรณ์ภายใน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้างในนั่งสบายครับ กว้างขวางมาก แต่โดยส่วนตัวแล้วผมขับ ACCORD มันก็เลยรู้สึกว่ามันเล็กไปนิดนึง ก็ต้องไปลองดูครับ แต่อันนี้ที่ผมบอกด้ว่ามันกว้างก็เพราะว่า 1.เคยนั่งตัว Type Z ของเพื่อนมาแล้ว 2.ลุงกับอาผมใช้ City Gen.2 ผมก็นั่งมาแล้ว 3.เพื่อนผมอีกแหละ ใช้ตัว Gen.3 ผมก็นั่งมาละ เลยรู้ได้ทันทีที่ขึ้นไปนั่งเลยว่า มันกว้างขึ้นจริงๆ แผงหน้าปัดคอนโซลก็ดูดีสมราคา ชุดควบคุมเครื่องเสียงกับแอร์ ก็เป็นแบบ Touch Screen หน้าจอ 7 นิ้ว ซึ่งสามารถควบคุมการทำงานของเครื่องเสียงได้บนพวงมาลัยเช่นกัน เครื่องเสียงมาพร้อมกับระบบเชื่อต่อ siri ด้วย ต่อ iPod ต่อ USB ต่อแบบ HDMI ก็ได้ ลองไปดูวิธีใช้งานได้ที่หน้าเพจ Honda City 2014 Club Thailand ได้นะครับ
ส่วนระบบปรับอากาศ ก็มีแบบอัตโนมัติด้วย แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ทำแบบ Dual Zone มาให้ สวิชต์ควบคุมก็เป็นแบบ Touch Screen เหมือนกัน หน้าปัดเป็นแบบเรืองแสงสีฟ้า มี ECO Coach มาด้วย คือถ้าลักษณะการขับขี่ของเราประหยัด บนหน้าปัก็จะขึ้นไฟสีเขียวให้ แต่เมื่อใดก็ตามที่กดคันเร่งหนักๆ ไฟจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เตือนให้เรารู้ว่า ไม่ประหยัดแล้วนะ มีมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองให้แบบ Real Time มาด้วย แต่ ขอติ....อีกแล้ว ไม่รู้ว่า B Segment นี่มันจะประหยัดอะไรกันนักหนา กะอีแค่มาตรวัดความร้อนเครื่องยนต์เนี่ย ทำไมให้กันมาไม่ได้ ไม่เข้าใจจริงๆ....
พวงมาลัย เป็น EPS-Electric Power Steering เพาเวอร์ไฟฟ้าเช่นเคย(น่าเสียดายอีกเช่นกันที่น่าจะเป็น MA-EPS ได้แล้ว) ปรับระดับได้4ทิศทาง คือ สูง-ต่ำ และ ใกล้-ไกล บนพวงมาลัยมีชุดควบคุมการทำงานของเครื่องเสียง ชุดเชื่อมต่อโทรศัพท์ - Bluetooth และ Siri และชุดควบคุมความเร็วอัตโนมัติ(cruise control) เบาะนั่งยังคงเป็นแบบปรับด้วยมือเช่นเคย (รถราคาระดับนี้ไม่ปรับด้วยไฟฟ้าก็ไม่เสียหายอะไรครับ)
กระจกมองข้างเป็นแบบปรับและพับด้วยไฟฟ้า ไม่ต้องพับเองอีกต่อไป กดปุ่มเดียวอยู่ ทางด้านหลังก็นั่งสบายครับ รถคันนี้เดินทางไป 5 คน ข้างหลังนั่ง 3 คน ยังสบายๆครับ ไม่อึดอัดมาก เนื้อที่ด้านหลังมีให้เยอะพอสมควร เนื่องจากฮอนด้าเค้าขยายฐานล้ออกไปอีก เลยได้ที่ว่างเพิ่มขึ้นมาอีก นั่งสบายขึ้น เบาะกลังพับลงได้ แยกซ้ายขวา 60/40 ที่ท้าวเเขนตรงกลางดึงลงมาก็จะมีที่วางแก้วให้ด้วย ที่สำคัญ ที่นั่งด้านหลังมาคราวนี้ฮอนด้าเอาใจผู้ติดสมาร์ทโฟนอย่างเราๆด้วยการให้ช่องจ่ายไฟมาให้ 2 จุดที่ด้านหลัง เล่นกันได้เพลินไม่ต้องกลัวแบตหมดเลยครับ เสียดายอีกเช่นกันที่น่าจะมีช่องเเอร์ด้านหลังมาให้ด้วย......
ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังก็จุได้เยอะครับ ลองจินตนาการหุ่นผมเอาานะ สูง180 หนักเฉียดๆ 90 เข้าไปนอนในห้องเก็บสัมภาระได้สบายๆเลย กว้างมาก แต่การที่ออกแบบมาให้มันกว้างมาก ก็ทำให้มันไปเบียดบังเนื้อที่กระจกบังลมด้านหลังซึ่งถ้าถามผม จริงๆแล้ว ผมไม่ชอบเลย ทำให้ทัศนวิสัยด้านหลังแย่ไปเลย มองอะไรได้ไม่ชัดเจน ไม่ใช่แค่ฮอนด้านะครับ แต่ค่ายอื่นๆก็เป็น บอกตรงๆไม่ชอบใจเลย แต่ทัศนวิสัยด้านหน้าด้านข้างดีมากๆครับ โปร่งดีขับสบาย ช่องเก็บของต่างๆในห้องโดยสาร มีมาให้เยอะตามสไตล์ฮอนด้านั่นแหละครับ ใครที่เคยใช้มาจะรู้ดี การเก็บเสียงในห้องโดยสารนั้นดีมากครับ เงียบจริงๆ ปรกติแล้วถ้ารถระดับนี้ วิ่งที่ 100 นี่เราจะได้ยินเสียงลมดังเข้ามาในห้องโดยสารแล้ว แต่นี่เงียบมากครับ แทบจะไม่ได้ยินเลย เอาเป็นว่าองค์ประกอบโดยรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับ ดีเกินจะเป็นรถระดับนี้ซะอีก
4.ช่วงล่าง + เบรค + ระบบความปลอดภัย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ช่วงล่างมันใจได้ทีเดียวครับ ลองขับเร็วๆก็ไม่มีอาการหวิว ไม่เหวียง ไม่โยนตัวมากค่อข้างนิ่ง มาในแบบลักษณะหนึบๆ ไม่กระด้างและไม่นุ่มจนเกินไป เสียงการทำงานของช่วงล่างก็ไม่ดังเข้ามาในห้องโดยสารด้วย ส่วนระบบเบรค งวดนี้ฮอนด้าจัดมาให้เป็น หน้าดิสก์เบรคมีช่องระบายวามร้อน หลังดรัมเบรค มาพร้อมกับ ABS+EBD ดูแล้วไม่ค่อยหล่อเท่าไหร่ แต่ยังถือว่ารับได้นะครับเพราะขนาดรถกระบะเค้าก็ใช้บรรทุกของ ก็ยังเป็นหน้าดิสก์หลังดรัมเลย ไม่เสียหายอะไรครับ เบรคหยุดดีใช้ได้เลยครับไม่อาการให้รู้สึกเลยว่า เบรคตื้นไป-ต่ำไป เบรคเบาเท้าไปหรือต้องกดเบรคแรงๆ แต่เดี๋ยวจะบอกทีหลังว่าทำไมถึงเลือกใช้เป็น ดิสก์/ดรัม อันนี้มีคำตอบครับ
ระบบความปลอดภัยที่มีมาให้นั้น เต็มสตรีมเลยครับ นอกจาก ABS+EBD แล้ว ยังมี VSA กับ HSA มาให้ ในทุกรุ่นด้วยครับ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงจะงง ว่าไอ้ VSA กับ HSA คืออะไร มีคำตอบให้ครับ ว่า VSA นั้น ย่อมาจาก Vehicle Stability Assist เป็นระบบช่วยรักษาเสถียรภาพของรถยนต์ให้กับผู้ขับขี่ ในเวลาเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ทำให้ผู้ขับขี่สามาถรควบคุมรถให้อยู่ในร่องในรอยได้อย่างปลอดภัยนะครับ
ส่วน HSA ย่อมาจาก Hill Start Assist เป็นระบบที่ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบนี้จะทำงานเมื่อรถอยู่บนทางลาดชันในขณะที่รถจะออกตัว ผู้ขับขี่ขะต้องเปลี่ยนเท้าจากเบรคไปยังคันเร่ง เพื่อที่จะออกตัว ในกรณีนี้รถก็จะไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วง แต่ระบบนี้จำทำการเบรคเอาไว้หลงจากที่เราถอนเท้าจากแป้นเบรคไป 2 วินาทีเพื่อให้เราออกตัวบนทางชันได้ง่ายขึ้นโดยที่รถจะไม่มีอาการไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วง
