เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหนึ่งกับเดียว (รวมถึงเจ้าตัวน้อยในท้องของเดียว) มีโอกาสได้ไปงานแต่งงานของเพื่อนรักของเราคนหนึ่ง ซึ่งจัดขึ้นที่ริมชายหาดที่พัทยาที่ Sea Sand Sun Resort and Spa (
http://www.seasandsunpty.com/index.php) ซึ่งจริงๆแล้วทั้งคู่นั้นได้จัดงานแต่งงานตามประเพณีไทยไปแล้วที่บ้านของเจ้าสาวเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาไปแล้ว งานนี้จึงถือเป็นงานเลี้ยงฉลองสมรสมากกว่า และก็ถือว่าเป็นงานแต่งงานริมชายหาดครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสไปร่วมในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าว และพิธีกรในงานด้วย ^^
ที่อยากมาเล่าให้ฟังคือความโรแมนติกที่เกิดขึ้นในงานวันนั้น บรรยากาศริมชายหาดก็คงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานดูน่าสนใจและมีเสน่ห์มากขึ้น แต่ความรักและความโรแมนติกของคู่บ่าวสาวกลับมีส่วนสำคัญมากกว่าที่ทำให้เหตุการณ์ในงานวันนั้นยากที่จะลืมเลือนไปได้สำหรับคนทั้งคู่และแขกที่มีโอกาสได้ไปร่วมงาน
งานจัดขึ้นเป็นส่วนตัว มีแขกคนสนิทของทั้งคู่ที่ได้รับเชิญราวร้อยคนได้ การตกแต่งและธีมของงานถูกจัดขึ้นเอาใจเจ้าสาวในสไตล์ Gastby (
http://goo.gl/gEJuCl) ริมชายหาด ไม่เว้นแม้แต่แขกที่มาร่วมงานก็ถูกเชิญให้แต่งตัวแนว Gastby กันมาด้วย
งานเริ่มขึ้นด้วยการเชิญแขกผู้มีเกียรติในงานมานั่งบริเวณซุ้มสีขาวที่จัดไว้เพื่อเตรียมรอรับเจ้าสาว โดยมีเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าบ่าว ยืนรอเฉกเช่นในภาพยนต์ต่างประเทศที่เราเห็นกันบ่ิอยครั้ง ผมเองในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวก็อดที่จะตื่นเต้นกับพีธีการที่น่ารัก อบอุ่น และโรแมนติกเช่นนี้ไม่ได้ แต่คนที่ดูจะตื่นเต้นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเจ้าบ่าว เพื่อนของผม
และหลังจากที่เจ้าสาวเดินปรากฎตัวลงมาที่ชายหาดด้วยชุดเดรสสีขาว เจ้าบ่าวก็แทบจะทำอะไรไม่ถูก เว้นเสียแต่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะไม่สามารถหุบลงได้ง่ายๆ ขั้นตอนนี้ถูกดัดแปลงมาจากการแต่งงานในโบสถ์ของชาวคริสต์ ต่างกันก็ตรงที่ไม่มีบาทหลวงมาเป็นผู้นำในพิธีก็เท่านั้น ก่อนทำการแลกแหวน ก็มีการกล่าวความในใจต่อกันและกัน และฉากนี้เองที่ทำให้เจ้าบ่าวเพื่อนผมถึงกับน้ำตาไหลในขณะที่กำลังพูดความรักที่เค้ามีต่อผู้หญิงที่เค้ารัก และประโยคหนึ่งที่ผมร็สึกประทับใจก็คือ "ของขวัญที่จะให้ในวันนี้ คือชีวิตที่เหลืออยู่จากนี้ที่จะคอยดูแลกันและกันให้ดีที่สุดและตลอดไป..."
เมื่อพิธีการแลกแหวนในช่วงแรกเสร็จสิ้นก็เป็นการเชิญแขกผู้มีเกียรติรับประทานอาหารซึ่งจัดขึ้นแบบบุฟเฟต์ โต๊ะยาวสองฝั่ง และโต๊ะ VIP ถูกจัดวางให้เข้ากับบรรยาศเป็นอย่า่งดี และเมื่อได้เวลา ก็เป็นพิธีการในช่วงที่สองซึ่งผมก็ได้มีโอกาสทำหน้าที่พิธีการฝ่ายชาย โดยมีเพื่อนของเจ้าสาวทำหน้าที่พิธีการฝ่ายหญิง สคริปต์และลำดับขั้นตอนถูกวางไว้อย่างกระชับและเป็นกันเอง มีการฉายวิดีโอของงานแต่งงานแบบไทยให้แขกในงานได้ชม และก็ตามด้วยการเชิญเจ้าบ่าวและเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีเพื่อทำการสัมภาษณ์และเล่นเกมส์นอกสคริปต์สักเล็กน้อยเพื่อให้บรรยากาศดูสนุกสนานมากขึ้น จากนั้นจึงปิดท้ายด้วยคำอวยพรจากญาติผู้ใหญ่ คนสนิท และเพื่อนรักจากทั้งสองฝ่ายสลับผลัดเปลี่ยนกันกล่าว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผมด้วย งานนี้เลยได้ทำหน้าที่หลายอย่างซึ่งผมเองก็ดีใจและเต็มใจทำให้เพื่อนรักของผมเช่นกัน
งานเลี้ยงจบลงด้วยการถ่ายภาพรวม เสียงเพลง เต้นรำ และที่ขาดไม่ได้ก่อนกลับ เพื่อนๆเจ้าบ่าวเลยจัดให้เจ้าบ่าวได้เปียกน้ำสมใจ (สุดท้ายก็โดนกันหมดทุกคน ^^) จะได้จำได้ว่างานแต่งงานริมชายหาดครั้งนี้ แสนจะสนุก ประทับใจ และมีความสุขมากเพียงใด....
