>>>>>>> [ หลบหนาวไปเมืองไทยแล้วไถลไปเมืองจีน ตอน 2 ]<<<<<<<

กระทู้สนทนา
ยังอยู่ที่เชียงใหม่อยู่ครับเพราะผมยังขึ้นไปเที่ยวและสักการะเจดีย์ดอยสุเทพที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ


โบสถ์และอารามมีลายละเอียดสวยงามมากแต่เสียดายอยู่ระหว่างซ่อมแซมเดยดูเกะกะตาไปหน่อย


เณรน้อยใส่หมวกไหมพรมกันหนาวหน้าตาสดใส


ตัวมอม เป็นสัตว์ในตำนาน เป็นพาหนะของเทพปัชชุนนะเทวบุตร ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งฝนในคติล้านนา  ตัวมอมมีรูปร่างคล้ายแมวผสมสิงโต ดังนั้นบุคลิกของมอม จึงดูเหมือนจะน่ากลัวแต่บางครั้งก็ดูขี้เล่น แต่สล่าหรือช่างปั้นบางท่านก็ปั้นมอม ดูคล้ายตุ๊กแก บางกิริยากระเดียดไปทางค่างก็มี


วิหารพระเจ้ากือนา ผู้สร้างพระธาตุดอยสุเทพ


แล้วก็แว๊บพาหลานเที่ยวคุ้มเสือแถวๆแม่ริมเดินชมรอบๆได้ฟรีแต่ถ้าจะไปลูกคลำยิ้ม็ต้องซื้อบัตรราคา 800 บาท


ผมเองก็ได้แต่นั่งทานอาหารอยู่ที่ริมรั้วไม่ได้เข้าไปลูบคลำเสือหรอกครับ.....กลัว


แล้วก็ยังแวะปางช้าแม่สา


ดูเหมือนชาวต่างชาติจะตื่นเต้นกับการเห็นและใกล้ชิดกับช้างมาก


สำหรับคนไทยแล้วคงไม่ตื่นเต้นมากมายเท่าไรเพราะในใจกลางเมืองหลวงอย่างกรุงเทพก็มีช้างตัวใหญ่ๆมาให้เดินลอดใต้ท้องสะเดาะเคราะห์ให้เห็นอยู่บ่อยๆ


ที่แวะชมก็อยากให้หลานชายตัวน้อยได้เห็นช้างตัวเป็นๆแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะหลานชายผมหลับตั้งแต่ลงจากรถแล้วเลยไปแอบถ่ายหลานคนอื่นมาแทน


ผมเองก็ไม่ได้เดินต่อไปไหนนั่งที่ศาลาที่อยู่ตรงข้ามกับโรงช้างปล่อยให้หลานหลับไปผมก็เก็บภาพไปเรื่อยเสียค่าบัตรเข้าชมคนละ 400 บาทได้นั่งพักในศาลาแค่นี้แหละครับ


จากเชียงใหม่บินเข้า กทม.และต่อรถยนต์ไปที่โคราชบ้านเอง (ภาษาโคราช บ้านเอง= บ้านพวกเราฟังดูแล้วงงงงเหมือนกัน) แวะที่วัดศาลาลอย
วัดศาลาลอย : เป็นวัดเก่าแก่ที่ท้าวสุรนารีสร้างขึ้นภายหลังจากรบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2370 ซึ่งได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และอนุสรณ์สถานเจดีย์บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีขึ้นภายในวัด ภายหลังที่ท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว

ที่เห็นในภาพเป็นอุโบสถหลังใหม่ ที่ได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยามปี 2516


มาที่วัดศาลาลอยเพื่อสักการะอัฐิของย่าโมครับ


พระประธานในวัด


มีโอกาสแวะร้านสวีทโฮม ร้านอาหารและไอสครีมเก่าแก่แต่กลับมีขนมอร่อยๆขายจนโด่งดังกลายเป็นของฝากจากโคราชมาจนปัจจุบันแม้เลิกทำร้านอาหารและไอสครีมแต่ก็ยังขายขนมอร่อยอยู่


ขนมที่อร่อยขึ้นชื่อที่ผมซื้อมาฝากเพื่อนๆที่กทม.ทุกครั้งตอนผมกลับไปโคราชสมัยเป็นนักเรียนอยู่ที่ กทม.ก็คือ กาละแมและสัมปันนี ซึ่งที่นี่ใช้ใบตองห่อเป็นห่อเล็กๆกลัดเข็มกลัดไม้น่ารัก


นี่ครับภาพ สัมปันนี ที่คล้ายๆกาละแม แต่เป็นสีขาว ด้านนอกจะกรอบ ด้านในนุ่ม ที่เห็นในภาพนี่ห่อเล็กขนาดปลายนิ้วก้อยแค่นั้นขยันห่ออะไรอย่างนั้น ผมว่ารสชาติคล้ายๆขนมอาลัว (ใครรู้จักบ้างเอ่ย)


โรงแรมฟ้าไทยที่อยู่ใกล้ๆร้านสวีทโฮมที่น่าจะเป็นโรงแรมเก่าแก่มากๆของโคราชแห่งหนึ่งเพราะผมเคยเห็นตั้งแต่เด็กๆแล้ว


บริเวณรอบๆวงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม)ซึ่งมีศาลเจ้าพ่อไฟของชาวจีนอยู่ตรงข้ามด้วย


อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ที่ผมเคารพนับถือมาตั้งแต่เด็กๆ


การมาต่างจังหวัดทำให้หลานชายผมได้ทดลองกินน้ำเก็กฮวยที่มักจะมีในตู้แช่เย็นหน้าร้านขายยาทั่วไปปรากฏว่าเค้าชอบมากกินทีเดียว 3 ขวดรวด


ได้แวะซื้อน้อยหน่าลูกเท่ากำปั้นผู้ใหญ่ ตาใหญ่เนื้อแน่น หวาน อย่างไม่น่าเชื่อเพราะทีแรกคิดว่าเป็นน้อยหน่าออสเตเรียที่เนื้อด้านในเหนียวๆติดกันเป็นก้อนไม่นุ่มปุยเหมือนน้อยหน่าปุยฝ้ายทั่วไป


ได้กินมันเหน็บที่ปัจจุบันหากินได้ยาก


ได้กินทองหยิบ ฝอยทองและขนมลูกชุบ


ดูน่าอร่อยและเป็นของโปรดผมทั้งนั้นแต่ผมก็ต้องตัดใจไม่หยิบกินเพราะเกรงว่าครอเรสตอรอลจะสูงเกิน




    [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


                         ขอบคุณทุกท่านที่แวะชมอย่างลืมติดตามชมตอนต่อไปในเร็ววันนี้นะครับ อมยิ้ม17 ดอกไม้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่