ในรุ่น SV ลงไปก็จะมี SRS Airbag มาให้เป็นมาตรฐาน คู่หน้าในทุกรุ่น แต่ถ้าเป็น SV+ จะได้ถุงลมเพิ่มอีก 4 จุด คือด้านข้าง คนขับและคนนั่งด้านน้า แล้วม่านถุงลมนิรภัยทั้ง 2 ฝั่งด้วย ทีนี้ผมจะบอกว่าผมเข้าใจแล้วว่าทำไมฮอนด้าถึงให้เบรคมาเป็นแบบ ดิสก์/ดรัม เพราะเค้าเพิ่มระบบความปลอดภัยมาให้เต็มสตรีมขนาดนี้ มันก็ต้องมีบ้างที่เค้าจะต้องลดต้นทุนในการผลิตออกมาบ้าง อันนี้ผมพอจะเข้าใจแลวหละครับ
ขอสรุปเลยแล้วกันนะครับว่า ฮอนด้าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวสำหรับ City ใหม่ตัวนี้ไปลองขับมาแล้วค่อนข้างประทับใจ ทำไมถึงใช้คำว่าค่อนข้าง ผมขอบอกเลยว่า ผมใช้ ACCORD มันก็มีบ้างที่จะยังสลัดความรู้สึกในการใช้งานอะไรต่างๆออกไปไม่หมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบอะไรแบบไหนยังไง ผมคิดว่าถ้าใครสนใจรถรุ่นนี้แล้วผมบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
แต่....ขอบอกว่า ถ้าจะซื้อทั้งที กรุณาไปลองขับด้วยตัวเองเลยครับ จะได้รู้ว่าเราชอบไม่ชอบยังไงเอาตัวคนใช้เองเป็นบรรทัดฐานครับ อย่างฟังอย่างเดียวต้องไปลองเองนะครับ ^^
[CR] [รีวิว]Test Drive City 2014
"เอาหละคับ เราจะมาเริ่มรีวิว Test drive 2014 Honda City กันซะทีนะครับ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคุณเพื่อน(ผมเบิร์ด จขกท+แฟน) ที่มาปรึกษาเรื่องจะซื้อรถ เลยได้ไปทดสอบและทดลองขับมาเมื่อวานนี้ และที่สำคัญขอขอบคุณเซลล์ ใหม่ เพื่อนเซลล์ของไอ้ 2 คนข้างบนที่กล่าวถึงไป ดูแลเพื่อนอย่างดีบริการอย่างดี สนใจซื้อ/ทดลองขับ/จอง ติดต่อได้ที่โชว์รูมฮอนด้าบางกอกน้อยติดต่เซลล์ใหม่ได้เลยนะครับ บอกไปเลยว่า เพื่อนเติ้งกับเพื่อนเบิร์ดแนะนำมา
เอาหละครับมาเริ่มกันเลย รถที่ที่ลองขับคือรุ่น SV นะครับ แต่ที่จะซื้อคือ SV+
1.รูปทรงมิติภายนอก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.การขับขี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3.ห้องโดยสาร - อุปกรณ์ภายใน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4.ช่วงล่าง + เบรค + ระบบความปลอดภัย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอสรุปเลยแล้วกันนะครับว่า ฮอนด้าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวสำหรับ City ใหม่ตัวนี้ไปลองขับมาแล้วค่อนข้างประทับใจ ทำไมถึงใช้คำว่าค่อนข้าง ผมขอบอกเลยว่า ผมใช้ ACCORD มันก็มีบ้างที่จะยังสลัดความรู้สึกในการใช้งานอะไรต่างๆออกไปไม่หมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบอะไรแบบไหนยังไง ผมคิดว่าถ้าใครสนใจรถรุ่นนี้แล้วผมบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
แต่....ขอบอกว่า ถ้าจะซื้อทั้งที กรุณาไปลองขับด้วยตัวเองเลยครับ จะได้รู้ว่าเราชอบไม่ชอบยังไงเอาตัวคนใช้เองเป็นบรรทัดฐานครับ อย่างฟังอย่างเดียวต้องไปลองเองนะครับ ^^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น