ขอขอบคุณ และแสดงความยินดีกับบ่าวสาว (เบสและปอ) อีกครั้งด้วยนะครับ
งานแต่งงานริมชายหาดที่โรแมนติกที่สุดงานหนึ่ง
ที่อยากมาเล่าให้ฟังคือความโรแมนติกที่เกิดขึ้นในงานวันนั้น บรรยากาศริมชายหาดก็คงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานดูน่าสนใจและมีเสน่ห์มากขึ้น แต่ความรักและความโรแมนติกของคู่บ่าวสาวกลับมีส่วนสำคัญมากกว่าที่ทำให้เหตุการณ์ในงานวันนั้นยากที่จะลืมเลือนไปได้สำหรับคนทั้งคู่และแขกที่มีโอกาสได้ไปร่วมงาน
งานจัดขึ้นเป็นส่วนตัว มีแขกคนสนิทของทั้งคู่ที่ได้รับเชิญราวร้อยคนได้ การตกแต่งและธีมของงานถูกจัดขึ้นเอาใจเจ้าสาวในสไตล์ Gastby (http://goo.gl/gEJuCl) ริมชายหาด ไม่เว้นแม้แต่แขกที่มาร่วมงานก็ถูกเชิญให้แต่งตัวแนว Gastby กันมาด้วย
งานเริ่มขึ้นด้วยการเชิญแขกผู้มีเกียรติในงานมานั่งบริเวณซุ้มสีขาวที่จัดไว้เพื่อเตรียมรอรับเจ้าสาว โดยมีเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าบ่าว ยืนรอเฉกเช่นในภาพยนต์ต่างประเทศที่เราเห็นกันบ่ิอยครั้ง ผมเองในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวก็อดที่จะตื่นเต้นกับพีธีการที่น่ารัก อบอุ่น และโรแมนติกเช่นนี้ไม่ได้ แต่คนที่ดูจะตื่นเต้นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเจ้าบ่าว เพื่อนของผม
และหลังจากที่เจ้าสาวเดินปรากฎตัวลงมาที่ชายหาดด้วยชุดเดรสสีขาว เจ้าบ่าวก็แทบจะทำอะไรไม่ถูก เว้นเสียแต่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะไม่สามารถหุบลงได้ง่ายๆ ขั้นตอนนี้ถูกดัดแปลงมาจากการแต่งงานในโบสถ์ของชาวคริสต์ ต่างกันก็ตรงที่ไม่มีบาทหลวงมาเป็นผู้นำในพิธีก็เท่านั้น ก่อนทำการแลกแหวน ก็มีการกล่าวความในใจต่อกันและกัน และฉากนี้เองที่ทำให้เจ้าบ่าวเพื่อนผมถึงกับน้ำตาไหลในขณะที่กำลังพูดความรักที่เค้ามีต่อผู้หญิงที่เค้ารัก และประโยคหนึ่งที่ผมร็สึกประทับใจก็คือ "ของขวัญที่จะให้ในวันนี้ คือชีวิตที่เหลืออยู่จากนี้ที่จะคอยดูแลกันและกันให้ดีที่สุดและตลอดไป..."
เมื่อพิธีการแลกแหวนในช่วงแรกเสร็จสิ้นก็เป็นการเชิญแขกผู้มีเกียรติรับประทานอาหารซึ่งจัดขึ้นแบบบุฟเฟต์ โต๊ะยาวสองฝั่ง และโต๊ะ VIP ถูกจัดวางให้เข้ากับบรรยาศเป็นอย่า่งดี และเมื่อได้เวลา ก็เป็นพิธีการในช่วงที่สองซึ่งผมก็ได้มีโอกาสทำหน้าที่พิธีการฝ่ายชาย โดยมีเพื่อนของเจ้าสาวทำหน้าที่พิธีการฝ่ายหญิง สคริปต์และลำดับขั้นตอนถูกวางไว้อย่างกระชับและเป็นกันเอง มีการฉายวิดีโอของงานแต่งงานแบบไทยให้แขกในงานได้ชม และก็ตามด้วยการเชิญเจ้าบ่าวและเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีเพื่อทำการสัมภาษณ์และเล่นเกมส์นอกสคริปต์สักเล็กน้อยเพื่อให้บรรยากาศดูสนุกสนานมากขึ้น จากนั้นจึงปิดท้ายด้วยคำอวยพรจากญาติผู้ใหญ่ คนสนิท และเพื่อนรักจากทั้งสองฝ่ายสลับผลัดเปลี่ยนกันกล่าว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผมด้วย งานนี้เลยได้ทำหน้าที่หลายอย่างซึ่งผมเองก็ดีใจและเต็มใจทำให้เพื่อนรักของผมเช่นกัน
งานเลี้ยงจบลงด้วยการถ่ายภาพรวม เสียงเพลง เต้นรำ และที่ขาดไม่ได้ก่อนกลับ เพื่อนๆเจ้าบ่าวเลยจัดให้เจ้าบ่าวได้เปียกน้ำสมใจ (สุดท้ายก็โดนกันหมดทุกคน ^^) จะได้จำได้ว่างานแต่งงานริมชายหาดครั้งนี้ แสนจะสนุก ประทับใจ และมีความสุขมากเพียงใด....
ขอขอบคุณ และแสดงความยินดีกับบ่าวสาว (เบสและปอ) อีกครั้งด้วยนะครับ