1. ใช้สิทธิ์แปลงเป็นหุ้นสามัญตอนราคาวอแรนต์ถูกๆ จะเท่ากับเราได้หุ้นสามัญมาในราคาต่ำ ไปรวมกับหุ้นเดิมที่มีอยู่ทำให้ต้นทุนเราต่ำลง
......w ที่ได้มาตามสิทธิ ถึงแม้ไม่ต้องจ่ายตังค์ แต่มันก็มีต้นทุนแฝง ขึ้นอยู่
      ก. ขายแม่มีกำไร : w ไม่มีต้นทุน = '0'
      ข. ขายแมขาดทุน : w มีต้นทุน = (จำนวนขาดทุน/w ที่ได้สิทธิ)
      ค. ยังไม่ได้ขายตัวแม่
       (i) ราคาแม่ในกระดาน > กว่าต้นทุนตัวแม่ : w ไม่มีต้นทุน
       (ii) ราคาแม่ในกระดาน < กว่าต้นทุนตัวแม่ : w มีต้นทุนแฝง = (จำนวนขาดทุน/จำนวน w ที่ได้สิทธิ)
......ต้นทุนแปลงเป็นหุ้นสามัญ : ขึ้นอยู่ต้นทุน w (รวมต้นทุนแฝง) + ค่าแปลง
......ลองคำนวนตามข้อเท็จจริง จะเห็นว่าถูกหรือไม่

2. ใช้สิทธิ์แปลงเป็นหุ้นสามัญตอนราคาวอแรนต์แพงๆ จะเท่ากับราคาขายที่สูงกว่าทำให้เราเปลี่ยนเป็นหุ้นได้จำนวนมากขึ้น ไปรวมกับของเก่า หรือมันไม่เกี่ยวกันเลย
.....จขกท คงหมายถึงมี w ในพอร์ตอยู่แล้ว ต้อนราคาแพงๆ ไม่เกียวกับต้นทุนแปลงทำให้ได้ตัวแม่มากขึ้นหรือน้อยลง สิทธิจะเป็นไป
     ตามจำนวน w ในพอร์ตได้ตัวแม่ตามอัตราส่วนแปลง
......ถ้าต้องการตัวแม่จริง ขาย w ตอนราคาแพง นำเงินไปซื้อตัวแม่ : ต้นทุน(สุทธิ)ตัวแม่ = [ราคาแม่ทที่ซื้อ - (ราคาขาย w - ต้นทุนตาม
      ข้อ 1, ถ้ามี]

3. ใช้สิทธิ์แปลงเป็นหุ้นสามัญตอนไหนก็ได้เท่ากับเราซื้อหุ้นมาในราคาที่ 3 บาท
......ถูกต้องครับ

4. อย่างนี้น่าจะเลือกตอนหุ้นตัวแม่ราคาสูงๆ เช่น สมมติว่าหุ้นตัวแม่ขึ้นไปที่ 5 บาท เราจะได้แปลงเป็นหุ้นในราคาต้นทุนที่ต่ำทำให้กำไรราคา ณ จุดนั้นมากใช่ไหมครับ
.....ถูกต้องตามหลักการ ต้องระลึกว่าจะไม่ได้ตัวแม่ทันที จะเข้าพอร์ตประมาณ 2-3 อาทิตย์อย่างเร็ว หลังวันสุดท้ายระยะเวลาให้แปลง
     และกำไร/ขาดทุน แท้จริงขึ้นอยู่ราคาแม่ในตอนนั้น

5. และการใช้สิทธิ์แปลงเป็นหุ้นทำอย่างไรครับ ติดต่อที่โบรก หรือบริษัทเจ้าของหุ้นที่เราซื้อมา
.....w ทุกๆตัวได้กำหนดระยะเวลาใช้สิทธิการแปลง ส่วนใหญ่จะเป็นเดือนสุดท้ายทุกๆไตรมาส บริษัทจะประกาศให้รับรู้ระยะเวลาแปลง
.....โบรกสามารถดำเนินเรื่องแปลงให้ ต้องสอบถามมาร์ต้องการได้เอกาสารเมื่อไร ภายในระยะเวลาที่กำหนด

ด้วยความปรารถนาดี